‘Fifty to Infinity’ การเดินทางครั้งใหม่ของ Club 21 ในปีที่ 50 บนถนนสายแฟชั่นและสไตล์ไร้ขีดจำกัด

     หากเปรียบเทียบกับมนุษย์สักคนหนึ่งแล้ว ช่วงวัย 50 ปี ก็นับว่าเป็นช่วงชีวิตที่สำคัญไม่น้อย เผลอๆ อาจเป็นช่วงชีวิตที่มีความหมายมากที่สุดของใครหลายคน เพราะไม่เพียงเป็นช่วงเวลาที่จะได้หันกลับไปทบทวนชีวิตและดื่มด่ำกับประสบการณ์อันโชกโชนที่ผ่านมา ทว่ายังถือเป็นช่วงเวลาที่ควรค่าแก่การเฉลิมฉลอง พร้อมกำหนดทิศทางชีวิตเจนโลกหลังจากนี้ เฉกเช่นเดียวกับ Club 21 ผู้นำเข้าสินค้าและแฟชั่นระดับโลก ที่พร้อมก้าวไปข้างหน้ากับการเดินทางครั้งใหม่ที่ไร้ขีดจำกัดด้านแฟชั่นและสไตล์ “Fifty to Infinity”

     ย้อนกลับไปในปี 1972 อุตสาหกรรมแฟชั่นได้รู้จักกับ Club 21 เป็นครั้งแรก ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ โดยเริ่มต้นจากการวางตัวเป็นบูติกในรูปแบบ Stand-Alone ณ Tanglin Shopping Center ซึ่งรวบรวมเอาแฟชั่นไอเท็มจากแบรนด์ดังหลากหลายแบรนด์มาไว้ด้วยกันในที่เดียว ก่อนที่ธุรกิจของ Club 21 จะเฟื่องฟูในเวลาต่อมา พร้อมขยายกิจการและฐานลูกค้าไปสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น ประเทศมาเลเซีย จีน ไต้หวัน เกาหลี และประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1994 หลังจากการก่อกำเนิดของ Club 21 ดั้งเดิม อีก 22 ปีต่อมา

     ตลอดระยะเวลา 5 ทศวรรษที่ผ่านมา กับประสบการณ์อันโชกโชนบนสายทางแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ทำให้ Club 21 ไม่เคยเป็นรองใคร ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนที่สุดในสายตาของโว้กและคนแฟชั่นคือ ‘การไม่หยุดนิ่ง’ เราต่างได้เห็นการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าและมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดหย่อน เลือกสรรผลงานแฟชั่นไอเท็มจากแบรนด์ระดับโลกมากมายที่ไม่ได้มีแค่ความสวยงาม หากยังแตกต่างด้วยเหล่าแฟชั่นไอเท็มที่แฝงแนวคิดด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนเอาไว้ เข้ามารวมไว้ด้วยกันในคลับแห่งเดียว เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนแฟชั่นทุกกลุ่มมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งที่ตอนนี้ Club 21 ได้ขยายสาขาไปมากถึง 130 ร้าน พร้อมแบรนด์แฟชั่นในเครือนับไม่ถ้วน ทั้ง 3.1 Phillip Lim, Acne Studios, Balmain, ck Calvin Klein, COMME des GARCONS, DKNY, ISSEY MIYAKE, Jacquemus, JW Anderson, Maison Margiela, Marine Serre, Mulberry, Paul Smith, rag & bone, Stella McCartney, Thom Browne, Vetements และอีกมากมาย การันตีการเป็นหนึ่งในผู้นำในการขับเคลื่อนโลกแฟชั่นเสมอมา

     แล้ว Club 21 ในวัย 50 ปีล่ะ...เป็นอย่างไร

     Club 21 ในวัย 50 ปีคงไม่ใช่หญิงหม้ายแก่คร่ำครึ หรือเครื่องลายครามโบราณที่ถูกปล่อยปะละเลยให้หยากไย่เกาะเต็มพื้นที่ ทว่าตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง Club 21 ในวัย 50 ปียังคงโก้หร่าน ก้าวไปข้างหน้า และนำสมัยไม่รู้จบ ดั่งปณิธานที่เธอคนนี้ได้ให้ไว้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นโลกว่า ‘Fifty to Infinity’

