FASHION
ฉลองครบรอบปีที่ 20 กับ Sex and the City ซีรี่ส์สุดแซ่บที่อยู่ในใจผู้ชมตลอดกาล
|
ภาพปก : Getty Images
Let’s Talk about SEX! ฉลองครบปีที่ 20 ของซีรี่ส์ 4 สาวแห่งมหานครนิวยอร์ก Sex and the City หรือ SATC โว้กประเทศไทยพาคุณย้อนเวลากลับไปสู่เจนเอกซ์ที่เรื่องเซ็กซ์สุดสวิงไม่ได้เป็นสิ่งต้องห้าม จิบค็อกเทลแก้วโปรด “คอสโมโพลิแทน” พร้อมฟังคำสารภาพบาป สัมผัสมิตรภาพยั่งยืน และวิเคราะห์เกมรักที่อยู่ในใจผู้ชมตลอดกาล…ใครบ้างไม่หลงรักความไม่สมบูรณ์แบบของพวกเธอ
The Meaning of Sex and the City
ตัวละครแคร์รี่ แบรดชอว์ ในชุดกระโปรงสั้นสไตล์บัลเลต์ผ้าทูลล์จับคู่กับบอดี้สูทสีชมพูอ่อน ภาพจำในทุกเครดิตเปิดเรื่อง /
ภาพ : Getty Images
“Welcome to the age of un-innocence, No one has breakfast at Tiffany’s, and no one has affairs to remember” (ขอต้อนรับสู่วัยไม่ไร้เดียงสา ไม่มีใครได้กินอาหารเช้าที่ทิฟฟานี และไม่มีใครมีความรักที่ควรค่าแก่การจดจำ) ประโยคคลาสสิกจากคอลัมนิสต์สาว หนึ่งในตัวละครจาก SATC เปรียบเหมือนกระจกสะท้อนชีวิตของผู้คนที่เข้ามาตามฝันในเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์ก การวิ่งตามความสำเร็จด้านหน้าที่การงาน และการมองหา Mr.Right ในชีวิตจริง นี่คือสูตรสำเร็จของพลอตเรื่องโรแมนติกคอมมิดี้ที่ครองใจคนดูมาตลอด 2 ทศวรรษ
SATC เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนในปี 1998 ทางช่อง HBO เป็นเรื่องราวความสนุกชุลมุนวุ่นวายของ 4 สาววัย 30 อัพ ประกอบด้วย Miranda Hobbes (Cynthia Nixon) ทนายความผู้ยืนหยัดบนโลกแห่งความจริง Samantha Jones (Kim Cattrall) พีอาร์ผู้ไม่เชื่อในรักแท้ Charlotte York (Kristin Davis) ภัณฑารักษ์สาวที่ชีวิตต้องเดินตามสูตรสำเร็จเท่านั้น และ Carrie Bradshaw (Sarah Jessica Parker) คอลัมนิสต์สาวที่ฉลาดทันโลก พวกเธอต่างพบเจอปัญหาต่างๆ ต้องพิสูจน์ตัวเองผ่านการลองผิดลองถูกในทุกด้านของการใช้ชีวิต ปฏิเสธไม่ได้ว่าความอลเวงที่เกิดขึ้นนี้ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่บนหน้าจอ ทั้งการพูดถึงเรื่องเซ็กซ์อย่างโจ่งแจ้ง มุมมองเฟมินิสม์ หรือแม้กระทั่งในอุตสาหกรรมบันเทิงฮอลลีวู้ดที่ผู้หญิงขึ้นมารับบทนำอย่างยิ่งใหญ่
