ย้อนรอยไอเท็ม Y2K ชิ้นดั้งเดิมของแบรนด์ Dolce & Gabbana ที่กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในปี 2022
การเลือกนำไอเท็มชิ้นไอคอนิกจากคลังเก่ามาเคาะฝุ่นและเพิ่มเติมรายละเอียดให้เข้ากับยุคสมัย คือการตอกย้ำว่าแบรนด์ดังจากอิตาลีเจ๋งแค่ไหนในช่วงยุคมิลเลนเนียล
Re-Edition คือการนำความฮิตยุคเก่ามารังสรรค์ใหม่ หรือแค่การเอาของเดิมมาวนลูปนำเสนอซ้ำ ข้อวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นอย่างหนาหูในช่วงหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแฟชั่น Y2K ของคนยุคมิลเลนเนียลกลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้งในปี 2021 เป็นต้นมา หลายแบรนด์เริ่มรื้อฟื้นความหลังและหยิบกลิ่นอายจากเมื่อ 2 ทศวรรษก่อนมาเป็นแรงบันดาลใจเพื่อสร้างสรรค์สไตล์ Y2K ยุคใหม่ สำหรับ Dolce & Gabbana ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เอ่ยได้อย่างเต็มปากว่าพวกเขาเคยครองตลาดความเก๋แห่งโลกแฟชั่นได้อย่างหวือหวาในยุคสมัยนั้น การกลับมาของเทรนด์จึงเปรียบดั่งแสงสว่างที่พร้อมมอบเส้นทางแห่งความสำเร็จสเกลใหญ่ให้กับแบรนด์อีกครั้ง
ล่าสุด ณ มิลานแฟชั่นวีกโดลเช่แอนด์กับบาน่านำเสนอแฟชั่นแบบ Y2K เต็มรูปแบบ และที่เป็นไฮไลต์คือการหยิบไอเท็มเก่าในคลังที่แฟนๆ คิดถึงมาเฉิดฉายอีกครั้งบนรันเวย์ ท่ามกลางบรรยากาศแฟชั่นโชว์อันผสมผสานกลิ่นอายความเป็นปัจจุบันเข้ากับแฟชั่นยุคเก่าได้อย่างลงตัว ดีไซเนอร์คู่ของแบรนด์เลือกใช้เทคนิคการย้อมผ้าแบบพิเศษเพื่อชุบชีวิตไอเท็มชิ้นดั้งเดิมให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เสื้อและรองเท้าชิ้นไอคอนิกจะมาจากคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2000 อันเป็นจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ที่สร้างชื่อโดลเช่แอนด์กับบาน่าให้กลายเป็นแบรนด์สุดล้ำนำเทรนด์ในช่วงนั้นเลยทีเดียว
ไอเท็มชิ้นเก่า รู และโลโก้ดั้งเดิม ทั้งหมดถูกนำมาคลุกเคล้ารวมกันจนกลมกล่อม เราจะเห็นว่ามีไอเท็มชิ้นเบสิกเช่นเสื้อฮู้ดดี้ รองเท้าผ้าใบ และเสื้อยืดที่ถูกตกแต่งรายละเอียดมากขึ้น รอยแหว่งรูขาดทั้งหมดถูกสร้างสรรค์เพื่อให้มันดูเก่าคล้ายกับเสื้อผ้าวินเทจ ความเลอะเทอะมอมแมมดูเก่าเก็บนี้กลายเป็นมนต์เสน่ห์ที่เด็กวัยรุ่นยุคใหม่ถวิลหา เพราะตอนนี้ทุกอย่างมีแต่ความเรียบเนียนสมบูรณ์แบบและยืนระยะได้ไม่ยาว แต่ไอเท็มจากปี 2000 สะท้อนให้เห็นว่ามันสามารถอยู่ยั้งยืนยงได้
WATCH
ใช่ว่าการดึงเอาความเจ๋งของแบรนด์กลับมาจะได้รับแต่คำชม เพราะแท้จริงแล้วก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนักอยู่เหมือนกันเกี่ยวกับวิธีการที่แบรนด์คลุกไอเดียเก่าเข้ากับการนำเสนอแฟชั่นครั้งใหม่ ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจถูกใจในแง่การชวนสาวกแฟชั่นย้อมความหลังสู่เทรนด์แฟชั่นสุดฮิตที่แบรนด์เคยทำได้อย่างยอดเยี่ยม ทว่าในอีกมุมหนึ่งหลายคนก็มองว่าการนำสิ่งของเก่ามาเคาะฝุ่นและเปลี่ยนรายละเอียดเพียงเล็กน้อยนั้นแสดงถึงจุดตันของไอเดีย ถึงกระนั้นต้องเข้าใจว่าการเสพแฟชั่นยุค Y2K ในปัจจุบันไม่ได้เกิดจากการรื้อฟื้นความหลังของเด็กวัยรุ่นเมื่อ 20 ปีที่แล้วเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเด็กรุ่นใหม่ที่ซึมซับวัฒนธรรมสมัยก่อนและพร้อมถ่ายทอดในรูปแบบ “นิวมิลเลนเนียล” เพราะฉะนั้นการที่โดลเช่แอนด์กับบาน่าทำแบบนี้ เปรียบเสมือนการให้โอกาสคนยุคปัจจุบันได้ซึมซับกับความสุดยอดแห่งแฟชั่น Y2K ของจริง และแบรนด์ก็สามารถสืบทอดและเล่าเรื่องราวต่อไปได้เลยว่าโดลเช่แอนด์กับบาน่าเจ๋งเสมอกับแฟชั่นรูปแบบนี้
1 / 6
2 / 6
3 / 6
4 / 6
5 / 6
6 / 6
ภาพ: Dolce & Gabbana
WATCH