ช่างภาพเปรียบดั่งศิลปินผู้ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึก รวมถึงความแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นในชีวิตมนุษย์ บางครั้งสิ่งมีชีวิตหรือวัตถุรอบตัวเรานั้นอาจถูกมองข้ามหรือผู้คนอาจคุ้นชินกับมันจนไม่ได้สังเกตความพิเศษอะไรเพิ่มเติม ทว่าช่างภาพบางคนสามารถหยิบจับสิ่งรอบตัวเหล่านี้มาทำให้เป็นงานศิลปะที่ดึงดูดสายตาผู้ชมได้อยู่หมัด หนึ่งในนั้นคือ Herb Ritts ตำนานช่างภาพผู้ได้ชื่อว่าเป็นผู้ลั่นชัตเตอร์เก็บภาพความงดงามของมนุษย์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์โลกศิลปะ วันนี้โว้กจะพาไปย้อนรำลึกกันว่าทำไมเขาถึงสร้างสรรค์ผลงานได้น่าสนใจ

ท่วงท่าการถ่ายภาพของ Herb Ritts / ภาพ: Christie's

     เฮิร์บเกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 1952 ณ เมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เด็กหนุ่มจากครอบครัวชาวยิวที่พ่อเป็นนักธุรกิจ และแม่เป็นนักออกแบบภายใน เขาถูกวางให้เป็นผู้สานต่อธุรกิจของพ่อ แต่ดูเหมือนเข็มทิศแห่งความสนใจของเขามุ่งหน้าสู่เส้นทางศิลปะมากกว่า ช่วงวัยรุ่นด้วยความที่เกิดกระแสนำทางชีวิต 2 ทางเกิดขึ้นจากทั้งฝั่งพ่อและแม่เขาจึงเลือกเรียนในสาขาที่ 2 เรื่องนี้สอดผสานกันลงตัวที่สุดก็คือ สาขาเศรษฐศาสตร์และประวัติศาสตร์ศิลป์ ณ มหาวิทยาลัยบาร์ดในนิวยอร์ก ก่อนที่จะจบการศึกษาในปี 1975

ปกอัลบั้ม True Blue ของ Madonna ที่ลั่นชัตเตอร์โดย Herb Ritts / ภาพ: Madonna: True Blue

     ชีวิตของเขาเริ่มต้นจากความชื่นชอบส่วนบุคคล เพราะทดลองถ่ายภาพร่วมกับ Richared Geere นักแสดงระดับตำนานที่ตอนนั้นยังเป็นวัยรุ่น ไม่มีชื่อเสียงในวงการ ก่อนเฮิร์บจะค่อยๆ ขยับขยายฐานความสามารถสู่การเป็นช่างภาพอย่างจริงจัง ชีวิตช่างภาพของเขาจึงเริ่มขึ้นในช่วงปลายยุค ‘70s ต้องบอกว่าชื่อเสียงของเขาโด่งดังอย่างรวดเร็ว อาจจะเรียกว่านี่คือพรสวรรค์พระเจ้าประทานและโชคชะตาของชีวิตที่มุ่งเข้าสู่วงการไวปานวอก เขาได้รับโอกาสถ่ายภาพแฟชั่นในช่วงต้นยุค ‘80s และสร้างชื่อต่อด้วยการผลิตผลงานภาพปกอัลบั้มศิลปินดังทั้ง Olivia Newton-John และ Madonna ในปี 1981 และ 1986 ตามลำดับ

Michael Jackson และ Naomi Campbell ฝีมือการถ่ายภาพของ Herb Ritts / ภาพ: Oh Yea Pop!

     ช่วงระหว่างยุค ‘80s ถึงยุค ‘90s ชื่อเสียงของเฮิร์บโด่งดังไปทั่วสหรัฐฯ เซเลบริตี้มากมายล้วนผ่านการลั่นชัตเตอร์ของเขามาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Brad Pitt, Michael Jackson, Mariah Carey, Diana Ross, Elizabeth Taylor และอื่นๆ อีกมากมาย หากจะนึกถึงช่างภาพผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายแนวพอร์เทรตที่ดึงเอาเสน่ห์เบื้องลึกของคนดังต้องนึกถึงชื่อเขาอย่างแน่นอน และนี่ก็เป็นจุดขายที่ทำให้เฮิร์บมีชื่อเสียงเป็นช่างภาพระดับแนวหน้าของโลกอีกหนึ่งคน ตลอดระยะเวลา 2 ทศวรรษเขาสามารถประทับชื่อลงบนนิตยสารแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ชั้นนำมาเกือบครบทั้งวงการแล้ว

ผลงาน Rouge Absolut by Lancôme with Isabella Rossellini ของ Herb Ritts / ภาพ: Bellazon

     สิ่งที่ทำเงินที่สุดคือการถ่ายภาพโฆษณา และแน่นอนว่าเฮิร์บคือบุคคลที่เชี่ยวชาญด้านนี้เช่นกัน ชื่อเสียงของเขาไม่ใช่คำตอบเดียวที่ทำให้ลูกค้าจ้างงาน เด็กหนุ่มจากแอลเอพกความสามารถไว้เต็มเปี่ยม งานโฆษณามีมาแบบไม่ขาดสาย และนี่เป็นอีกหนึ่งจุดขายที่ทำให้ช่างภาพคนนี้สามารถโลดแล่นอยู่ในวงการได้แม้ไม่ต้องนำเสนอการถ่ายภาพพอร์เทรตเพียงอย่างเดียว ลบข้อครหาที่ปรามาสว่าเขาโด่งดังได้เพราะถ่ายคนดังจำนวนมาก ทว่าเขามีฝีมือมากต่างหากจึงได้รับโอกาสถ่ายภาพคนดังมากมายเช่นนี้

