FASHION

เจาะลึกคอลเล็กชั่น Spring 2018 จาก Coach แบรนด์เครื่องหนังสุดฮอต!

Coach นำเสนอคอลเล็กชั่นใหม่ประจำซัมเมอร์ 2018 ครั้งนี้เต็มที่ด้วยการผสมทั้งศิลปะ ความงามแห่งยุคสมัย และความสนุกขี้เล่นไว้ด้วยกัน

แบรนด์เครื่องหนังสุดฮอต Coach นำเสนอคอลเล็กชั่นใหม่ประจำซัมเมอร์ 2018 ครั้งนี้เต็มที่ด้วยการผสมทั้งศิลปะ ความงามแห่งยุคสมัย และความสนุกขี้เล่นไว้ด้วยกัน

 

 

 

ในการเปิดตัวผลงานคอลเล็กชั่นใหม่ประจำซัมเมอร์ 2018 ทีมของโค้ชที่ประเทศสิงคโปร์ต้อนรับเราด้วยพวงกุญแจรูปไดโนเสาร์ที่บัดนี้กลายเป็นภาพจำของแบรนด์จากการออกแบบของดีไซเนอร์มือดีชาวอังกฤษ Stuart Vevers ที่มารับหน้าที่ในการปลุกจิตวิญญาณของแบรนด์เครื่องหนังแห่งอเมริกันชนให้กลับมาคึกคักด้วยภาพลักษณ์ที่สดใหม่โดนใจวัยทีนอย่าง Selena Gomez นักแสดงสาวชื่อดังแห่งฮอลลีวู้ด ไปจนถึง James Franco ที่เขามารับหน้าที่พรีเซนเตอร์น้ำหอมตัวใหม่ของแบรนด์ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าบัดนี้โค้ชภายใต้การนำของดีไซเนอร์คนนี้มาไกลเกินกว่าจะเป็นแบรนด์เครื่องหนังธรรมดาๆ เสียแล้ว

 

 

เมื่อสปอตไลต์ส่องมาเต็มที่ขนาดนี้ เราจึงได้เห็นว่าผลงานทั้งเสื้อผ้า เครื่องหนัง และเครื่องประดับของแบรนด์มีการพัฒนา ปรับเปลี่ยน สร้างความสนใจใหม่อย่างเต็มที่ ด้วยการผสมผสานแรงบันดาลใจจากหลากหลายที่มา จนกลายเป็นผลงานเด่นที่เราได้เห็นกันทันทีที่เดินเข้าไปใน The Luxe Museum แกลเลอรีที่ตั้งอยู่ใจกลางสิงคโปร์ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่ในการจัดแสดงงานพรีเซนเทชั่นคอลเล็กชั่นนี้

 

 

"A pretty little something on the New York street” หรือ "สิ่งสวยงามที่เรามักพบเห็นบนท้องถนนในมหานครนิวยอร์ก" ท่อนเพลงฮิปฮอปของวง A Tribe Called Quest ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปี 1993 คือเรื่องเล่าเรื่องแรกที่สจวร์ต วีเวอร์สนำมาใช้เริ่มต้นในการทำงานครั้งนี้ เสื้อผ้าสตรีตแวร์แบบยุค 1990 ที่เราเห็นบนตัวหนุ่มสาวในเมืองใหญ่เช่นนิวยอร์กถูกนำกลับมาทำใหม่อีกครั้ง ภาพของการผสมชิ้นงานที่ดูหรูหราด้วยการปักประดับเลื่อม กากเพชร และเม็ดคริสตัลลงบนชุดกระโปรงสั้นสีสันสดใสชวนให้เรานึกไปถึงเสื้อผ้าของสาวปาร์ตี้ในยุค 1930 เช่นกัน ด้วยความพลิ้วไหวของผ้าซาตินตัดต่อสีและลายพิมพ์ แต่นำมาผสมกับบอมเมอร์แจ็กเกตปักลายจนให้ภาพของสาวเท่คนใหม่ที่สามารถเดินถนนชมเมืองในตอนกลางวัน ก่อนที่จะออกไปวาดลวดลายบนฟลอร์เต้นรำในตอนกลางคืนได้อย่างง่ายดาย

