WATCHES & JEWELLERY

ใครจะเชื่อว่าขวดน้ำหอม Chanel N°5 จะกลายร่างเป็น Collection N°5 คอลเล็กชั่นจิวเวลรีชั้นสูงจำนวน 123 ชิ้น

ต้องขอบคุณอัจฉริยภาพฟ้าประทานของมาดมัวแซล Gabrielle Chanel ที่ทิ้งพิมพ์เขียวด้านการออกแบบไว้ให้ชนรุ่นหลัง

“สิ่งใดที่กาเบรียล ชาเนลเคยริเริ่มเอาไว้ สิ่งนั้นยังคงเป็นที่นิยมและมีการนำกลับมาใช้ซ้ำอยู่เสมอ” คำกล่าวนี้น่าจะอธิบายกลไกการทำงานของลัทธิ C ไขว้ที่กลายมาเป็นสรณะของประชาคมแฟชั่นทั่วโลกได้ดี แม้ว่าจะผ่านมาเป็นร้อยปี พิมพ์เขียวสุดสตรองที่มาดมัวแซลร่างไว้กลับยิ่งแข็งแรง เข้มข้น หรือที่ฝรั่งเรียกว่า Keep going strong! ไม่ว่าจะเป็นดอกคามีลเลีย กระเป๋าควิลต์รุ่น 2.55 แจ็กเกตผ้าทวีด หรือน้ำหอม Chanel N°5

ตุ้มหู N°5 Drop ประดับพลอยเบริลสีเหลือง

การกรุยทางของมาดมัวแซลถือว่าคุ้มค่า รวมถึงการตีความของผู้รังสรรค์หน้าใหม่ประจำเมซงก็มักเกิดขึ้นด้วยความเคารพนับถืออย่างสุดซึ้ง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ปี 2021 จะมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่เนื่องในโอกาสที่น้ำหอมชาเนล N°5 มีอายุครบ 100 ปี ด้วยเหล่าอัญมณีเลอค่าหลายร้อยกะรัตฝีมือ Patrice Leguéreau ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แผนกจิวเวลรี “ผมไม่ได้ต้องการให้ผลงานครั้งนี้เป็นการแสดงความระลึกถึงหรอกครับ ผมคิดว่าคอลเล็กชั่นนี้จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษแก่ผู้เป็นเจ้าของ นั่นคือการเดินทางเพื่อค้นหาจิตวิญญาณและความลับของน้ำหอมชาเนล N°5 ผมต้องการเข้าถึงจิตวิญญาณของกาเบรียล ชาเนลอีกครั้ง จึงเดินทางไปยังเมืองกรัส ไปที่ทุ่งดอกมะลิและดอกเมย์โรสกับ Olivier Polge นักปรุงน้ำหอมของชาเนล ได้ดื่มด่ำกลิ่นหอมเหล่านั้น และตั้งคำถามว่าเราจะเล่าเรื่องนี้ออกมาอย่างไร”

สร้อยคอ N°5 Sparkling Silhouette ที่ได้แรงบันดาลใจจากทรงขวดน้ำหอม

ปาทริซ เลอเกโรขึ้นชื่อเรื่องการสร้างแรงบันดาลใจให้สมจริงอยู่แล้ว (คอลเล็กชั่นที่แล้วเขาก็ปั้น Escale à Venise ด้วยการไปใช้ชีวิตที่กรุงเวนิสจริงๆ) ครั้งนี้เขานำประสบการณ์ที่ได้จากแหล่งกำเนิดของกลิ่นน้ำหอมสุดเย้ายวนมาผนวกเข้ากับ Bijoux de Diamants คอลเล็กชั่นจิวเวลรีที่มาดมัวแซลทำขึ้นในปี 1932 แล้วเชื่อมโยงทั้งหมดเข้ากับเอกลักษณ์ของขวดน้ำหอมเบอร์ 5 ในตำนานที่มาดมัวแซลเป็นคนออกแบบด้วยตนเอง

