FASHION
จับทิศทางผลงาน Daniel Lee ที่ Burberry พร้อมเปิดเปลือยทุกเรื่องราวผ่านบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟนับถอยหลังอีกเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น เราจะได้เห็นผลงานการออกแบบของ Daniel Lee ภายใต้บ้านใหม่อย่าง Burberry กันแล้ว! |
แดเนียล ลี นั่งอยู่ภายในห้องเพ้นต์เฮ้าส์ของโรงแรมคลาริดจ์ ในลุคเสื้อสเวตเตอร์สีเขียวแก่ กางเกงทรงสปอร์ตสีดำ พร้อมรองเท้าไนกี้ เป็นช่วงเวลากลางเดือนพฤศจิกายน 2022 เขานั่งอยู่ด้านหน้าประตูกระจกที่เห็นทิวทัศน์ของกรุงลอนดอนขณะที่ฝนปรอย และหอนาฬิกาบิ๊กเบนที่อยู่ไกลๆ เมื่อคืนก่อนหน้านี้ ลี ได้ไปที่ร้านอาหาร Chiltern Firehouse เพื่อพบปะกับเหล่านักข่าวด้านแฟชั่นท้องถิ่น และหนึ่งในอดีตอาจารย์จาก Central Saint Martins “มันเป็นสิ่งที่ดีที่เราได้คุยกัน ณ ที่แห่งนั้น” เขากล่าว “เป็นช่วงเลาที่ผมไม่ได้เหนื่อยล้ากับการที่ต้องเตรียมตัวสำหรับคอลเล็กชั่นใหม่”
เมื่อเดือนตุลาคม 2022 หลังจากโชว์ครั้งสุดท้ายของ Ruccardo Tisci ภายใต้แบรนด์อังกฤษนี้ ลี ในวัย 36 ก็ได้ถูกเลือกให้นั่งตำแหน่ง ประธานฝ่ายสร้างสรรค์แห่งแบรนด์ Burberry ซึ่งเปรียบเสมือนการได้กลับมาที่บ้านอีกครั้งสำหรับดีไซเนอร์ผู้ที่เคยรั้งตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่ง Bottega Veneta มาก่อน ทำให้เขาต้องไปๆ กลับๆ ระหว่าง กรุงมิลาน และกรุงลอนดอน “ผมมีความสุขมากๆ เพราะมันรู้สึกเหมือนทุกอย่างมาบรรจบกันอย่างสวยงาม” ลี กล่าว “ผมไม่ได้อาศัยที่นี่แบบเต็มตัวเลยหลังจากเรียนจบจากเซนต์มาร์ตินส์ ผมเคยอยู่ที่นิวยอร์ก เพื่อทำงานให้กับ Donna Karan แล้วก็ย้ายไปอยู่ที่กรุงปารีสเพื่อทำงานให้กับ Céline แล้วก็ไปอยู่ที่กรุงมิลานแบบไปๆ กลับๆ ระหว่างเมืองเหล่านั้นแล้วก็กลับมาที่ลอนดอน เพื่อหลีกหนีความวุ่นวาย หรือไม่ก็มาเสาะหาแรงบันดาลใจ มันดีมากๆ ที่จะได้กลับมาที่นี้แบบเป็นเรื่องเป็นราวอีกครั้ง”
เมื่อเขาไม่ได้ทำงาน ซึ่งพูดกันตามตรงเขาก็ไม่ค่อยได้มีเวลาว่างเท่าไหร่ ลีมักใช้เวลากับ โรเบิร์ตโต บอล คนรักของเขาซึ่งเป็นอดีต Principal Dancer แห่ง American Ballet Theatre พวกเขามักไปดูบัลเล่ต์ที่ รอยัล โอเปร่า เฮ้าส์ ด้วยกัน โดยเขาเผยว่า “Light of Passage” ของ Crystal Pite นั้น “น่าอัศจรรย์ที่สุด” เขากล่าว และพวกเขาก็ไปตามเสียงเพลง โดยเสียงเพลงล่าสุดคือคอนเสิร์ตของ เคนดริก ลามาร์ ที่จัดแสดงที่ The O2 เมื่อเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ เขาก็กำลังซ่อมแซมบ้านอยู่ด้วย “เป็นระเบียงสไตล์จอร์เจีย รู้สึกเป็นลอนดอนสุดๆ ซึ่งผมชอบมาก มันให้ความรู้สึกแบบ ชาลส์ ดิกคินส์ มากๆ” เขากล่าว “มันดีมากที่ได้รู้สึกว่าคุณอยู่ในพื้นที่ที่มีประวัติศาสตร์ และคุณเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์นั้น มันอยู่มาก่อนหน้าคุณ และจะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ หลังจากนั้น”
แดเนียล ลี มีกำหนดการที่จะเริ่มประเดิมโชว์แรกกับ Burberry ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2023 และอาจใช้เวลาสัก 2-3 เดือนในการกำหนดวิสัยทัศน์ของเขาสำหรับแบรนด์ เมื่อสมัยที่เขาอยู่ที่ Bottega Veneta เขามีเวลาเตรียมตัวสำหรับรันเวย์โชว์แรกของเขามากกว่านี้ นั่นคือ 8 เดือนก่อนโชว์แรกจะเริ่มขึ้น และถือเป็นการเปิดตัวในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ ซึ่งในตอนนั้นเขาเขินอายเกินกว่าที่จะถามคำถามตอนอยู่หลังเวที แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะขาดความหนักแน่นในความคิดเห็นของตัวเอง กระเป๋า Pouch และ Cassette ของเขากลายเป็นไอเท็มฮิตในชั่วพริบตา และรองเท้า Intrecciato สานหัวเหลี่ยมก็ถูกใจผู้คนมากมายจนมีของหน้าตาคล้ายกันออกมาทั่วลอนดอน ทั้งในร้านราคาถูกไปจนถึงราคาหลายหลัก เช่นเดียวกับรองเท้าบูท Puddle (รองเท้าเหล่านี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่นี้ในการปั้นแบรนด์ Burberry ให้มีความเอาท์ดอร์ มากขึ้น) และภายใต้การรังสรรค์ของลี สีเขียวสดใสเอกลักษณ์ของ Bottega ก็กลายเป็นสีที่มาแรงที่สุดในโลกแฟชั่นในเวลานั้น
ทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้เขาคว้ารางวัล 4 รางวัลจากเวที London’s Fashion Awards ไปได้เมื่อเดือนธันวาคม 2019 ซึ่งยังไม่มีดีไซเนอร์คนไหนมาล้มสถิติได้ นอกจากนี้ Bottega Veneta ยังฮิตติดลมบนมากเสีนจนในช่วงที่สถานการณ์โรคระบาดเริ่มรุนแรงขึ้นช่วงแรกๆ ทางแบรนด์สามารถจัดโชว์แบบเล็กๆ ได้โดยไม่ต้องสนใจตารางแฟชั่นวีก แต่หลังจากรันเวย์โชว์ ณ ดีทรอยต์ เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2021 ที่มีทั้ง Mary J Blige และ Lil’ Kim นั่งอยู่ฟรอนต์โรว์ ไม่กี่วันลีก็ตัดสินใจโบกมืออำลาแบรนด์อย่างฉับพลัน โดยบริษัทแม่ของทางแบรนด์อย่าง Kering เอ่ยสั้นๆ ว่านี่เป็น “การตัดสินใจร่วมกัน” ทำให้เกิดการคาดเดาว่าทำไมลีถึงตัดสินใจโบกมือลาในเวลานั้น และเมื่อถามเกี่ยวกับเรื่องเล่านี้ในอีกปีให้หลัง ลีก็ไม่ได้ให้คำตอบอย่างตรงไปตรงมา เขากลับกล่าวแค่ว่า “ผมคิดว่าทุกคนจะได้เห็นว่าทีมงานยังคงเดินหน้าร่วมงานด้วยกันได้อย่างไร ที่ Burberry มีผู้คนมากมายที่ผมเคยร่วมงานด้วยในหลายปีที่ผ่านมาในสายงานนี้” และเขาก็ไม่จมปลักอยู่กับความเสียดายเช่นกัน “ผมยังรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ยังคงเห็นอิทธิพลของ Bottega อยู่รอบๆ ตัว เวลาผมเดินเล่นอะไรแบบนี้”
