Chris Labrooy โคตรศิลปินดิจิทัลอาร์ตที่นำความเหนือจริงมาทำให้น่าตื่นเต้นถึงขีดสุด

     ถ้าจะพูดถึงงานศิลปะ ก่อนเข้าสู่โลกยุคโมเดิร์นศิลปะเต็มไปด้วยความเซอร์เรียลจากจินตนาการที่ถ่ายทอดออกมาเป็นงานจิตรกรรม ประติมากรรม และงานรูปแบบต่างๆ ที่รังสรรค์บนพื้นที่ทางศิลปะโดยตรง แต่ปัจจุบันศิลปะประเภทเซอร์เรียลรูปแบบต่างๆ ถูกสร้างให้เสพได้ง่ายดายขึ้น มีต้นแบบภาพที่ทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ไม่ซับซ้อน Chris Labrooy ก็เป็นอีกหนึ่งศิลปินดิจิทัลอาร์ตที่เตะตาเราและสร้างความประทับใจให้คนทั่วโลกอย่างมาก เพราะความผลิบานด้านไอเดียของเขามันทำให้สิ่งของสวยงามมีทั้งความงดงามในตัวและความล้ำทางไอเดียแบบสุดจะบรรยาย

     เริ่มแรกคริสเป็นบัณฑิตสาขาการออกแบบผลิตภัณฑ์จาก Royal College of Art สถาบันสอนการออกแบบชื่อดังของโลก เขาใช้ทักษะด้านการสร้างภาพ 3 มิติมาใช้เป็นรากฐานสร้างงานศิลปะโดยมีลายเซ็นที่ชัดเจน เฟอร์นิเจอร์และผลิตภัณฑ์รูปแบบล้ำสมัยต่างๆ กลายเป็นโจทย์หลักให้เขาสร้างสรรค์แบบไม่หยุดยั้ง หลังจากเขาใช้ทักษะพื้นฐานในการเรียนสร้างผลงานขึ้นมาหลากหลายชิ้น เทคโนโลยีก็พัฒนาตามเวลาที่ผันเปลี่ยนไปตลอดเวลา คริสไม่ใช่ศิลปินผู้ยึดติดอยู่กับวิธีการแบบเดิมๆ เขาจึงนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้อยู่เสมอ และนั่นทำให้เราเห็นพัฒนาการความเปลี่ยนแปลงของชิ้นงานตั้งแต่ยุคแรกจนถึงตอนนี้อย่างต่อเนื่อง

     แน่นอนว่าเราคุ้นเคยกันดีว่าสาขาออกแบบผลิตภัณฑ์เป็นสาขาวิชาหนึ่งในกลุ่มการศึกษาด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมศาสตร์ เพราะฉะนั้นการหยิบเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งการทำคอมพิวเตอร์กราฟิกรวมถึงทักษะการสร้างภาพ 3 มิติแบบดั้งเดิมมาผสมรวมกันทำให้คริสโดดเด่นมาก โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดียที่ตอนนี้อินสตาแกรมของเขามีผู้ติดตามมากกว่า 200,000 คน งานของเขาถูกจริตคนสมัยใหม่เป็นอย่างมาก เพราะรูปทรงที่คุ้นตาถูกเพิ่มความเหนือจริงจนได้รายละเอียดที่ดูล้ำโลกแต่ก็ไม่ได้ยากในการทำความเข้าใจนัก ความเชี่ยวชาญเพิ่มเติมด้านอักษรศิลป์ งานสถาปัตยกรรม ออกแบบผลิตภัณฑ์ และวิชวลอาร์ตก็ยิ่งเพิ่มมิติให้คริสอยู่ตลอดเวลา

     คริสนั้นมีฐานการทำงานอยู่ที่ประเทศสกอตแลนด์ เกาะเล็กๆ ในสหราชอาณาจักร  ทว่าความโด่งดังของเขาไม่ถูกจำกัดกรอบแคบด้วยพื้นที่ ศิลปินยุคดิจิทัลที่มาพร้อมความเก่งกาจในการบริหารโลกดิจิทัลทำให้ผลงานของเขาโด่งดังไปทั่วยุโรป พร้อมกระโดดข้ามฝั่งไปดังถึงฟากอเมริกา งานของเขามีทั้งแบบเอดิทอเรียลและงานแคมเปญสำหรับลูกค้า ซึ่งเราจะเห็นว่าผลงานแต่ละชิ้นถูกรังสรรค์ขึ้นใหม่ทั้งหมด ไม่ได้มีแพตเทิร์นซ้ำจำเจเท่าไรนัก ความแตกต่างของเอกลักษณ์ในตัวเขา และผลงานแต่ละชิ้นยิ่งผลักดันให้คริสกลายเป็นศิลปินดิจิทัลที่มีโอกาสทำงานให้กับองค์กรระดับโลกมากมายไม่ว่าจะเป็น Porshce, Apple, Nike, Lamborghini และอีกหลากหลายองค์กร ถือเป็นเครื่องการันตีได้เลยว่าหนุ่มคนนี้เปี่ยมด้วยพรสวรรค์พร้อมเคี่ยวตัวเองด้วยพรแสวงมากเพียงใด

     จากรายชื่อด้านบนจะเห็นว่ามีองค์ด้านเทคโนโลยีและรถยนต์มากมายใช้บริการความสร้างสรรค์ของคริส ดังนั้นความสุดยอดของเขามักถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานรถยนต์คันไอคอนิกที่ถูกแต่งเติมรายละเอียดในภาพจนเหมือนพาทุกคนหลุดเข้าไปในโลกของเขาเลยทีเดียว ถ้าชื่อของรถยนต์หรูยังไม่เพียงพอ ยังมียานยนต์อีกหลายแบรนด์ไม่ว่าจะเป็น Citroen, Lexus, Jaguar หรือจะเป็นสายการบินอย่าง British Airways ที่เขาสร้างมิติใหม่ให้กับสิ่งเหล่านี้ด้วย ตอนนี้ฟากตะวันตกกำลังพัฒนางานศิลปะให้หลอมรวมอยู่ในวิถีชีวิต อยู่ในโลกเสมือน เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อเปิดประตูจินตนาการให้กับคนได้พัฒนาความคิดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพราะฉะนั้นเราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าคริสเป็นตัวอย่างและเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้โลกแห่งศิลปะพัฒนาต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ ศิลปินคนนี้ไม่ใช่แค่นักสร้างผลงานแต่เป็นชายผู้หล่อหลอมสังคมแห่งจินตนาการให้ขับเคลื่อนไปโดยไม่รู้จบ “คริส ลาบรอย” ใครชื่นชอบผลงานเขาสามารถติดตามทางอินสตาแกรมได้ที่ @chrislabrooy 

 

ภาพ: Courtesy of Chris Labrooy