WATCH

แหวน Knotted N°5 จากไลน์ The Number

เริ่มตั้งแต่ฝาขวดเหลี่ยมเก๋ที่คล้ายเพชรเจียระไนทรงเหลี่ยมมรกตผสมกับขวดวิสกี้คริสตัลในสมัยก่อน แต่ความจริงแล้วเธอได้แรงบันดาลใจมาจากการมองจัตุรัส Place Vendôme จากระเบียงห้องของโรงแรม The Ritz ส่วนเลข 5 นั้นเป็นเลขศักดิ์สิทธิ์ประจำตัวมาดมัวแซล เพราะแม้แต่การเปิดตัวน้ำหอมครั้งแรกเธอก็เลือกวันที่ 5 เดือน 5 นอกจากนี้ตอนที่ Ernest Beaux นักปรุงน้ำหอมผู้คิดค้นนัมเบอร์ไฟฟ์ ส่งตัวอย่างน้ำหอมหลายๆ เบอร์มาให้มาดมัวแซลเลือก เธอก็ตัดสินใจเลือกเบอร์ 5 เพราะกลิ่นที่ผสมผิดสูตรกลายเป็นเอกลักษณ์ไป บวกกับความเชื่อตั้งแต่เด็กๆ ว่าเลข 5 คือเลขนำโชค เราจึงได้เห็นส่วนผสม 2 อย่างนี้ใน Collection N°5 ควบคู่ไปกับบรรดาดอกไม้ที่ใช้เป็นคีย์โน้ตในน้ำหอมอย่างดอกมะลิ ดอกเมย์โรส และดอกกระดังงา และรูปทรงโดยรวมของขวดน้ำหอมที่ใช้แนวคิดแบบแอ็บสแตรกต์ จิวเวลรีบางชิ้นทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังมองม่านหยดน้ำหอมเพชรจากชาเนล N°5 ในรูปแบบที่หรูหราที่สุด

สร้อยคอ 55.55 ชิ้นไฮไลต์ประจำคอลเล็กชั่นนี้

ชิ้นไฮไลต์คือสร้อยคอ 55.55 ตัวเรือนแพลทินัมประดับเพชร ที่ผลิตขึ้นเพียงชิ้นเดียวด้วยเพชรเจียระไนแปดเหลี่ยมพิเศษหนึ่งเม็ดในขนาด 55.55 กะรัต ประกอบเข้ากับการออกแบบที่นำรูปทรงของขวดน้ำหอมมาสร้างสรรค์ แม้แต่ตัวเกี่ยวตะขอด้านหลังก็เป็นเลข 5 ที่สำคัญคือสร้อยคอเส้นนี้จะเก็บอยู่ในคลังของชาเนล ไม่มีการนำออกมาวางขาย ชาเนล N°5 ไม่ใช่น้ำหอมธรรมดา แต่ยังสร้างความเคลื่อนไหวทางศิลปะ สังคม และความสุนทรีย์ให้ชาวโลกมาตั้งแต่ปี 1921 ด้วยความคลาสสิกร่วมสมัย ทาง MoMA นิวยอร์กจึงนำไปจัดแสดงในปี 1959 แม้แต่ Andy Warhol ก็นำไปสร้างแรงบันดาลใจในการทำซีรี่ส์ผลงานศิลปะ Ads: Chanel ในปี 1985 กระทั่ง Marilyn Monroe ยังให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันไม่ได้ใส่อะไรเลยตอนนอน นอกจากน้ำหอมชาเนล N°5 เพียง 5 หยดเท่านั้น”

แหวน Crystal Stopper จากไลน์ The Stopper ที่นำรูปทรงฝาขวดมาออกแบบ

นี่คือความยิ่งใหญ่ที่มาดมัวแซลชาเนลทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลัง น้ำหอมที่ไม่ใช่แค่น้ำหอม ขวดที่ไม่ได้เป็นแค่ขวด แต่คืองานศิลปะซึ่งถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างละเมียด ให้มาอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งของคุณ อยู่บนฝาผนังบ้าน อยู่บนร่างกายที่ยากจะลืมเลือน หรือแม้กระทั่งอยู่บนเรียวนิ้วหรือคอระหงในรูปแบบของจิวเวลรีชั้นสูงอย่างสมฐานะ ดังที่ปาทริซอธิบายแนวคิดของคอลเล็กชั่นชั้นสูงประจำปีนี้ไว้ว่า “เราจะต้องเปลี่ยนสิ่งที่มองเห็นได้ให้เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น และถ่ายทอดกลิ่นหอมเย้ายวนออกมาในรูปแบบที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้”