 

 

ความขัดแย้งของการเล่นสนุกกับวัตถุดิบหลากชนิดทั้งหนังสัตว์ ขนสัตว์ ผสมกับการตอกหมุดบนตัวชุด และการปักลาย ถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่บนแจ็กเกตที่สวมทับชุดกระโปรงผ้าพิมพ์ลายดอกไม้อีกที ก่อนที่จะนำเสนอลวดลายการ์ตูนของ Keith Haring ศิลปินดังแห่งยุค 1980 ลวดลายสไตล์กราฟฟิตี้ของเขาถูกนำมาเล่นสนุกบนตัวชุดได้อย่างน่าสนใจ ไม่เพียงเท่านั้น กลิ่นอายของยุค 1970 ยังปรากฏอยู่บนดีเทลเล็กๆ น้อยๆ รวมไปถึงการสไตลิ่งเสื้อผ้าในคอลเล็กชั่น เราได้เห็นภาพของคาวบอยหนุ่มสาวเดินเท่เคียงข้างสาวกรันจ์ร็อกและสาวสังคมสุดหรูคนใหม่ที่ล้วนมาปรากฏร่างสร้างภาพความหลากหลายของคอลเล็กชั่นนี้ได้อย่างน่าสนใจและประหลาดใจ แต่ทว่าลงตัวจนเกิดเป็นภาพของสาวอเมริกันคนใหม่ที่พร้อมบุกตะลุยไปในทุกที่ที่เธออยากไปเยือน แถมมันยังเข้ายุคเข้าสมัยกับผู้หญิงในทุกชนชาติให้สามารถเข้ามาเลือกหาชิ้นเด็ดไปสวมใส่ได้ตามความชอบของตัวเอง

 

 

มาถึงเครื่องหนังกันบ้าง กระเป๋าที่จัดเป็นชิ้นหลักของคอลเล็กชั่นนี้คือกระเป๋ารูปทรงคล้ายกระเป๋าไปรษณีย์ (Mailbox) ที่ออกแบบโดย Bonnie Cashin เมื่อปี 1972 ดีไซน์ใหม่ในเวอร์ชั่นล่าสุดนี้ยังคงความโดดเด่นและเข้าได้กับทุกลุค ไปได้ทุกที่ ไม่ต่างจากคอลเล็กชั่นเสื้อผ้า

 

 

 

 

เราปิดท้ายวันด้วยการไปร่วมงานปาร์ตี้ที่ชื่อว่า Holiday Party ที่จัดขึ้นในโลเคชั่นลึกลับห่างใจกลางเมืองออกไปเล็กน้อย ณ Tagore Lane Warehouse โกดังเก็บของเก่าที่ตกแต่งให้เหมือนเฮาส์ปาร์ตี้ สนุกสนานกันตั้งแต่ด้านหน้าทางเข้างานซึ่งประดับประดารูปสัตว์ในคอลเล็กชั่น เช่น ปลาฉลาม ม้ายูนิคอร์น ไดโนเสาร์ มีตู้เกมย้อนยุคสมัย 1980-1990 ให้กดเล่นแลกของรางวัล แสงไฟดิสโก้ ซุ้มถ่ายภาพโพลารอยด์ให้เหล่าแฟนแฟชั่นรวมกลุ่มกันมาถ่ายเล่นอย่างเฮฮา ก่อนที่จะแดนซ์กันบนฟลอร์เต้นรำปิดท้ายค่ำคืนสนุกสมกับ #BringOnTheJoy อันเป็นแฮชแท็กหลักของงานปาร์ตี้นี้ เรียกได้ว่ามีความสุขกันตั้งแต่เช้าจนดึกในลุคของโค้ชสมความตั้งใจของคอลเล็กชั่นใหม่ที่ทุกคนสามารถเอนจอยกันได้ในซัมเมอร์นี้

 

WATCH