“ผมคิดว่าสิ่งที่ทำให้ซีรี่ส์เรื่องนี้ส่งแรงสั่นสะเทือนโดนใจคนดูคือเราต่างมีประสบการณ์แบบเดียวกับตัวละคร เราจะเป็นคนโสดแบบไหนดีในโลกที่สังคมมองว่าคนประเภทนี้เป็นโรคเรื้อน” Michael Patrick King โปรดิวเซอร์ใหญ่และผู้เขียนบทกล่าว
จากซ้ายไปขวา : Carrie Bradshaw นำแสดงโดย Sarah Jessica Parker, Miranda Hobbes นำแสดงโดย Cynthia Nixon, Charlotte York นำแสดงโดย Kristin Davis และ Samantha Jones นำแสดงโดย Kim Cattrall / ภาพ : Getty Images
Sex and the City มีจุดเริ่มต้นจากคอลัมน์ดังในหนังสือพิมพ์ New York Observer จากปลายปากกาของ Candace Bushnell ซึ่งสร้างสูตรสำเร็จจากหนังสือสู่จอทีวีที่ว่าด้วยเรื่องเซ็กซ์และความรัก มุกตลกร้ายแต่คมคาย และแดกดันชีวิตสาวโสดในเมืองใหญ่ได้อย่างถึงแก่น
“ตอนที่ฉันเขียนคอลัมน์ว่าด้วยชีวิตจริงของสาวโสดวัย 30 มันเหมือนเป็นการปฏิวัติประสาทสัมผัสและการรับรู้ของผู้หญิงเลยนะ ฉันย้อนกลับไปอ่านคอลัมน์ที่ตัวเองเขียนหลายรอบ ฉันพบว่านี่คืออารมณ์ขันตลกสัปดนของผู้หญิงด้วยกันเอง ซึ่งในตอนนั้นมันเป็นไอเดียที่สดใหม่และแทบจะไม่มีทีวีโชว์ที่นำเสนอเรื่องของผู้หญิงโจ่งแจ้งแบบนี้” คอลัมนิสต์สาวผู้ส่งต่อประสบการณ์ในชีวิตจริงผ่านตัวละครหลักอย่างแคร์รี่กล่าว ซึ่งตอนนั้นแทบไม่มีใครเชื่อว่า Sex and the City จะชนะใจคนดูได้ยาวนาน หลังจากผ่านช่วงฮือฮาในปีแรก และยืนหยัดมอบความบันเทิงจนนำไปสู่การออกอากาศอย่างต่อเนื่องถึง 6 ปีเต็ม
ทำไม Sex and the City ยังคงได้รับความนิยมแม้จะผ่านมาแล้วถึง 20 ปี! โลกแอนะล็อกเดินทางสู่วิถีดิจิทัล รายการทีวีมีช่วงเวลาที่เปลี่ยนไปจึงเป็นที่มาของคำว่า “ล้าสมัย” ถ้าเราตัดเรื่องของแฟชั่นและสไตล์ออกไป แล้วมองให้ลึกซึ้งถึงแก่นการใช้ชีวิต ตัวละครอย่างซาแมนทาที่ดูเหมือนนักปฏิวัติในตอนนั้นกลับสร้างแรงบันดาลใจมากมายในเรื่องของเสรีภาพและการใช้ชีวิตโดยปราศจากความรู้สึกผิดใดๆ
WATCH
คู่พระนางเจ้าของความสัมพันธ์กระท่อนกระแท่นที่รักๆ เลิกๆ กันตั้งแต่ซีรี่ส์ตอนแรกถึงหยดสุดท้าย /
ภาพ : Getty Images
เมื่อลองสำรวจผู้ชมในยุคมิลเลนเนียล เป็นไปได้ว่าคนรุ่นใหม่อาจกำลังตั้งคำถามถึงเพศและเพศสภาพ เนื่องจากเติบโตมาในสังคมที่มีความตื่นตัวเรื่องนี้ เช่น ในตอนหนึ่งแคร์รี่บอกเลิกแฟนหนุ่มที่เป็นไบเซ็กชวลและค่อนแคะว่าการชอบทั้ง 2 เพศคือ “หนทางสู่การเป็นเกย์นั่นแหละ” หรือในซีซั่นที่ 3 เมื่อซาแมนทาใช้สำนวนแสดงถึงการดูหมิ่นเพศที่ 