แรงบันดาลใจจากคนจริง! 3 บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ LGBTQ+ ที่ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ดัง

     วงการภาพยนตร์นับเป็นอีกหนึ่งวงการที่สามารถเล่าเรื่อง และสะท้อนสังคมของกลุ่ม LGBTQ+ ได้อย่างดี ตลอดหลายปีที่ผ่านมาสัดส่วนของภาพยนตร์เกี่ยวกับ LGBTQ+ นั้นเริ่มมากขึ้น อีกทั้งยังมีบทบาทในการเป็นต้นแบบสะท้อนสังคมปัจจุบันได้อย่างน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ หลายเรื่องได้รับการเข้าชิงรางวัลสำคัญหลายรางวัล อีกทั้งยังได้ปลุกกระแสนิยมให้กับเหล่าดาราให้กลับมาโด่งดังอีกครั้งก็มี กระนั้นความน่าสนใจของกลุ่มภาพยนตร์ LGBTQ+ อีกประการยังอยู่ที่แรงบันดาลใจที่นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์ ที่หลายครั้งก็ได้แรงบันดาลใจมาจากบุคคลที่เคยมีชีวิตอยู่จริงบนหน้าประวัติศาสตร์โลก ที่ครั้งนี้โว้กได้รวม 3 บุคคล LGBTQ+ ที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์จนโด่งดังมาให้ได้รู้จักกันแล้วที่นี่...

 

ลิลี่ เอลเซ่ เอลวีนส์

จากภาพยนตร์เรื่อง The Danish Girl

เอ็ดดี้ เรดเมย์น นักแสดงชายรางวัลออสการ์ในบทบาทของตัวละครลิลี่ เอลเซ่ เอลวีนส์ จากภาพยนตร์เรื่อง The Danish Girl

 

     นับเป็นความท้าทายครั้งสำคัญของนักแสดงระดับฮอลลีวู้ดอย่าง เอ็ดดี้ เรดเมย์น หลังจากที่ชนะรางวัลออสการ์ในฐานะของนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง The Theory of Everything มาแล้ว เพียงแค่ 1 ปีให้หลัง เอ็ดดี้ก็กลับมาทำให้นักแสดงชายในวงการฮอลลีวู้ดต้องสะท้านอีกครั้ง ในบทบาทของสตรีข้ามเพศคนแรกที่ได้รับการแปลงเพศสำเร็จ อย่าง ลิลี่ เอลเซ่ เอลวีนส์ ภาพยนตร์ที่ยังคงประทับอยู่ในใจของใครหลายคนอย่าง The Danish Girl

ภาพถ่ายของ ลิลี่ เอลเซ่ เอลวีนส์ (ขวา) ขณะที่ยังใช้ชื่อว่า ไอนาร์ เวเกเนอร์ (ซ้าย) ก่อนการผ่าตัดแปลงเพศ

 

     ไอนาร์ เวเกเนอร์ ชื่อจริงเดิมของ ลิลี่ เอลเซ่ เอลวีนส์ เมื่อครั้งที่เธอนั้นยังคงใช้ชีวิตเป็นผู้ชาย เขาคือจิตรกรชาวเดนมาร์ก ที่มีตัวตนอยู่จริง ซึ่งได้รับการรู้จักในฐานะของหญิงข้ามเพศที่สามารถผ่าตัดแปลงเพศได้สำเร็จเป็นคนแรก หากใครที่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ก็จะทราบได้ว่า จุดเริ่มต้นที่ทำให้เขานั้นค้นพบตัวเองคือ เหตุการณ์ที่เขาได้เริ่มเป็นแบบวาดรูปให้กับภรรยาของเขา การได้สวมใส่ชุดกระโปรงของผู้หญิงทำให้เขารู้สึกถึงตัวตนที่แท้จริง และด้วยความรักอันเปี่ยมล้นของผู้เป็นภรรยา ที่ไม่อาจทนเห็นเขาต้องทนทุกข์อยู่ในร่างของผู้ชายได้ เธอจึงช่วยให้ไอนาร์ได้เข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศในที่สุด ในปี 1930 เขาได้เดินทางไปประเทศเยอรมนีเพื่อเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็นลิลี่ เอลเซ่ เอลวีนส์ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เธอเข้ารับการผ่าตัดถึง 4 ครั้ง รวมการผ่าตัดเพื่อปลูกถ่ายมดลูก และปลูกถ่ายรังไข่ ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ จากสาเหตุที่วิวัฒนาการทางการแพทย์ยังไม่พัฒนามากพอ และเสียชีวิในเวลา 3 เดือนต่อมา

 

อลัน ทูริง

จากภาพยนตร์เรื่อง The Imitation Game

เบเนดิกต์ คัมเบอร์ แบตช์ ในบทบาทของ อลัน ทูริง จากภาพยนตร์เรื่อง The Imitation Game

 

     The Imitation Game คืออีกหนึ่งภาพยนตร์จากสหราชอาณาจักร ประจำปี 2015 ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเรื่องหนึ่ง การันตีได้จากการเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำมากถึง 5 สาขารางวัล เนื้อเรื่องเล่าถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงเวลาที่อังกฤษกำลังจะต้องเพี้ยงพล้ำให้กับเยอรมนี หนทางเดียวที่จะทำให้พลิกกลับมาชนะในสงครามครั้งนี้ได้คือ การถอดรหัสอินิกม่าของกลุ่มนาซี ซึ่งภารกิจดังกล่าวต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของนักคณิตศาสตร์อย่าง อลัน ทูริง ฮีโร่ในเหตุการณ์ครั้งนั้น ที่ต้องจบชีวิตลงด้วยบทลงโทษเพราะเขาคือกลุ่มคนรักร่วมเพศ