ผลงานภาพนู้ดของ Herb Ritts ในปี 1985 / ภาพ: Etsy

     ไฮไลต์ในชีวิตที่ทำให้คนจดจำเขามากที่สุดอย่างหนึ่งคือการถ่ายภาพนู้ด เขาศึกษารูปทรงและพลังงานจากงานประติมากรรมกรีกโบราณ ดังนั้นเขาจึงใช้มันเป็นแรงผลักดันในการสร้างสรรค์ภาพนู้ด เขามองว่าสิ่งเหล่านี้ทรงพลัง การถ่ายทอดรูปร่างของมนุษย์ในรูปแบบของเฮิร์บจึงเต็มไปด้วยทรวดทรง ความแข็งแรง และทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงพลังงานในตัวมนุษย์ ความโป๊เปลือยเป็นส่วนหนึ่งที่ยึดถือ ทว่าในอีกมุมหนึ่งมันเปิดโอกาสให้ผู้ชมเข้าถึงทุกสัดส่วนของความเป็นมนุษย์ราวกับกำลังเสพผลงานประติมากรรมจากกรีกในรูปแบบภาพถ่าย และนี่คือลายเซ็นสำคัญที่สร้างชื่อเฮิร์บให้คนจดจำ พร้อมทั้งเปลี่ยนภาพจำของการถ่ายนู้ดให้ทันสมัย สอดแทรกรายละเอียดต่างๆ ไว้นอกเหนือจากอารมณ์ความเย้ายวนที่เมื่อก่อนเคยเป็น

ผลงานของ Herb Ritts ที่ถ่าย Jim Carrey ลงนิตยสารโว้กอเมริกาฉบับเดือนกันยายน 1996 / ภาพ: Vogue US

     “เขาปฏิวัติการถ่ายภาพแฟชั่น” ด้วยแนวคิดการส่งเสริมให้มนุษย์ส่งพลังจากด้านใน เขานำแนวคิดนี้มาประกอบกับการทำงานด้านแฟชั่นด้วยเช่นกัน เขาทำให้นางแบบ-นายแบบสามารถนำเสนอชุดได้อย่างทรงพลัง เล่นกับรูปทรงและรายละเอียดบนเสื้อผ้าแต่ละชิ้นอย่างมีชั้นเชิง หลายครั้งที่เขาเปลี่ยนชุดเบสิกธรรมดาให้กลายเป็นภาพถ่ายแฟชั่นที่เต็มไปด้วยความแปลกใหม่และสร้างพลังงานส่งผ่านถึงผู้ชมแบบเต็มที่ หากใครชื่นชอบภาพถ่ายสไตล์ที่เน้นรูปทรง ความหนักแน่น และการใช้ประโยชน์จากทุกรายละเอียดแบบภาพถ่ายแฟชั่นสมัยใหม่ ต้องย้อนรำลึกถึงเขาว่านี่คือผู้ริเริ่มสร้างสิ่งนี้เป็นคนแรกๆ

     ความสามารถของเขาถูกนำมาต่อยอด...การถ่ายภาพดูจะเป็นทักษะระดับปรมาจารย์ ทว่าเขาไม่หยุดอยู่แค่การจับกล้องถ่ายเอง แต่เขายังรับหน้าที่เป็นผู้กำกับมิวสิกวิดีโออีกด้วย โดยศิลปินชื่อดังที่เขาเคยกำกับมิวสิกวิดีโอให้มีทั้ง Madonna, Chris Isaak, Janet Jackson, Jennifer Lopez รวมถึง Shakira ด้วย ซึ่งเขาเริ่มต้นเส้นทางนี้มาตั้งแต่ปี 1989 กับมาดอนน่า ก่อนจะพัฒนาตัวเองและกลายเป็นผู้กำกับมิวสิกวิดีโอ โด่งดังไม่แพ้การเป็นช่างภาพ น่าเสียดายที่ชีวิตของเขาสั้นเกินกว่าจะสร้างผลงานมากมายต่อไป

การนำเสนอชุดเดรสของ Versace ในปี 1990 ด้วยมุมมองที่ต่างออกไปโดย Herb Ritts / ภาพ: Herb Ritts Foundation

     เฮิร์บกำลังสนุกกับการทำงานในช่วงปลายยุค ‘90s ทว่าก็ต้องเผชิญปัญหาใหญ่เมื่อเขามีเชื้อ HIV อยู่ในร่างกาย นี่คือชะตากรรมที่หลีกหนีไม่พ้น วันที่ 26 ธันวาคม 2002 เขาเกิดอาการปอดบวม เป็นผลพวงจากเชื้อร้าย ส่งผลให้เขาเสียชีวิต ณ เมืองลอสแอนเจลิสบ้านเกิด ปิดตำนานการเป็นช่างภาพผู้ปฏิวัติการถ่ายภาพแฟชั่น สร้างวงการภาพนู้ดที่ทันสมัย และเปลี่ยนเซเลบริตี้ทั่วไปสู่การเป็นไอคอนแห่งวงการ ปีนี้เขาจากไปครบรอบ 20 ปี โว้กขอร่วมไว้อาลัยและรำลึกถึงสิ่งที่เขามอบให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นมาเกือบทั้งชีวิต

 

ข้อมูล:

vogue.com

getty.edu

famousphotographers.net

herbritts.com