3 เมื่อพูดถึงเพื่อนบ้านของเธอว่า “กลางวันเก๋ กลางคืนตุ๊ด” หรือความโด่งดังของ #WOKECHARLOTTE แฮชแท็กดังในโลกออนไลน์จากไอเดียของผู้ใช้อินสตาแกรมคนหนึ่งนาม @everyoutfitonsatc ที่จุติมาเพื่อมาปรับทัศนคติไม่เข้าท่าของสาวๆ SATC ในช่วงปลายยุค 1990 ให้ทันยุคทันสมัยโดยผ่านตัวละครอย่างชาร์ลอตต์ซึ่งรับหน้าที่เตือนสติเพื่อนสาวในแก๊งให้เข้าใจว่าเราไม่ได้เป็นอภิสิทธิ์ชน...และทุกคนเท่าเทียมกัน
ถึงแม้ว่าละครคอมมิดี้ที่มีตัวละครนำเป็นผู้หญิงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรนักถ้าเช็กจากลิสต์ผู้สร้างละครมาก่อนหน้านี้ อาทิ Mary Tyler Show, I Love Lucy หรือ Cagney & Lacey และ Roseanne ซึ่งต่างนำเสนอเรื่องราวของตัวละครที่ต่อสู้ดิ้นรนในฐานะและบทบาทของผู้หญิงเช่นกัน แต่ Sex and the City เปิดตัวด้วยประเด็นใหม่โดยเฉพาะเรื่องเซ็กซ์ แฟนตาซีบนเตียง เซ็กซ์ทอย และการถึงจุดสุดยอดแบบหลอกๆ ผ่านฉากพูดคุยติดตลกของ 4 ตัวละครหลัก ให้คนดูได้อินและสนุกไปกับเรื่องวี้ดว้าย ในขณะเดียวกันก็เป็นการตีแผ่ความจริง เพราะก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีซีรี่ส์โรแมนติกคอมมิดี้เรื่องไหนที่ให้ความสนใจเรื่องการเข้าใจผิดระหว่างผู้ชายและผู้หญิง
“นักวิจารณ์บางกลุ่มมองว่า Sex and the City ตื้นเขินและไร้สาระ นั่นอาจเป็นเพราะยังไม่เข้าใจจริงๆ ว่าซีรี่ส์เรื่องนี้ทำหน้าที่อย่างไรต่อวัฒนธรรมในสังคม นี่คือการเล่าเรื่องราวของผู้หญิงในอีกรูปแบบที่แตกต่างจากเดิม ในขณะที่เราพูดถึงสตรีนิยม คำมั่นสัญญาที่ไม่มีอยู่จริง สาวๆ ในเรื่องกลับมีเงินเป็นของตัวเองและสร้างตัวตนของตัวเองขึ้นมา โดยรู้ดีว่าผู้ชายไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับเธอ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังโลดแล่นอยู่ในเทพนิยายของตัวเอง Sex and the City แบกภาระอันยิ่งใหญ่ของความรับผิดชอบที่ต้องเป็นแบบอย่าง” Janet McCabe อาจารย์วิชาภาพยนตร์ศึกษาที่ Trinity College Dublin และเจ้าของงานเขียนหนังสือเรื่อง Reading Sex and the City กล่าว
ซีรี่ส์ Sex and the City ชูโรงเรื่องความสัมพันธ์ของแก๊งเพื่อนสาวเป็นสำคัญ
