'Down to the Earth' วลีอมตะสะท้อนการย้อนกลับสู่ความเรียบง่ายที่ไม่ธรรมดาของ Schiaparelli
Daniel Roseberry กำลังรังสรรค์คอลเล็กชั่นที่สามารถสร้างโลกใบใหม่อันแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ให้กับ Schiaparelli
หากใครมีโอกาสติดตามชมโชว์สเกียปาเรลลี คอลเล็กชั่นโอตกูตูร์ฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2022 จะทราบกันดีว่าแดเนียลดึงเอาแรงบันดาลใจจากดวงดาวในระบบสุริยะจักรวาลมารังสรรค์ขึ้นเป็นเสื้อผ้าตัดเย็บชั้นสูง วิธีการถ่ายทอดงานฝีมือผ่านรูปทรงเสื้อผ้าอันมีเอกลักษณ์นั้นโดดเด่น และยิ่งในสถานะผู้เปิดโอตกูตูร์แฟชั่นวีกซีซั่นนี้อย่างเป็นทางการ ก็เรียกว่าเขาทำได้อย่างไร้ที่ติ สาธยายกันมาสักพักหนึ่งหลายคนคงยิ่งสงสัยว่าแล้วความประณีตเช่นนี้จะสอดคล้องกับวลี “Down to the Earth” อย่างไร
ความสำคัญแรกที่แดเนียลเลือกสื่อสารคือสี เพราะเขาตัดเอาโทนสีอื่นออกมาทั้งหมดเหลือเพียงสีดำ ขาว และทอง อันเป็นสีหลักของแบรนด์เท่านั้น ส่วนต่อมาคือแพตเทิร์นตั้งต้น ทุกคนจะเห็นกลิ่นอายงานเทเลอริ่งเนี้ยบกริบสอดแทรกอยู่ในคอลเล็กชั่นนี้ตั้งแต่ช่วงแรก เสื้อแจ๊กเก็ตที่มีลักษณะคล้ายเบลเซอร์ถูกขึ้นแพตเทิร์นมาเป็นเสื้อตัวนอกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยใช้คู่สีขาว-ดำ ซิลูเอตของมันแสดงให้เห็นถึงความเป็นเสื้อสูทได้อย่างชัดเจน แต่รายละเอียดที่ทำให้มันเป็นงานตัดเย็บชั้นสูงคือรายละเอียดช่วงเอว หัวไหล่ รวมถึงการสร้างรูปทรงโค้งของปกที่โค้งสวย ถ่ายทอดอารมณ์ราวกับเป็นวงแหวนของดวงดาวสักดวงหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีการใช้ซิป ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ Elsa Schiaparelli ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ใช้ปฏิวัติวงการแฟชั่นเมื่อหลายทศวรรษก่อน
ความเฉียบคมของซิลูเอตถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้คอลเล็กชั่นนี้โดดเด่นขึ้นมา คำว่าเรียบง่ายไม่ได้แปลว่าต้อง “ง่าย” แต่หมายถึงการไม่มีลูกเล่นฟุ้งเฟ้อ มีแต่ความเฉียบคมที่เกิดออกมาเป็นผลลัพธ์อย่างที่ทุกคนเห็นบนรันเวย์ ทุกลุคถูกควบคุมให้อยู่ภายใต้สีเพียง 3 สีเท่านั้น รูปแบบการเข้าเอวดั่งคอร์เซตและงานประติมากรรมบนเสื้อผ้าแสดงให้เห็นถึงรายละเอียดที่ผ่านการรังสรรค์จากเทคนิคชั้นสูง แต่ไม่ได้สร้างลุคไหนให้โดดเด่นกว่าลุคไหน ทั้งหมดเป็นเหมือนก้อนกลมผสมกลมเกลียวอย่างกลมกล่อม ซึ่งแดเนียลกำลังสื่อสารถึงความแปลกใหม่ในการหยิบจับเบสิกพื้นฐานของการทำงานตัดเย็บสุดประณีตมาตีความใหม่และสร้างเป็นผลงานเปิดปี 2022 ได้อย่างน่าสนใจ พร้อมตอกย้ำว่างานโอตกูตูร์ของเขากำลังกลับสู่โลก หรือ “Down to the Earth” ตามวลีหัวเรื่อง แต่มันไม่ใช่โลกธรรมดาแต่เป็น “Planet Schiaparelli” หรือโลกแห่งสเกียปาเรลลีที่ถึงแม้จะเริ่มต้นจากความสามัญสู่งานระดับมาสเตอร์พีซ แต่มันก็สะท้อนให้เห็นว่าความสามัญของแบรนด์นั้นแตกต่างและไม่มีทางเหมือนโลกใบไหนๆ อย่างแน่นอน
WATCH
WATCH