พระองค์หญิงฯ ฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่นกยูงทอง เสด็จงานกาล่า ณ กรุงปารีส

คำอธิบายภาพ: พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่นกยูงทองจาก SIRIVANNAVARI Couture เสด็จงานกาล่า “L’Art et l’Âme de la Thaïlande”

 

ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของสินค้าและบริการไทย เมื่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ร่วมกับหน่วยงานทีมประเทศไทยในสาธารณรัฐฝรั่งเศสจัดงานกาล่า “L’Art et l’Âme de la Thaïlande” โครงการนำเสนอภาพลักษณ์ประเทศไทยในมุมมองคนรุ่นใหม่ ตามพระราชดำริของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ณ กรุงปารีส

 

คำอธิบายภาพ: พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่นกยูงทองจาก SIRIVANNAVARI Couture เสด็จงานกาล่า “L’Art et l’Âme de la Thaïlande”

 

เมื่อค่ำคืนวันที่ 11 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา กรุงปารีสอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นไทยมากกว่าครั้งไหนๆ เพราะนี่คือค่ำคืนของงานกาล่า “L’Art et l’Âme de la Thaïlande” โครงการนำเสนอภาพลักษณ์ประเทศไทยในมุมมองคนรุ่นใหม่ เปิดโอกาสให้กลุ่มผู้มีกำลังซื้อในปารีสได้สัมผัสความเป็นไทยในอีกมุมมอง ตามพระราชดำริของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ที่ทรงเล็งเห็นว่าฝรั่งเศสเป็นตลาดนำเข้าที่สำคัญลำดับต้นของไทยในสหภาพยุโรป ไล่ตั้งแต่ ข้าว เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน ไปจนถึงเครื่องนุ่งห่ม และสินค้าอีกมากมาย แต่ที่ผ่านมาสินค้าและบริการของไทยหลายชนิดยังไม่สามารถดึงดูดลูกค้าตลาดระดับบนได้มากเท่าที่ควร เนื่องจากยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายและการประชาสัมพันธ์ที่อาจจะยังไม่เข้ายุคเข้าสมัย จึงควรหากลยุทธ์ใหม่เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคให้มากขึ้น

 

คำอธิบายภาพ: บรรยากาศในงานกาล่า “L’Art et l’Âme de la Thaïlande” สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ร่วมกับหน่วยงานทีมประเทศไทยในสาธารณรัฐฝรั่งเศสจัดขึ้นที่กรุงปารีส

 

คำอธิบายภาพ: บรรยากาศบนโต๊ะอาหารถูกประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ไทยนานาชนิด ผสมผสานกับดอกไม้ท้องถิ่นของฝรั่งเศส โดยนายสกุล อินทกุล ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ พร้อมของตกแต่งเป็นตุ๊กตาหนังตะลุงขนาดเล็กคู่ไทย-ฝรั่งเศส 

 

ด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงคุ้นเคยกับสังคมฝรั่งเศสเป็นอย่างดี และทรงตระหนักถึงศักยภาพของตลาดฝรั่งเศส จึงได้ประทานพระราโชบายให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ร่วมกับสำนักงานทีมประเทศไทยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงปารีส การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกรุงปารีส และการบินไทย จัดโครงการยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทยผ่านสินค้าและบริการที่เน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิดในสังคมฝรั่งเศส และชื่นชอบสินค้าที่มีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์ มีคุณภาพสูง ในขณะเดียวกันก็ไม่ละทิ้งภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย ด้วยแนวคิดทั้งหมดนี้จึงเกิดเป็นงาน L’Art et l’Âme de la Thaïlande ขึ้น 

 

คำอธิบายภาพ: "นวลพรรณ ล่ำซำ" แขกผู้มีเกียรติจากประเทศไทยในงาน “L’Art et l’Âme de la Thaïlande” ณ กรุงปารีส

 

คำอธิบายภาพ: เหล่าแขกผู้มีเกียรติจากประเทศไทยในงาน “L’Art et l’Âme de la Thaïlande” ณ กรุงปารีส

 

คำอธิบายภาพ: นักแสดงสาวชาวไทย "ศรีริต้า เจนเซ่น" ร่วมงาน “L’Art et l’Âme de la Thaïlande” ณ กรุงปารีส

 

คำอธิบายภาพ: แขกผู้มีเกียรติในงาน “L’Art et l’Âme de la Thaïlande” ยกระดับมาตรฐานสินค้าไทยและขยายฐานผู้บริโภคในตลาดฝรั่งเศสซึ่งเป็นตลาดนำเข้าที่สำคัญลำดับต้นของไทยในสหภาพยุโรป

 

ในค่ำคืนงานกาล่า L’Art et l’Âme de la Thaïlande ประกอบไปด้วยแขกผู้มีเกียรติทั้งจากไทยและฝรั่งเศสราว 220 คน โดยเน้นผู้แทนระดับสูงจากภาครัฐ นักธุรกิจชั้นนำของฝรั่งเศส เซเลบริตี้ อินฟลูเอนเซอร์ และสื่อมวลชนด้านการตลาดและการท่องเที่ยววัฒนธรรม โดยยึดคอนเซปต์ภายใต้แนวคิด Art and Soul of Thailand เน้นการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า ได้แก่การมองเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การลิ้มรส และการสัมผัส มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการไทย อาทิ ข้าว เครื่องปรุงอาหาร หัตถกรรม ผลิตภัณฑ์สปา ของใช้ เครื่องตกแต่งภายใน และของขวัญ ไปจนถึงหนังสือแนะนำร้านอาหารมิชลินไกด์ รวมถึงมีการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ในเมืองไทย เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของแต่ละภาค ส่วนไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้คือการจัดแสดงคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าและเครื่องประดับจากแบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK ผลงานทรงออกแบบในพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์

 

คำอธิบายภาพ: การนำเสนอผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการไทยในงานกาล่า "L’Art et l’Âme de la Thaïlande"

 

งานกาล่า L’Art et l’Âme de la Thaïlande ในครั้งนี้ถือเป็นประตูบานสำคัญที่เปิดโอกาสให้สินค้าและบริการไทยได้มีพื้นที่ประชาสัมพันธ์ในมุมมองใหม่ต่อกลุ่มผู้บริโภคคุณภาพ ทั้งในฝรั่งเศสและสหภาพยุโรป ขยายฐานผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่สามารถเป็นกระบอกเสียงให้ไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับเวิลด์คลาส รวมถึงยังช่วยยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทยโดยรวม ซึ่งสอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติที่มุ่งสู่สังคมแห่งนวัตกรรมบนพื้นฐานของวัฒนธรรมเดิมเป็นอย่างดี