อ้วนจนได้ดี! เปิดเรื่องราวชีวิตของคนอ้วนที่สุดในโลก Daniel Lambert กับการใช้ความอ้วนหาเงิน!

     ใครมองว่าความอ้วนคือสิ่งที่ปิดกั้นชีวิตจากโอกาสดี ๆ มากมายหลายอย่าง สาว ๆ อาจจะต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่หากได้อ่านเรื่องนี้ ชายหนุ่มผู้อ้วนท้วนสมบูรณ์นาม Daniel Lambert คือบุคคลที่จะทำให้ทุกคนตะลึงกับขนาดตัวและน้ำหนักอันมหาศาล ที่สำคัญเขาพลิกวิกฤติเป็นโอกาสถึงขนาดสร้างชื่อด้วยปมความยิ่งใหญ่ของ (ขนาด) ตัวเอง วันนี้ (13 มีนาคม) คือวันคล้ายวันเกิดของเขาพอดี เราอยากจะหยิบยกเรื่องราวสุดดราม่าของผู้ชายที่อ้วนที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์โลกมาเล่าให้แฟน ๆ โว้กได้รับรู้กัน

Daniel Lambert ในสมุดรวมรูปโปรโมตเมืองเลสเตอร์ / ภาพ: Visit Leicester

     แดเนียล แลมเบิร์ตหนุ่มจากเมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษเกิดมาพร้อมร่างกายปกติเหมือนกับเด็กทั่วไปในปี  1770 เติบโตมากับสภาพสังคมชนบททั้งการล่าสัตว์ เล่นกีฬา รวมถึงใช้ชีวิตกับธรรมชาติ แต่ใครจะรู้ว่าเด็กธรรมดาคนหนึ่งจะกลายเป็นผู้มหัศจรรย์ของโลก เริ่มต้นจากนักกีฬาผู้แข็งแร่งรากฐานจากครอบครัวที่ชื่นชอบในการออกกำลังกายและเขานี่เองคือผู้เชี่ยวชาญในด้านการว่ายน้ำ เชี่ยวชาญขนาดที่ว่าสามารถเป็นครูสอนเด็กว่ายน้ำข้ามเมืองได้ เขาแข็งแกร่งถึงขนาดมีเรื่องเล่าว่าขณะที่ทำการแสดงเกี่ยวกับสัตว์ (โชว์สมัยโบราณ) สุนัขตัวหนึ่งเกิดเสียหลักไถลไปปะกับหมีแต่โชคดีที่แดเนียลสามารถแสดงพลังต่อยและฟัดปล้ำกับหมีจนชนะ และแล้วน้องหมาน้อยก็ปลอดภัย...

ภาพวาดเสมือนจริงแบบเต็มตัวของ Daniel Lambert / ภาพ: Northampton Museums

     ความพิเศษของเรื่องนี้มันไม่ได้อยู่ที่พลังอันแข็งแกร่งแต่คือหน้าที่ผู้คุมนักโทษที่ใจดีและปฏิบัติงานได้ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งสืบต่อจากพ่อของเขา ทว่าทุกอย่างเหมือนจะเริ่มแปลกประหลาดขึ้นช่วงอายุวัยรุ่นเขากลับอ้วนขึ้นโดยไร้สาเหตุ มันพุ่งทะยานไปถึง 250 กิโลกรัม! นั่นเริ่มเป็นปัญหาเด็กหนุ่มคนหนึ่งต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองสุดกู่ ค่าใช้จ่ายเรื่องเสื้อผ้าการดำเนินชีวิตสูงขึ้นเรื่อย ๆ และข่าวร้ายก็มาถึงเรือนจำปิดตัวลงในปี 1805 เขาตกงาน เร่ร่อนหางานก็ไม่สามารถหาได้ และนี่คือจุดกำเนิดอย่างเป็นทางการของ “ยักษ์ใหญ่แห่งเลสเตอร์”

ผู้คนมักตื่นเต้นและชื่นชอบเขามากกว่าแค่หุ่นอันผิดแปลกจากมนุษย์ปกติ / ภาพ: Madame Gilfurt

     เขาไม่มีทางเลือกจำใจต้องเปลี่ยนตัวเองเป็นสิ่งของและแสดงขนาดตัวอันใหญ่ยักษ์ให้เขาเข้ามาดูดั่งนิทรรศการของแปลก เขานั่งรถม้าสร้างพิเศษจากเลสเตอร์เข้าลอนดอนในวันที่ 4 เมษายน 1806 แดเนียลแสดงร่างกายแบบนี้ 5 ชั่วโมงต่อวันโดยเก็บค่า 1 ชิลลิ่งหรือประมาณ 4 ปอนด์เมื่อแปลงเป็นค่าเงินในปัจจุบัน ในยุคที่อังกฤษไม่ได้มองความอ้วนเป็นสิ่งน่ากลัวแต่กลับมองว่ามันมหัศจรรย์ ขนาดไม่สำคัญอีกต่อไปเขายังแสดงโชว์ไปเรื่อย ๆ พร้อมพูดคุยแชร์เรื่องราวกีฬาที่เขาถนัดจนทำให้มีผู้คนหลงรักและชื่นชอบในตัวแดเนียลเป็นจำนวนมาก ในขณะที่โชว์ร่างกายตัวเองนั้นเขามีน้ำหนักเกินไปกว่า 320 กิโลกรัมแล้ว.. ถึงแม้จะไปตรวจแต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ มีเพียงไขมันที่ล้นในช่วงขาทำให้เกิดอาการเสียดสีเท่านั้น จริง ๆ แล้วสาเหตุน่าจะมาจากการทานอาหารในปริมาณมหาศาลและดื่มแอลกอฮอล์ แต่แดเนียลปฏิเสธมาตลอดถึงแม้ว่าสังคมที่เขาอยู่จะชี้ว่ากลุ่มผู้คุมมักบริโภคเนื้อชนิดที่ว่าถล่มทะลาย