นอกจากนี้ SATC ยังเป็นต้นแบบให้ซีรี่ส์รุ่นใหม่ ปี 2012 ซีรี่ส์เรื่อง Girls ของ Lena Dunham ออกอากาศครั้งแรกทางช่อง HBO และถูกนำมาเปรียบเทียบอย่างเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากมีการนำเสนอเนื้อหาคล้ายๆ กันว่าด้วยชีวิตของเพื่อนสาวบุคลิกแตกต่างกัน 4 คนที่ตามล่าหาความฝันในมหานครนิวยอร์ก กระแสดังกล่าวยังเป็นที่มาของการหยิบยกวาทกรรมอันหลากหลายมาเป็นประเด็นที่น่าสนใจในสังคมวงกว้าง การนำเสนอเรื่องราวของผู้หญิงโสดในยุคร่วมสมัยได้อย่างตรงไปตรงมา ทั้งเรื่องแฟชั่น เพศ ขำขันสไตล์ผู้หญิง และสตรีนิยมคลื่นลูกที่ 3 (Third Wave Feminism) “Sex and the City ช่วยให้ความลังเล ความสงสัยใดๆ รวมไปถึงความปรารถนาของผู้หญิงเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ หรืออย่างน้อยที่สุดก็ช่วยสร้างความมั่นใจ” Margo Jefferson เขียนไว้ใน The New York Times
มิตรภาพอันแสนโรแมนติกระหว่างแก๊งเพื่อนสาวคือตัวชูโรงของ Sex and the City เหตุการณ์ต่างๆ แสดงให้เห็นถึงหนทางเยียวยาของทุกบาดแผลที่เกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าผู้หญิงจะเจอปัญหาหนักแค่ไหน แต่ความผูกพันและมิตรภาพระหว่างเพื่อนเป็นสิ่งที่ไม่มีวันแตกสลาย ความเห็นอกเห็นใจและการสนับสนุนจากเพื่อนช่วยดึงสติกลับมาให้พร้อมรับมือกับทุกเหตุการณ์ หลังจากนี้การพูดคุยถึง Sex and the City จะไม่ใช่บทสนทนาที่ว่าด้วย “เรื่องแย่ๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับฉัน” แต่จะนำไปสู่การถกเถียงเรื่องจิตวิญญาณและการมีจุดยืนของผู้หญิงจากรุ่นสู่รุ่น
Sex & Style
ซาราห์ เจสสิก้า พาร์เกอร์ ในบทบาทของ แคร์รี่ แบรดชอว์ ตัวละครเอกในซีรี่ส์เรื่อง Sex and the City
แฟชั่นและสไตล์ของตัวละครใน Sex and the City มอบแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงทั่วโลก ทั้งนี้ต้องขอบคุณ Patricia Field สไตลิสต์เจ้าของผลงานลุคสวยของ 4 สาวต่างคาแร็กเตอร์ งานของเธอมีจุดเด่นด้านสไตล์ที่ปรับใช้ได้ในชีวิตจริง แฟนซีรี่ส์ทุกคนต่างจดจำรองเท้าคู่สวยยี่ห้อ Manolo Blahnik กระเป๋าสะพาย Fendi รุ่น Baguette ที่เปรียบได้กับไอเท็มเด็ด “ของมันต้องมี!” และลุคแฟนซีของสาวแคร์รี่ที่พานางเอกสาวซาราห์ เจสสิก้า พาร์เกอร์ทะยานสู่บัลลังก์แฟชั่นไอคอน
