เจาะลึกเรื่องสูทจาก Saint Laurent Men ที่หวนนึกถึงลุคไอคอนิกตลอดกาลของ Yves Saint Laurent

     ชุดสูทและงานเทเลอริ่งคือหัวใจสำคัญของแฟชั่นของเหล่าบุรุษในทุกยุคทุกสมัย การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดหน้าประวัติศาสตร์ มีการปรับแต่งซิลูเอต แพตเทิร์น และรายละเอียดต่างๆ อยู่ไม่น้อยตามสมัยนิยม หรือห้องเสื้อบางแห่งก็รักษาอัตลักษณ์และเอกลักษณ์เอาไว้อย่างเหนียวแน่น สำหรับแบรนด์อย่าง Saint Laurent ที่นำเสนอความโดดเด่นของสูทสำหรับคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าบุรุษเองก็มีวิวัฒนาการการออกแบบงานเทเลอริ่งเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง ทว่าเมื่อวันหนึ่งถึงจุดหักเลี้ยวแห่งการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง แบรนด์เลือกที่จะหยิบยกเอากลิ่นอายแฟชั่นแบบยุคเก่ามาเล่าใหม่ด้วยมิติความล้ำลึกที่คลุกเคล้าไปกับเรื่องราวในประวัติศาสตร์

Yves Saint Laurent สวมสูทนั่งโต๊ะทำงาน ลุคและอิริยาบถไอคอนิกประจำตัวของดีไซเนอร์ระดับตำนานผู้นี้ / ภาพ: DW

     Anthony Vaccarello หัวเรือใหญ่ของแบรนด์กำลังพาทุกคนท่องไปในโลกแห่งงานเทเลอริ่งกับคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าบุรุษ ฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2024 รูปแบบผลงานครั้งนี้เหมือนชวนผู้ชมทุกคนหลุดไปในช่วงยุค 1980s กับสูทที่มีโครงไหล่แต่ก็ผสมผสานกับแพตเทิร์นของเสื้อและกางเกงที่มีความทิ้งตัวเป็นธรรมชาติคล้ายงานแบบ ‘Soft Tailoring’ การผสมผสานครั้งนี้ให้ความรู้สึกเหมือนโลก 2 ใบจาก 2 ทิศทางในวงการซาร์ทอเรียลมาปะทะและม้วนเกลียวเข้าหากันได้อย่างน่าสนใจ แต่สิ่งที่ทำให้สะดุดตายิ่งกว่าคือการสไตลิ่งชุดที่ทำให้รู้สึกเหมือนการเจาะเข้าสู่ห้วงเวลาทองของ Yves Saint Laurent ดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งและสร้างรากฐานสำคัญให้กับแบรนด์

Yves Saint Laurent กับการสวมสูทกระดุม 2 แถวสีคลาสสิก ลุคอมตะเหนือกาลเวลาที่ทุกคนจดจำ / ภาพ: Mason Betley

     เพียงแค่ลุคแรกปรากฏโฉมบนรันเวย์ ผู้ชมทั้งหลายก็รู้สึกหวนนึกถึงแฟชั่นส่วนตัวของอีฟที่โปรดปรานการสวมสูทผูกไทเสมอมา ความไอคอนิกนี้ถูกเล่าซ้ำอีกครั้งบนรันเวย์ผ่านหลายต่อหลายลุค โดยเฉพาะกับลุคสูทกระดุม 2 แถวที่สไตลิ่งเข้ากับแว่นตากรอบดำ มันชวนนึกถึงรสนิยมด้านแฟชั่นผสมผสานกับกลิ่นอายความล้ำลึกของผู้ก่อตั้งแบรนด์โดยแท้ อีกทั้งลุคทั้งหลายยังเป็นโทนสีเข้มคลาสสิกอย่างสีดำ สีเทา และสีกรมท่า ซึ่งถือเป็นสีพื้นฐานและเป็นอมตะของงานสูทตลอดมาและจะเป็นตลอดไป อีฟสร้างสรรค์ลุคการเป็นดีไซเนอร์ผ่านรูปแบบแฟชั่นที่วิ่งแยกเลนกับเส้นทางกาลเวลา เพราะไม่ว่าจะกี่ปีลุคของเขายังคงได้รับการจดจำและเป็นดั่งแรงบันดาลใจให้สุภาพบุรุษทั่วโลก

     สิ่งที่ทำให้เห็นถึงรายละเอียดแฟชั่นยุคเก่าซึ่งอนุมานได้ว่าพูดถึงรสนิยมการสวมสูทของอีฟคือรายละเอียดของผลงานที่ไม่ได้สรรสร้างแพตเทิร์นสูทตามยุคสมัย แต่กำลังมุ่งย้อนกลับสู่ความเก่าอันมีสไตล์จากยุค 1980s หรืออาจจะย้อนลึกไปถึงยุค 1970s เลยด้วยซ้ำ เราจะเห็นว่าลุคที่นายแบบสวมแว่นตาลักษณะคล้ายลุคของอีฟนั้นจะมาพร้อมกับสูทกระดุม 2 แถว แพตเทิร์นปกแหลมและมีความยาวคลุมสะโพกแบบคลาสสิก มันไม่ได้ถูกแต่งแต้มด้วยรายละเอียดเพิ่มเติมหรือปรับแต่งโครงสร้างจนสูญเสียเอกลักษณ์ตรงนี้ไปเท่าไหร่นัก และถ้าหากเจาะลึกไปถึงรายละเอียดของสูทจะพบว่าตำแหน่ง Lapel Gorge หรือช่องตัดระหว่างปกด้านบนเชื่อมถึงท้ายทอยกับปกแหลมบริเวณหน้าอกนั้นค่อนข้างต่ำ บ่งบอกถึงสูทตามสมัยนิยมยุคนั้นได้เป็นอย่างดี อีกจุดหนึ่งคือสูทกระดุม 2 แถวที่มีแพตเทิร์นการกลัดกระดุมแบบ 6x1 กล่าวคือการกลัดกระดุมเม็ดล่างสุดเพียงเม็ดเดียว ซึ่งคนส่วนใหญ่จะคุ้นชินกับการกลัดเม็ดกลางเสียมากกว่า โดยรายละเอียดตรงนี้สามารถสร้างรูปทรงของสูทให้แตกต่างไปจากเดิม และถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญของสูทยุคหลายทศวรรษก่อนที่ปัจจุบันเสื่อมความนิยมไปไม่น้อย ทว่าจากรันเวย์นี้เราอาจจะได้เห็นแพตเทิร์นนี้กลับมาอีกครั้ง และมันเป็นดั่งสิ่งรำลึกถึงอีฟโดยสมบูรณ์