     Club 21 ในวัย 50 ปีจะยังคงสาวเท้าออกจากพื้นที่ปลอดภัยของเธอ เพื่อออกไปค้นหาและทำความรู้จักกับผู้คนที่ต่างเจนเนอเรชั่นกันอย่างใกล้ชิดบนโลกกว้าง ผ่านความเข้าใจในการคัดสรรผลงานจากแบรนด์แฟชั่นทั่วโลกมาไว้ในที่เดียวกัน เอาใจกลุ่มคนแฟชั่นทุกๆ เจนเนอเรชั่น ไม่ว่าจะเป็นไอเท็มชิ้นคลาสสิก เรื่อยไปจนถึงผลงานมาแรงแห่งทศวรรษ ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความเป็น Multi-Label Store ชัดเจนยิ่งขึ้น

     Club 21 ในวัย 50 ปี ยังจะเป็นมากกว่าแค่สาวแฟชั่นที่เอาแต่ประโคมแฟชั่นไอเท็มไปวันๆ ทว่า Club 21 ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะเป็นดั่งคลับที่ให้มากกว่าแค่เรื่องแฟชั่น แต่ยังรวมไปถึงการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนรอบข้าง ผ่านแฟชั่นไอเท็ม งานคราฟต์ไม่เหมือนใคร และงานศิลปะที่มีความสนุกสนาน เติมเต็มช่วงชีวิตของผู้คนที่กำลังโหยหาความหวังและแรงบันดาลใจแห่งอนาคต

     ไม่เพียงเท่านั้น Club 21 ในวัย 50 ปี ยังจะเป็นสาวสังคมใจกว้างที่พร้อมโอบรับ และทำความเข้าใจกับแนวความคิดใหม่ของโลกกว้างใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นประเด็น Genderless ที่เสื้อผ้าจากแบรนด์ดังทุกชิ้นจะถูกคัดสรรมาเพื่อทุกคน ไม่จำกัดเพศหรือไซซ์ และไร้ซึ่งกฎเกณฑ์ เรื่อยไปจนถึงการนำเสนอทางเลือกของเหล่าผู้ชายผ่านแบรนด์ดังอย่าง Paul Smith, Thome Browne, Homme Plissé Issey Miyake, Vetements, Rick Owens และ Y-3 ที่สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในคลับแห่งนี้ได้แบบไม่น้อยหน้าใคร

     รวมไปถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ Club 21 นำเสนอตลอดมา และจะยังคงถูกพัฒนาต่อไปในก้าวที่ 50 นั่นคือ ‘ความใส่ใจในประเด็นสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน’ ซึ่งนับเป็นไม้เด็ดสำคัญของ Club 21 ก็ว่าได้ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับคนแฟชั่นที่กำลังมองหาแฟชั่นไอเท็มที่สวยและไม่ทำลายโลก ซึ่งแน่นอนว่า Stella McCartney และ Mulberry สองแบรนด์ในเครือของ Club 21 ก็นับว่าตอบโจทย์ไม่น้อย

     Club 21 ในวัย 50 ปี ที่ต้องใช้ชีวิตในยุคโซเชียลมีเดียครองเมืองเช่นนี้ ก็ยังไม่ลืมที่จะเปิดประสบการณ์ช็อปปิ้งแบบใหม่ๆ ที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในร้าน ทว่าเธอคนนี้ยังจะเป็นฝ่ายที่วิ่งโร่เข้าไปสมาคมกับคนแฟชั่นด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องรอให้คุณเดินทางมาหาถึงร้านแต่อย่างใด ด้วยบริการช็อปปิ้งผ่าน Website: Club21global.com หรือกระทั่งบริการการขายสินค้าในรูปแบบ Anywhere Service ที่ Club 21 จะตามไปให้บริการถึงบ้าน และอีกมากมาย เข้ากับยุคสมัยที่ผู้คนต่างใช้ชีวิตแบบ New Normal กันถ้วนหน้าเช่นนี้

     จากทั้งหมดที่โว้กได้ร่ายยาวมาจนถึงตรงนี้ ก็คงจะได้เห็นแล้วว่า Club 21 ในวัย 50 ปี ก็ยังคงเดินหน้าต่อเพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ให้กับวงการแฟชั่นอย่างไม่รู้จบ ด้วยความนำสมัยและเข้าใจในแนวคิดของโลกยุคใหม่ สร้างสมดุลระหว่างช่วงเวลาประวัติศาสตร์และช่วงเวลาใหม่ที่กำลังจะมาถึง พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของทุกคนอย่างแท้จริง