เรื่องราวภาคต่อของคอลเล็กชั่นผ้าพันคอจาก Dior ที่พร้อมจะพาคุณท่องไปยังดินแดนแห่งตำนานกรีก

“ผ้าพันคอสำหรับผู้หญิงก็เหมือนเนกไทสำหรับผู้ชาย และวิธีที่คุณผูกก็บ่งบอกนิสัยใจคอของคุณ” เมอซีเยอ Christian Dior ดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศสผู้เป็นตำนานกล่าวถึงแอ็กเซสเซอรี่ชิ้นพิเศษไว้ใน The Little Dictionary of Fashion หนังสือเล่มเล็กที่เปรียบได้กับบันทึกส่วนตัวซึ่งเขารวบรวมประสบการณ์และไอเดียมากลั่นกรองเป็นแนวทางการแต่งตัวของผู้หญิง ท่ามกลางเสื้อผ้าและเครื่องประดับมากมายนั้น ผ้าพันคอไหมสี่เหลี่ยมขนาดพอดีช่วงไหล่เป็นไอเท็มชิ้นสำคัญที่เมอซีเยอคริสเตียนนำมาใช้เสมอ ด้วยความสามารถในการประยุกต์ใช้งานอย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะนำมาพันรอบคอหรือตกแต่งบนเสื้อผ้าก็ตาม ผ้าพันคอไหมนี้ยังจัดเป็นเครื่องประดับชิ้นแรกๆ ของดิออร์ที่วางจำหน่ายเพื่อเติมเต็มความสุขให้ผู้หญิง

ในยุคของ Maria Grazia Chiuri ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์คนปัจจุบัน เธอสานต่อปณิธานของผู้ก่อตั้งด้วยการนำผ้าพันคอมาผสมผสานในงานออกแบบแต่ละฤดูกาล ย้อนกลับไปคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวปี 2020 ผ้าพันคอที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยเทคนิคการทอแจ็กการ์ดคือเครื่องประดับชิ้นหลักที่เหล่านางแบบใช้โพกศีรษะขณะเดินโชว์บนรันเวย์ ครั้งนั้น มาเรีย กราเซียจับผ้าพันคอมาผูกปมเปรียบเทียบเป็นความแข็งแกร่งของหญิงสาว ตอบรับแนวคิดเรื่องเฟมินิสม์ในทศวรรษ 1970 ซึ่งเจ้าตัวปลุกปั้นมาตั้งแต่เริ่มงานที่ดิออร์ จวบจนเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ดีไซเนอร์สาวสานต่อแนวคิดเก่าด้วยการส่งแคมเปญใหม่ที่ว่าด้วยผ้าพันคอคลาสสิก ลวดลายพรรณพฤกษาและสิงสาราสัตว์สไตล์ Toile de Jouy มาลุยตลาด ลายแนวนี้เป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์ในยุคของมาเรีย กราเซียโดยเธอยืมแรงบันดาลใจมาจากวอลเปเปอร์ตกแต่งผนังในบูติกของแบรนด์สมัยเมอซีเยอ ที่สำคัญเวอร์ชั่นใหม่นี้ได้ศิลปินมือดีชาวอิตาลี Pietro Ruffo มาร่วมงานด้วย

คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2021 นี้มาเรีย กราเซียจัดแคมเปญใหญ่รวบรวมผ้าพันคอผืนงามมานำเสนอผ่านเรื่องราวเฉพาะตัว จักรราศีทั้ง 12 หมู่ดาวสะท้อนความเชื่อส่วนตัวของเมอซีเยอผู้ก่อตั้งห้องเสื้อ โชคลางและความหมายเฉพาะตัวโลดแล่นอยู่บนผืนผ้าแต่ละผืนแตกต่างกันไป ในขณะที่ดาวห้าเหลี่ยมนำโชคและลวดลาย Dior Oblique รูปโลโก้ของแบรนด์เป็นรายละเอียดที่ขาดไม่ได้ ดีไซเนอร์นำเสนอการใช้ผ้าพันคอในหลากหลายมิติ เช่น นำมาพันทบรอบศีรษะแล้วผูกปลาย จากนั้นหมุนเกลียวทบอีกครั้ง (ดูราวกับมงกุฎขนาดใหญ่) หยิบมาพับแล้วผูกคลุมศีรษะ พันรอบข้อมือแทนกำไล สอดไปตามแนวผมเพื่อมัดเป็นเปีย หรือแม้แต่หยิบมาประดับเสาเป็นธง!

