FASHION
ถอดรหัส 5 สัญลักษณ์แห่ง CHANEL ความผูกพัน และปูมหลังแห่งชีวิตของ Coco Chanelที่มาของ 5 สัญลักษณ์ที่คงอยู่กับแบรนด์ Chanel มาจนถึงปัจจุบัน |
หากจะย้อนกลับไปในหน้าประวัติศาสตร์แฟชั่น คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าชาเนลคือหนึ่งในแฟชั่นเฮาส์ที่มีประวัติโดดเด่น และมีส่วนปฏิวัติการแต่งกายของผู้หญิงให้เรียบง่าย แต่ยังคงไว้ด้วยความหรูหราและมีเอกลักษณ์ นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 1910 จนถึงปัจจุบัน ชาเนลได้สร้างเอกลักษณ์ภาพจำผ่านการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ ที่โดดเด่น แต่รู้หรือไม่ว่าภายใต้สัญลักษณ์เหล่านั้นแฝงปูมหลังของกาเบรียล ชาเนลเอาไว้ด้วยเช่นกัน
โลโก้ตัวอักษร CC ไขว้ สัญลักษณ์จำของชาเนลตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน / ภาพ: Vogue.uk
สัญลักษณ์ CC
เริ่มต้นที่โลโก้ของแบรนด์ที่ถูกออกแบบอย่างเรียบง่ายโดยการนำสัญลักษณ์ C มาไขว้กันจนเกิดเป็นโลโก้ประจำแฟชั่นเฮ้าส์จนถึงปัจจุบัน เป็นการออกแบบโดยกาเบรียล ชาเนลเอง โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากลวดลายของหน้าต่างในสถานรับเลี้ยงเด็กที่เธอเองเติบโตขึ้นมา อีกทั้งเธอยังต้องการจะให้สัญลักษณ์ CC ไขว้สีดำ บนพื้นสีขาวนี้เป็นตัวแทนของตัวเธอด้วยชื่อย่อของเธอเอง และให้สัญลักษณ์นี้สะท้อนถึงความเรียบง่าย สวยงาม และยังดูทันยุคสมัยตามสไตล์ผู้หญิงชาเนลด้วย
ซ้าย: กาเบรียล ชาเนลในลุคชุดสูทผ้าทวีดที่เธอออกแบบด้วยตัวเองในปี 1929, ขวา: Kendall Jenner ในชุดสูทผ้าทวีดที่ยังได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน
ชุดสูทผ้าทวีด
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าชุดสูทผ้าทวีดคือหนึ่งในภาพจำที่ทำให้ผู้คนนึกถึงชาเนลได้มากที่สุด จนถึงปัจจุบันผ้าทวีดอาจจะถูกใช้ออกแบบเป็นเสื้อผ้าหลากหลายประเภท แต่จุดเริ่มต้นของชุดสูทผ้าทวีดเริ่มต้นจากความชื่นชอบส่วนตัวของกาเบรียล ชาเนลที่เธอมักจะชอบหยิบยืมเสื้อผ้าของ Duke of Westminster คนรักของเธอในตอนนั้นมาสวมใส่ เพราะโครงเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายมากกว่า เธอจึงได้ปรับประยุกต์โครงชุดสูทแบบผู้ชายให้กลายเป็นชุดสูทกระโปรงแบบผู้หญิง และเลือกใช้ผ้าทวีดซึ่งในตอนนั้นยังนิยมใช้ในเสื้อผ้าผู้ชาย มาใช้ในการออกแบบชุดสูทของเธอ เพื่อให้ผู้ที่ได้สวมใส่รู้สึกถึงความสบาย คล่องตัว แต่ก็ยังสวยงามได้ตามแบบฉบับของผู้หญิงชาเนล
WATCH
ซ้าย: Little Black Dress ที่ถูกออกแบบโดยกาเบรียล ชาเนล ในปี 1926, ขวา: Karl Lagerfeld กับกองทัพนางแบบใน Little Black Dress
Little Black Dress
