เผยช่วงชีวิต โคโค่ ชาเนล ในวงการฮอลลีวู้ด สู่แรงบันดาลใจสำคัญในโชว์ Spring/Summer 2021

     ไม่มีใครไม่รู้จักดีไซเนอร์ชื่อก้องโลกอย่าง Gabrielle Coco Chanel สุภาพสตรีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของโลก จากชีวิตสาวในสถานเลั้ยงเด็กกำพร้า สู่นางระบำคาบาเร่ต์ในคลับฝรั่งเศส ก่อนที่จะได้โชว์ฝีมือด้านแฟชั่นกับการเริ่มเป็นดีไซเนอร์หมวก และก้าวขึ้นสู่การเป็นตำนานในการสร้างแบรนด์ชาเนล ที่แม้ว่าจะผ่านมานานนับศตวรรรษแล้วก็ตาม แต่เรื่องราวชีวิตสูดหวือหวาระหกระเหินก็ยังถูกนำมาเล่าขานต่อกันไม่รู้จบ แต่จะมีสักกี่คนกันเชียวว่าช่วงหนึ่งของชีวิตหญิงสาวที่ได้อุทิศตนให้กับการเปลี่ยนแปลงโลกแฟชั่นจะเคยข้องเกี่ยวกับ "วงการฮอลลีวู้ด" มาก่อนเช่นกัน...

ภาพถ่ายของโคโค่ ชาเนล ขณะที่เดินทางไปทำงานที่เมืองลอสแอนเจลิส เมื่อปี 1931

 

     ย้อนกลับไปในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1931 โคโค่ ชาเนล ได้ละทิ้งดินแดนน้ำหอมอันเป็นผืนแผ่นดินชื่อเสียงของเธอดังคับฟ้า มุ่งหน้าสู่ Hollywood จากคำขอร้องของ Samuel Goldwyn โปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันแห่งสตูดิโอ United Artist ที่ได้เชิญเธอให้มาออกแบบเครื่องแต่งกายในภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเขาอย่าง Tonight or Never (1931) เพื่อให้นักแสดงหญิงชาวอเมริกันชื่อดังทั้งหลายมีลุคใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม ไม่ว่าจะเป็น Greta Garbo, Marlene Dietrich และ Gloria Swanson จากความคิดที่ซามูเอลเชื่อว่า “ผู้หญิงที่ออกไปดูภาพยนตร์ ก็คือผู้หญิงที่อยากรู้อยากเห็นว่าผู้หญิงคนอื่นๆ เขาแต่งตัวกันอย่างไร” นั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการผสานร่วมวัฒนธรรม และตัวตนส่วนหนึ่งของ โคโค่ ชาเนล ให้เข้าไปยืนหยัด และโลดแล่นอยู่ในโลกฮอลลีวู้ดอยู่พักใหญ่

     และหากจะว่ากันตามจริงแล้ว ช่วงชีวิตการเดินทางของโคโค่ ชาเนลนั้น ก็บรรจบไปบนเส้นที่ใกล้เคียงกับวงการภาพยนตร์โลกไม่น้อย... โคโค่ ชาเนล ลืมตาดูโลกในปี 1883 ซึ่งเป็นเวลาทึ่ใกล้เคียงกันกับที่วงการภาพยนตร์โลกถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 1895 ซึ่งทิ้งเวลาห่างกันเพียงทศวรรษกว่าๆ เท่านั้น อีกทั้งการถือกำเนิดขึ้นของทั้งสองยังนับเป็นการจุดประกายสิ่งใหม่บนโลกแฟชั่น และภาพเคลื่อนไหวไปพร้อมๆ กัน กล่าวคือ “ภาพยนตร์” คือเครื่องมือปฏิวัติภาพเคลื่อนไหว ในขณะที่โคดค่ ชาเนล คือผู้ปลดแอกผู้หญิงโลกตะวันตกให้หลุดพ้นจากพันธนาการของเครื่องแต่งกายที่รัดรึง และตรึงอิสระของผู้หญิงเอาไว้หลายทศวรรษก่อนหน้านั้น และเมื่อ “การปฏิวัติแห่งวงการภาพยนตร์” และ “การปลดแอกทางแฟชั่น” มาบรรจบกัน จึงเกิดเป็นผลงานชิ้นตำนานที่ดคดค่ได้ฝากเอาไว้ในโลกของฮอลลีวู้ด

ภาพถ่ายของ Samuel Goldwyn และ Coco Chanel ในปี 1931 เมืองลอสแอนเจลิส

 