หลังจากการเข้ามารับตำแหน่งใน Burberry ของลี หลายคนก็หันมาให้ความสนใจกับความเป็นอังกฤษของเขามาเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในอังกฤษเอง โดยลีเข้าใจว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น “เมื่อตอนเป็นเด็ก Burberry เป็นแบรนด์ที่ทุกคนในประเทศรู้จัก เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอังกฤษเลยล่ะ” ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและแบรนด์นี้ลึกซึ้งกว่าที่หนุ่มอังกฤษทั่วไปมี “ผมมาจากแบรดฟอร์ด ยอร์กเชียร์ ใกล้กับคาสเซิลฟอร์ด เมืองที่ผลิตเทรนช์โค้ต และคีธลีย์ เมืองที่ผลิตผ้ากาเบอร์ดีน” ลีกล่าว “มันใกล้บ้านผมมากๆ และครอบครัวฝั่งแม่ผมบางคนก็ทำงานในโรงงานต่างๆ ที่ผลิตเสื้อผ้าให้กับ Burberry แม่ของผมยังมีเทรนช์โค้ต ที่น้าของเธอได้มาเป็นของขวัญวันเกษียณอยู่เลย เป็นเรื่องน่ารักมากๆ” ลีเป็นพี่คนโตในบรรดา 3 พี่น้อง โดยน้องชายของเขาเป็นช่างประปา ส่วนน้องสาวเป็นพยาบาลผู้เชี่ยวชาญด้านผู้ป่วยติดสุรา โดยทั้งสองยังคงอาศัยอยู่ที่ยอร์คเชียร์ ไม่ไกลจากพ่อแม่ของพวกเขา “พวกเราได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนี้ในอังกฤษ” ดีไซเนอร์หนุ่มกล่าว “น่าเศร้ามากที่มันไม่ได้รับการดูแลเหมือนกับที่ฝรั่งเศส หรืออิตาลี แต่ก็ยังคงมีองค์ประกอบบางอย่างเหลืออยู่ คิดแล้วก็น่าตื่นเต้นว่าพาร์ตเนอร์ในอนาคตของเราจะมีใครบ้าง และเราจะช่วยสร้างอาชีพได้อย่างไร”
หลังจากย้ายมา สิ่งแรกที่ลีทำคือทำความรู้จักกับทีมงาน นอกจากนั้นเขายังเดินทางไปยัง ฟลอเรนซ์ อันเป็นฐานโรงงานผลิตเครื่องหนังและรองเท้าของแบรนด์ อีกทั้งยังเดินทางไปคาสเซิลฟอร์ด เพื่อดูโรงงานผลิตเทรนช์โค้ต และไปดูคลังที่อยู่ระหว่างกรุงลอนดอน และไบลท์ ทางตอนเหนือของอังกฤษ “ผมได้มองดูอัตลักษณ์แห่งแบรนด์หลักทั้ง 3 ซึ่งแน่นอนว่าคือลายเช็ค, อัศวิน และผ้ากาเบอร์ดีน เพื่อที่จะรู้ได้ว่าเราควรต่อยอดมันอย่างไรดี”