แม้แต่ผู้หญิงยุคนั้นยังให้เกียรติและชื่นชอบในตัวเขา / ภาพ: Leicestershire History

     มีบวกก็ต้องมีลบ ผู้คนในลอนดอนยังให้เกียรติเขาและไม่ได้รังเกียจในความผิดปกตินี้ แต่แดเนียลเริ่มรำคาญกับสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เขามักโดนถามเกี่ยวกับไซส์เสื้อ มันน่าหงุดหงิดขนาดเขาต้องบอกว่าถ้าอยากรู้ต้องจ่ายเงินค่าเสื้อโค้ตตัวใหม่และแน่นอนชายผู้นั้นจ่ายสนนราคาประมาณ 20 ปอนด์ขณะนั้น ประมาณ 1,600 ปอนด์ตอนนี้หรือประมาณ 66,000 บาทเลยทีเดียว ด้วยค่าเข้าชมและเสื้อผ้าเขากลับมาบ้านเกิดพร้อมกับฐานะคนร่ำรวย หลังจากนั้นก็เริ่มทัวร์แสดงอีกครั้งทั้งโคเวนทรี เบอร์มิงแฮม อิปสวิชไปจนถึงการกลับมาเมืองหลวงอีกครั้งในน้ำหนัก 335 กิโลกรัมและไม่สามารถขึ้นลงบันไดได้อีกต่อไป

ขนาดกางเกงและหลุมศพของ Daniel Lambert / ภาพ: Leicestershire History และ HipPostcard

     21 มิถุนายน 1809 วันแห่งความโศกเศร้าก็มาถึง...เขาตื่นขึ้นมาทำกิจกรรมประจำวันทั่วไปและแล้วเขาก็เริ่มหายใจลำบากจนกระทั่งล้มลงและเสียชีวิตในไม่กี่นาที จากหลักฐานพยานในช่วงเวลานั้นไม่สามารถระบุได้ว่าสาเหตุคืออะไร แต่ที่แน่ ๆ คือความอ้วนและมลพิษจากเมืองหลวงส่งผลให้เขาจากไปก่อนวัยอันควรสิริอายุรวมเพียง 39 ปี ขนาดโลงศพเขาคือ 193 ซม. x 132 ซม. x 71 ซม. ต้องใช้คนแบก 20 คนในการเอาโลงฝังลงดินและใช้เวลาถึงครึ่งชั่วโมง

หลักฐานว่าชื่อของ Daniel Lambert ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์อังกฤษ / ภาพ: British Museum

     หลังจากการจากไปของแดเนียล หนุ่มไซส์บิ๊กชื่อเขากลายเป็นสิ่งที่ถูกอ้างถึงในเชิงคำศัพท์และการเรียนรู้อย่างมากมายถึงขั้นถูกลิสต์ชื่ออยู่ในหลาย ๆ พิพิธภัณฑ์ในประเทศอังกฤษ รวมถึงเป็นแสลงเมื่อเอ่ยถึงคนอ้วนด้วย มีหนังสือหลายต่อหลายเล่มกล่าวถึงแดเนียลถึงขนาดที่มีคำกล่าวว่า “ชื่อของแลมเบิร์ตมีคนรู้จักมากกว่าประวัติตัวเขาเองอีก” ชื่อของแดเนียล แลมเบิร์ตยังคงถูกพูดถึงอยู่จนทุกวันนี้ ถึงแม้เขาจะเสียชีวิตไปนานแสนนานแต่ชื่อของเขายังถูกจดจำและไม่เสื่อมหายไปจากสังคมเลยแม้แต่น้อยโดยเฉพาะที่เมืองเลสเตอร์ คนเลสเตอร์กว่า 800 คนร่วมไว้อาลัยครบรอบ 200 ปีการจากไปของเขาในปี 2009 ยักษ์ใหญ่แห่งเลสเตอร์ผู้เปลี่ยนปมด้อยสู่โอกาสและไม่หยุดประพฤติดี เขาคือตัวอย่างของการใช้ชีวิตแง่บวกที่แท้จริง ใครมีปมด้อยอะไรอย่าเพิ่งน้อยใจเมื่ออ่านบทความนี้จบคุณอาจจะต้องลองคิดทบทวนว่าเราเอาชนะปมในจิตใจตัวเองได้แล้วหรือยัง