     ในเวลานั้น โคโค่ ชาเนล นับเป็นผู้ทรงอิทธิพลหลายๆ ในโลกบันเทิงฮอลลีว็ด เธอสรรสร้างผลงานชิ้นสำคัญว้ามากมายให้ถูกเล่าขานต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ไม่ว่าจะเป็นชุดของสาวรับใช้ในภาพยนตร์เรื่อง The Rules of the Game ของ Renoir ที่โคโค่ได้ยกระดับวงการภาพยนตร์ผ่านเครื่องแต่งกายของสุภาพสตรียุคใหม่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ หรือแม้แต่การแนะนำชุดกันฝน และหมวกทรงเบเร่ต์ให้กับนักแสดง Carné ในบทบาทของ Michelle Morgan ในภาพยนตร์เรื่อง Port of Shadows จนกลายเป็นไอเท็มชิ้นไอคอนิกที่ฮอตฮิตไปทั่วเมือง กระนั้นช่วงชีวิตของโคโค่ ชาเนล ที่ถากถางไว้ในวงการฮอลลีวู้ดก็สิ้นสุดลงด้วยเพียงขวดน้ำหอม Nº5 เพียงขวดเดียว ที่เธอนำไปวางไว้ในฉากของภาพยนตร์อย่างมีเสน่ห์ในฉบับสาวปารีเซียง แต่บรรดานักวิจารณ์ และนักแสดงหญิงกลับบอกว่าฉากดังกล่าว ที่พยายามที่จะนำเสนอเสน่ห์ในแบบสาวปารีเซียงนั้นดูเรียบจนเกินไปสำหรับฮอลลีวู้ด และอเมริกัน เมื่อตัวตนของเธอถูกปฏิเสธจากวงการฮอลลีวู้ในครั้งนั้น เธอจึงตัดสินใจหันหลังให้กับวงการฮอลลีวู้ดนี้ และมุ่งหน้ากลับไปโอบกอดตัวตนของเธอที่ถนนกัมบงทันที

     อย่างไรก็ตามแม้ว่าโคโค่จะหันหลังให้กับวงการฮอลลีวู้ดแล้วอย่างถาวร หากเมื่อเวลาล่วงเลยไปในวัย 70 ปี โคโค่ยังได้กลายเป็นไอดอลของผู้ผลิตภาพยนตร์ฝรั่งเศสยุคใหม่หลายต่อหลายคน ที่ชื่นชอบความทันสมัยที่เป็นอมตะของเธอ ดังที่ Jeanne Moreau ได้เลือกชุดจากแบรนด์ Chanel ให้เป็นเครื่องแต่งกายในภาพยนตร์เรื่อง Dangerous Liaisons หรือแม้แต่ Truffaut ยังอนุญาตให้ Delphine Seyrig เลือกใช้เครื่องแต่งกายจากห้องเสื้อ Chanel สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Stolen Kisses ที่ทำให้จิตวิญญาณของโคโค่ ชาเนล ที่เคยผูกติดกับวงการภาพยนตร์โลกคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งในเวลานั้น

     บทชีวิตของโคโค่ ชาเนล ไม่เคยมีตอนอวสานที่แท้จริง ผ่านเวลามาเกือบศตวรรษ แรงบันดาลใจจากช่วงชีวิตของโคโค่ในโลกฮอลลีวู้ดได้ถูกนำกลับมาปัดฝุ่น และเล่าขานอีกครั้งในคอลเล็กชั่นประจำฤดูกาลใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ปี 2021 โดยฝีมือการสร้างสรรค์ของหัวเรือใหญ่คนล่าสุด ผู้ที่พาชาเนลฟันฝ่าวิกฤตการณ์โควิด-19 มาได้อย่างหวุดหวิด ที่ได้ปล่อยวิดีโอตัวอย่างโชว์ออกมาให้ได้เซอร์ไพรส์กัน กับวิดีโอที่ฉายให้เห็นภาพของป้ายตัวอักษร CHANEL แบบเดียวกันกับป้าย HOLLYWOOD จนทำให้เหล่าสาวกเดากันไปต่างๆ นานาว่า เวอร์ฌินีอาจนำช่วงชีวิตของโคดค่ ชาเนล ที่เคยผู้ติดกับโลกฮอลลีวู้ดกลับมาตีแผ่ให้เราได้เห็นอีกครั้ง ก่อนที่จะปล่อยวิดีโอตัวอย่างที่ 2 ออกมาโดยฝีมือการกำกับของ Inez &Vinoodh ที่เป็นการตัดต่อภาพยนตร์ 6 เรื่องรวมกัน จนทำให้เราแน่ใจว่า โชว์แรกหลังโควิด-19 ของชาเนลนั้นต้องเกี่ยวข้องกับฮฮลลีวู้ดอย่างแน่นอน ดังที่เราได้เห็นชาเนลเนรมิตโลกของฮอลลีวู้ดมาไว้ใน กรองด์ ปาเลส์ สถานที่โชว์ในตำนานของแบรนด์