เนื่องด้วยความต้องการที่จะปลดเปลื้องผู้หญิงออกจากพันธนาการแห่งเสื้อผ้าที่โอบรัดผู้หญิงไว้ภายใต้คอร์เซ็ทที่รัดรึง และกระโปรงทรงสุ่มที่ไม่ได้สะดวกต่อการเดิน กาเบรียลจึงได้ออกแบบชุดทรงหลวมสีดำ ที่ช่วยให้ผู้หญิงสวมใส่ได้สบาย และใช้ชีวิตได้คล่องตัวมากขึ้นและได้นิยามชุดที่เธอออกแบบว่า Little Black Dress ซึ่งแรงบันดาลใจเบื้องหลังของชุดสีดำแสนเรียบง่ายนี้มาจากการแต่งกายของแม่ชีในสถานรับเลี้ยงเด็กที่เธอเติบโตขึ้นมาในวัยเด็กนั่นเอง
ซ้าย: ดอกคามิลเลียถูกประดับบนเข็มขัดคาดทับชุดของกาเบรียล ชาแนล, ขวา: ดอกคามิลเลียที่ถูกนำไปประยุกต์เป็นเครื่องประดับของแบรนด์
ดอกคามิลเลีย
ดอกไม้สีขาวที่มักจะประดับอยู่บนถุงกระดาษ อยู่ในกล่องสินค้า อีกทั้งยังถูกนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบเครื่องประดับของชาเนลมานับครั้งไม่ถ้วน ดอกคามิลเลียนั้นผูกพันกับกาเบรียล ชาแนล เนื่องเพราะนี่คือดอกไม้ที่ Boy Capel คนรักอีกคนหนึ่งของกาเบรียลมักจะมอบให้แก่เธอเสมอ เพราะมันเป็นดอกไม้ที่เธอโปรดปรานที่สุด อีกทั้งดอกไม้ชนิดนี้ยังไม่มีกลิ่นที่จะมาปะปนกับน้ำหอมของเธอ และด้วยรูปทรงของมันที่มีกลีบสลับซับซ้อนกันอย่างสวยงาม ยังสื่อถึงเสน่ห์อันซับซ้อน และน่าค้นหาของตัวกาเบรียลเอง และผู้หญิงในแบบชาเนลอีกด้วย
กลุ่มหญิงสาวที่สวมใส่รองเท้าทูโทนของชาเนลในปี 1957 / ภาพ: Who What Wear
รองเท้าทูโทน
หลังจากประสบความสำเร็จจากการออกแบบชุดสูทผ้าทวีด และชุด Little Black Dress และส่งให้ทั้งสองชุดกลายเป็นชุดที่ผู้หญิงต้องมีติดตู้เสื้อผ้า กาเบรียลก็ได้ส่งรองเท้าที่เธอออกแบบเพื่อเติมเต็มลุคของผู้หญิงให้สมบูรณ์ ในปี 1957 เป็นครั้งแรกที่รองเท้าสองสีของชาเนลได้วางขาย โดยการออกแบบรองเท้าที่มีสายคาดหลัง สลับโทนสีกันระหว่างตัวรองเท้าที่เป็นสีเบจ และหัวรองเท้าที่เป็นสีดำเพื่อส่งเสริมให้เรียวขา และรูปเท้าของหญิงสาวออกมาสวยงามที่สุด ด้วยตัวรองเท้าสีเบจจะช่วยให้เรียวขาดูยาวมากขึ้น และหัวรองเท้าสีดำที่ช่วยหลอกสายตาให้เท้าดูเรียวยาว มาพร้อมความสูงของรองเท้าที่ 5 เซนติเมตร ที่กาเบรียลคิดมาแล้วว่าเป็นความสูงที่ใส่กำลังสบาย และสวยที่สุด จึงไม่แปลกใจเลยว่ารองเท้าสองสีจะยังได้รับความนิยม และครองใจผู้หญิงมาได้จนปัจจุบัน
Coco Chanel / ภาพ: Britannica
ภายใต้งานออกแบบสร้างสรรค์มักจะมีเรื่องราวที่ต้องการจะเล่าผ่านสิ่งเหล่านั้นเสมอ แต่ความพิเศษของการออกแบบของดีไซเนอร์ชื่อก้องโลกอย่างกาเบรียล ชาเนลนั้นไม่เพียงแต่จะเล่าถึงภาพปูมหลังชีวิตของเธอ หากแต่การออกแบบสร้างสรรค์ของเธอยังแฝงความเข้าใจในสตรีเพศ และความเข้าใจถึงแก่นแท้ของเสื้อผ้า ดังคำกล่าวของเธอที่ว่า ‘Fashion changes, but style endures.’
ข้อมูล : Vogue UK, Luxury Promise, CR Fahion Book
WATCH