แบรนด์นี้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อ 166 ปีที่แล้วโดย โทมัส เบอร์เบอร์รี่ นักออกแบบหนุ่มผู้เริ่มผลิตเสื้อผ้าที่ทนทานต่อสภาพอากาศของประเทศอังกฤษ โดยเขาเป็นผู้คิดค้นผ้ากาเบอร์ดีน ซึ่งเป็นผ้าวูลทอละเอียดกันน้ำขึ้นมาในปี 1879 ฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นคอนเซ็ปต์ที่ลีให้ความสนใจ “มันคือการออกแบบอย่างมีความหมาย สรรค์สร้างนวัตกรรมอย่างมีเป้าหมาย ไม่ใช้สร้างนวัตกรรมเพื่อให้มีเสื้อผ้าทรงใหม่ๆ หรือเทคนิคใหม่เท่านั้น ความตั้งใจของ โทมัส เบอร์เบอร์รี่ คือการรังสรรค์เสื้อผ้าสำหรับผู้คนที่ออกไปใช้ชีวิตข้างนอก” เขากล่าว “นั่นคือแนวความคิดที่ผมพยายามจะนำมาใช้”
WATCH
เมื่อบทสนทนาเหล่านั้นเดินทางมาสู่การใช้งานในวงการแฟชั่น “ลองนึกถึงเทรนช์โค้ตดูสิ มันอยู่มาหลายสิบปีแล้ว แล้วถ้าหากพูดถึงกระเป๋าที่อยู่มาอย่างยาวนานเหมือนอย่างเทรนช์โค้ตล่ะ หรือรองเท้า หรือเสื้อโอเวอร์โค้ตที่อยู่เคียงคู่กับเทรนช์โค้ทงตเหล่านั้นล่ะ เรากำลังนึกถึงบรรยากาศของความเป็นเอาท์ดอร์” เขากล่าว “มันไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นโอเวอร์โค้ต แต่มันจะต้องสามารถให้ความอบอุ่น พร้อมสัมผัสที่สบาย และง่ายต่อการขยับตัว ไม่หนัก ผมค่อนข้างตื่นเต้นที่จะได้เริ่มต้นโดยการทำโชว์สำหรับฤดูหนาว เพราะผมคิดว่ามันให้ความรู้สึกถึงความเป็น Burberry อย่างมาก”
แดเนียล ลี เองก็เป็นพวกชอบออกไปผจญภัยเช่นกัน โดยในช่วงปีที่ผ่านมา ระหว่างย้ายจาก Bottega Veneta มายัง Burberry เขาได้เดินทางไปยัง บอตสวานา และซิมบับเว “บอตสวานา สุดยอดไปเลย” เขากล่าว “เพราะว่าที่นั่นเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากรน้อยที่สุดในโลก การอยู่กับสัตว์มันทำให้คุณรู้สึกติดดินมากขึ้น” นอกจากนี้เขายังเดินทางไปยัง มาชู ปิกชู และคิวบา ถึงสองรอบด้วยกัน
เราไม่จำเป็นที่จะต้องรอให้ถึงรันเวย์โชว์เพื่อที่เราจะได้เห็นว่าทิศทางของ แดเนียล ลี ที่กำลังมุ่งหน้าไปจะเป็นแนวทางแบบไหน เมื่อเดือนที่ผ่านมา เขาได้ถ่ายทำแคมเปญกับ Burberry เป็นแคมเปญแรกร่วมกับไทโรน เลอบอน ช่างภาพชาวลอนดอน ผู้เคยร่วมงานกับเขาที่ Bottega Veneta แคมเปญนี้หยิบยกเหล่าไอเท็มสุดคลาสสิกของ Burberry ถ่ายทอดผ่านมุมมองของลี และพร้อมที่จะเปิดตัวในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ผ่านทุกช่องทางของ Burberry (โดยใช้สื่อดั้งเดิมมากกว่าที่เขาเคยใช้ที่ Bottega Veneta ซึ่งโด่งดังด้วยการลบทุกคอนเทนต์ไปจากอินสตาแกรม และปิดแอคเคาต์ที่นับเป็น “digital journal”ลง)