“แคร์รี่เป็นตัวละครที่ไม่ได้มีคาแร็กเตอร์ชัดเจนเหมือนทุกวันนี้ ซึ่งแตกต่างจากตัวละครอื่นที่มีอัตลักษณ์เด่นชัด ฉันคิดว่าเธอเป็นตัวละครที่มีพัฒนาการตามกาลเวลา โดยส่วนหนึ่งเป็นการทำงานกับซาราห์ เจสสิก้า พาร์เกอร์เพื่อสร้างคาแร็กเตอร์ให้เติบโตไปด้วยกัน” สไตลิสต์ชื่อดังเล่าย้อนถึงการทำงานที่เริ่มตั้งแต่นัดฟิตติ้ง พูดคุยกับนักแสดงเกี่ยวกับบทที่ได้รับ “ทุกคนต่างมีความต้องการและความรู้สึกที่ชัดเจน และงานนี้ไม่ได้ง่ายเหมือนเล่นแต่งตัวให้ตุ๊กตากระดาษ”
ย้อนกลับไปในปี 2000 งานสร้างสรรค์ของแพทริเชียปลุกกระแสให้คนสนใจแฟชั่นใน SATC ด้วยเทรนด์ Flower fever ดอกไม้ประดับเสื้อไซซ์เบิ้มของแคร์รี่ในซีซั่น 3 ต่อด้วย Saddle Bag กระเป๋าสะพายรุ่นอานม้าจาก Dior ที่ช่วยทวีความนิยมอย่างต่อเนื่อง “ตอนนี้สาวๆ นึกถึงดิออร์ก็จะนึกถึง Sex and the City โดยเฉพาะฉากที่แคร์รี่ใส่เสื้อยืดพิมพ์ลาย J’adore Dior” Maria Grazia Chiuri ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ประจำแบรนด์เปรยถึงแรงบันดาลใจของงานเก่าเล่าใหม่ภายใต้แฟชั่นเฮาส์หรูประจำแดนน้ำหอม และที่มาของการชุบชีวิตหลากชิ้นสำคัญให้กลับมาโลดแล่นบนรันเวย์อีกครั้ง ภายใต้แนวคิดพลังสตรีผ่านแฟชั่น
สไตล์ของตัวละครเอก แคร์รี่ แบรดชอว์ กลายเป็นต้นแบบในสาวๆ แฟชั่นทั่วโลกสนุกมนานกับการมิกซ์แอนด์แมตช์ /
ภาพ : Getty Images
ปฏิเสธไม่ได้ว่า Sex and the City คือหนึ่งในแกนนำเรื่องเฟมินิสม์ ยกตัวอย่างตอนที่แคร์รี่ซื้อรองเท้า Jimmy Choo และหนุ่มนักการเมืองชมว่าเธอเซ็กซี่ แต่เธอกลับไม่ได้ยินดีกับคำชมนี้นัก เพราะเธอไม่ได้ใส่เพื่อให้ผู้ชายมาชื่นชมหรือประทับใจ แต่การซื้อรองเท้าส้นสูงหมายถึงการให้รางวัลตัวเอง หรืออย่างตอนที่ซาแมนทาเปิดกระเป๋าหนังเทียมสีทองของ Fendi เพื่อโชว์ถุงยางอนามัยกับแก๊งเพื่อนสาว เธอไม่ได้เตรียมมาเพื่อเอาใจผู้ชายคนไหนเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีประเด็นว่าด้วยเรื่องเดรสสีนู้ดที่นางเอกสาวของเราสวมในซีซั่นแรก จนเป็นที่มาของการตั้งคำถามว่า “อาภรณ์ประเภทนี้ใช้เพื่อการยั่วยวนอารมณ์ทางเพศหรือไม่”
ถึงแม้ว่าข้อถกเถียงนี้ยังไม่มีข้อสรุป และเวลาก็เดินไปข้างหน้านับทศวรรษแล้ว หากเดรสสีนู้ดยังคงได้รับความนิยมจนถึงทุกวันนี้ บนจุดยืนเดียวกันของผู้หญิง พวกเธอใส่เพื่อแสดงความมั่นใจ ไม่ใช่การยอมจำนนต่อผู้ชาย เหมือนกับที่แคร์รี่ลุกขึ้นบอกว่าเธอกล้ากำหนดชะตาชีวิตของตัวเอง ที่สำคัญเธอคือผู้ควบคุมเรื่องเล่าของตัวเองผ่านคำว่า “แฟชั่น!”
WATCH