ภาพถ่ายของ อลัน ทูริง ผู้ไขรหัสลับอินิกม่า เพื่อช่วยเหลือประเทศอังกฤษในช่วงสงครามโลกจากกลุ่มนาซี

 

     อลัน ทูริง กระโจนเข้ามาถอดรหัสอินิกม่าด้วยตัวเองในช่วงปี 1939 ร่วมกับทีมงาน และผลที่ได้คือเครื่อง Bombe และกระบวนการ Banburismus ที่ถอดรหัสอินิกมาได้ในที่สุด เขายังถอดรหัสลอเรนซ์ (Lorenz) ที่เยอรมนีใช้ในกองทัพเรือ โดยใช้เครื่อง Turingery และยังพัฒนากระบวนการ Delilah ในการเข้ารหัสคำพูดอีกด้วย ในครั้งนั้น อลัน ทูริง และทีมงานได้รับยกย่องว่าเป็นผู้ที่ช่วยประเทศอังกฤษเอาไว้ได้ ทว่าไม่นานหลังจากนั้นเรื่องราวที่กำลังดำเนินไปได้ด้วยดีก็กลับตาลปัตร และไม่ได้ถูกกล่าวเอาไว้ในภาพยนตร์ ในปี 1952 อลัน ทูริงถูกจับได้ว่ามีรสนิยมรักร่วมเพศ ซึ่งในเวลานั้นนับว่าผิดกฎหมายอาญาของอังกฤษ เขาถูกทรมาน และให้เลือกระหว่างการประหารชีวิต หรือฉีดฮอร์โมนเพศหญิง ที่ทำให้หมดเรี่ยวแรงได้ง่ายอีกด้วย ก่อนที่ในปี 1954 เขาจะถูกพบเป็นศพ เสียชีวิตในวัยเพียง 41 ปีเท่านั้น ก่อนที่ศพของเขาจะถูกชันสูตรว่าได้รับสารพิษเข้าร่างกายมากเกินไป

 

ร็อค ฮัดสัน

จากภาพยนตร์ซีรีส์เรื่อง Hollywood

แจ็ค พิ๊กกิ้ง นักแสดงชายในบทบาทของ ร็อค ฮัดสัน จากภาพยนตร์ซีรีส์เรื่อง Hollywood

 

     ยังคงนับเป็นอีกหนึ่งเรื่องซีรีส์ในเน็ตฟลิกซ์ ที่ได้รับความนิมอย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์เรื่อง Hollywood ที่เล่าเรื่องตีแผ่สังคมฮอลีวู้ดในยุคหลังสงคราม ที่เหล่าหนุ่มสาวพร้อมใจกันที่จะทำทุกทางเพื่อให้ได้มาซึ่งชื่อเสียงในวงการบันเทิงนี้ ความเฟื่องฟู และอิสรภาพของคนในสังคมอเมริกันที่ปรากฏในเรื่องดังกล่าว ได้พาผู้ชมไปพบทั้งด้านมืด และสว่างของคน ราวกับได้นั่งไวกิ้งให้หัวใจได้สูบฉีดเลือด ตั้งแต่แฝงการขายบริการทางเพศในปั๊มน้ำมันของเด็กหนุ่ม ไปจนถึงพื้นที่ของคนผิสี คนเอเชีย และกลุ่มคนเพศทางเลือกในวงการดังกล่าว ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในคาแร็กเตอร์สำคัญ ที่สะดุดตาใครหลายคนคงหนีไม่พ้น ร็อค ฮัดสัน

ภาพถ่ายของร็อค ฮัดสัน ดาราฮอลลีวู้ดชื่อดังในช่วงยุค 1950s

 

     เขาคือดาราฮอลลีวู้ดที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งในยุค 1950s ที่ต้องอาศัยอยู่ในสังคมด้วยการปกปิดตัวตน และรสนิยมทางเพศที่ชอบเพศเดียวกัน ซึ่งในตอนนั้นมีผลต่อชื่อเสียงของเขาอย่างมาก กระทั่งที่ผู้จัดการส่วนตัวของเขายังจับเขาคลุมถุงชน เข้าประตูวิวาห์เพื่อสยบข่าวเป็นเกย์ กับเลขานุการส่วนตัวที่ชื่อ ฟิลลิส เกตส์ แม้ว่าในช่วงหลายปีของชีวิตคู่จะดำเนินไปได้ด้วยดี ทว่าหลังจากนั้นไม่นานความจริงก็ยังคงเป็นความจริงวันยันค่ำ เมื่อภรรยาเริ่มสงสัยในตัวเขา พร้อมจ้างนักสืบตามสะกดรอย และได้หลักฐานสำคัญที่เขานั้นได้สารภาพ และยอมรับว่าเขาเป็นเกย์ ทั้งคู่จึงตัดสินใจหย่าร้างกันในที่สุด ก่อนที่ร็อค ฮัดสัน จะต้องจบชีวิตลงด้วยโรคเอดส์ในปี 1985