ภาคต่ออย่างคอลเล็กชั่นครูส 2022 มุ่งตรงไปยังประเทศกรีซแหล่งกำเนิดอารยธรรมของโลกตะวันตกและกีฬาโอลิมปิก โดยนอกจากเสื้อผ้าแนวกีฬาสไตล์สาวดิออร์แล้ว ดีไซเนอร์ยังปล่อยแคมเปญผ้าพันคอรุ่นใหม่ตามมาด้วย “ผ้าพันคอคือตัวแทนขององค์ความรู้ในงานฝีมือชั้นสูงอันยอดเยี่ยมของห้องเสื้อ ทอจากผ้าไหมทวิลซึ่งเป็นวัสดุพิเศษที่มีคุณสมบัติเด่นเรื่องวอลูมและความเงางาม อันเนื่องมาจากความหนาแน่นของเส้นด้ายที่ใช้ทอนั่นเอง ผ้าพันคอแต่ละผืนมีเอกลักษณ์และจุดเด่นที่ลวดลายซึ่งถือเป็นผลงานชิ้นเอกของแบรนด์ดิออร์”

เรื่องราวของคอลเล็กชั่นผ้าพันคอนี้ยังคงสะท้อนเรื่องราวเฉพาะตัวได้อย่างน่าสนใจผ่านเลนส์ของ Brigitte Niedermair ช่างภาพหญิงชาวอิตาลี เริ่มกันที่ลวดลายใหม่ที่ยืมมาจากศิลปะกรีกโบราณซึ่งมาเรีย กราเซียเก็บเกี่ยวมาระหว่างการสำรวจแหล่งวัฒนธรรมสำคัญของกรีซ สีฟ้าโทนพิเศษที่เรียกว่า Aegean Blue ได้แรงบันดาลใจมาจากเครื่องเคลือบแถบชายฝั่งทะเลอีเจียน นำมาใช้เป็นสีหลักผสมกับสีขาวของผ้าไหม รวมไปถึงสีทองและเฉดอบอุ่นของหินอ่อนที่ชวนให้นึกถึงประติมากรรมรูปสตรีบริเวณวิหารเก่าในอะโครโพลิสแห่งเอเธนส์ สถานที่สำคัญแห่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับห้องเสื้อเพราะเคยปรากฏในภาพถ่ายผลงานโอตกูตูร์ปี 1951 สมัยเมอซีเยอดิออร์ ซึ่งก็เป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญกับคอลเล็กชั่นครูสในครั้งนี้

ต่อด้วยลวดลาย Millefiori ที่นำดอกไม้นานาชนิดมาวาดบนผืนผ้าใบของผ้าพันคอ แต่ประเด็นสำคัญคือดอกไม้เหล่านั้นล้วนเป็นส่วนผสมของน้ำหอม Miss Dior ในตำนานทั้งสิ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังมีดวงดาวนำโชคสัญลักษณ์ของแบรนด์ที่ดัดแปลงคล้ายกระเบื้องโมเสกสไตล์กรีก ลวดลายนี้มาเรีย กราเซียร่วมแรงกับช่างฝีมือท้องถิ่น Silk Line โรงงานทอผ้าในเมืองซูฟลี แหล่งผลิตผ้าไหมเก่าแก่อายุนับศตวรรษของภูมิภาคมาซิโดเนียตะวันออกและเทรซ ผลิตผ้าทอแนวกรีกที่สานขึ้นจากกี่ทอด้วยเทคนิคดั้งเดิม ผ้าพันคอแต่ละผืนต้องนำเส้นไหมมาทอขึ้นรูปแบบทวิล พิมพ์ลายด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ให้สีสันสดใส ก่อนจะเย็บขลิบขอบโดยการม้วนทบ ซึ่งต้องอาศัยทักษะความชำนาญเป็นพิเศษ ผ้าพันคอรุ่นใหม่นี้สามารถดัดแปลงเป็นเชือกเกลียวขนาดเล็กสำหรับพันรอบศีรษะ หรือพันทบขึ้นไปแบบ Turban ผ้าคาดของสาวกรีกตามภาพเขียนโบราณก็ได้ ส่วนทีมงานผู้สร้างสรรค์ภาพแคมเปญเลือกแปลงโฉมนางแบบเป็นประติมากรรมหินอ่อนห่มคลุมร่างกายด้วยผ้าพันคอไหม แลดูไม่ต่างจาก Peplos เครื่องแต่งกายโบราณของสตรีชาวกรีก มาเรีย กราเซียยังเพิ่มลูกเล่นด้วยการใช้ผ้าพันคอแทนผ้าปิดตา ทำให้นึกถึงภาพคิวปิดเทพแห่งความรักตามภาพวาดของจิตรกรสมัยเรอเนซองซ์ในอิตาลี บ้านเกิดของเธอ  

 

เลื่อนชมผ้าพันคอชิ้นไฮไลต์จาก Dior ประจำฤดูกาล Cruise 2022 ได้ในแกลเลอรี่ด้านล่างนี้

1 / 5

2 / 5

3 / 5

4 / 5

5 / 5