“ผมชอบการทำงานกับ ไทโรน และทีมของเขาเพราะพวกเราล้วนทุ่มเท พวกเรามีไอเดียใหม่ๆเสมอ พวกเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมานาน เราจริงใจต่อกัน” ลียังกล่าวถึงนักแสดงในผลงานนี้อีกว่า “พวกเขาได้สื่อถึงความเป็นกรุงลอนดอน และประเทศอังกฤษอย่างแท้จริง เหล่าผู้คนที่เชี่ยวชาญในสิ่งที่พวกเขาทำมากที่สุด นั่นคือผู้คนที่เปี่ยมไปด้วยคุณสมบัติ” ถึงเขายังไม่อยากจะเปิดเผยชื่อในตอนนี้ แต่ก็ยืนยันได้ว่าพวกเขาเหล่านั้นมาจากวงการการเต้น ฟุตบอล ดนตรี และภาพยนต์ “Burberry ชูความเป็นชาวอังกฤษและวัฒนธรรมของอังกฤษชัดเจน ดังนั้นเราเลยใช้ช่องทางของเราในการเผยแพร่และส่งต่อวัฒนธรรมเหล่านั้น ผมไม่รู้ว่าผมสมควรที่จะพูดสิ่งเหล่านี้หรือไม่” แต่มากกว่าที่จะทำให้ผู้คนประหลาดใจ ผมอยากให้ผู้คนมองเห็นถึงวิสัยทัศน์ใหม่และรู้สึกเห็นด้วยว่า ‘ใช่แล้ว นั่นแหละที่เหมาะสม นั่นแหละคือสิ่งที่ Burberry ควรจะเป็น'
เขากล่าวว่าเขารู้สึกเข้ากันได้ดีกับ โจนาธาน เอกรอยด์ ซีอีโอของ Burberry โดย โจนาธาน เอกรอยด์ เคยร่วมงานกับ Versace เมื่อเดือนเมษายน 2022 ที่ผ่านมานี้ “เราตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมสร้างทุกๆประวัติศาสตร์” ลีกล่าว เขาไม่ได้ทำงานกับสไตลิสท์เพื่อรันเวย์โชว์ ถึงแม้เขาจะทำงานที่รายล้อมไปด้วยผู้หญิงผู้มีมุมมองอันล้ำค่า “เราทำงานกันเป็นทีม ผมทำงานสไตลิสต์ในช่วงแรกที่ Bottega แต่ในช่วงหลังเราไม่ได้ทำงานร่วมกันนัก เพราะมันเป็นเหมือนสัญชาตญาณในการทำงานไปแล้วนั่นเอง”
แฟชั่นโชว์แรกที่ แดเนียล ลี ได้ชมหลังจากเรียนจบจาก Central Saint Martins คือโชว์ฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวประจำปี 2012 ของ Burberry ภายใต้ คริสโตเฟอร์ เบลีย์ “โชว์ที่มีฝนเทียมน่ะ” เขากล่าว แต่ก่อนหน้านั้น เขาก็ได้มีเสื้อผ้าจาก Burberry เป็นชิ้นแรก ซึ่งก็คือเสื้อสเวตเตอร์ที่ เบลีย์เป็นครออกแบบ “เสื้อผ้าพวกเสื้อนิตติ้ง เยี่ยมมากๆ ตอนที่คริสโตเฟอร์ยังอยู่” เขากล่าว ลี และ เบลีย์ มารู้จักกันตอนที่ลีได้รับตำแหน่งที่ Bottega Veneta ด้วยความที่มีเชื้อสายยอร์คเชียร์เหมือนกัน และตอนนี้ดีไซเนอร์ผู้ครองตำแหน่งนี้มาในช่วงปี 2001 ถึง 2018 ก็เปรียบดังเมนเทอร์ “ผมคิดว่าคริสโตเฟอร์ได้สร้างความเป็นหนึ่งเดียวกัน [ที่ Burberry] เขาอบอุ่นและเป็นกันเองมาก เขาทำงานกับแบรนด์มานานด้วย”
แล้ว แดเนียล ลี จะอยู่กับแบรนด์เป็นเวลานานด้วยหรือไม่...ดูเหมือนเขาจะมองเรื่องนี้แบบเดียวกันกับที่เขามองเรื่องระเบียงสไตล์จอร์เจียของเขา “ผมพยายามไม่คาดเดาเรื่องในอนาคตอันไกล” เขากล่าว “แต่ความตั้งใจของผมคือการสร้างสรรค์ผลงานที่โด่งดังออกมา”
ข้อมูล : British Vogue
สัมภาษณ์ : Nicole Phelps
WATCH