เสื้อลายขวาง หรือลายสไตรป์ที่ทุกคนเห็นกันมาอย่างยาวนั้นถือเป็นไอเท็มชิ้นเบสิกที่สามารถใช้สไตลิ่งร่วมกับลุคได้หลากหลายรูปแบบ ด้วยความเรียบง่ายแต่มีลูกเล่นที่ทำให้ไอเท็มชิ้นนี้ไม่เรียบแบนจนเกินไป ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้หวือหวาเสียจนมิกซ์แอนด์แมตช์ยาก ตลอดระยะเวลาหลายต่อหลายปีเสื้อแบบนี้ไม่เคยถูกลบไปจากสารบบแฟชั่นเลยแม้แต่น้อย บนรันเวย์เองก็มีการผลิตซ้ำหลากหลายรูปแบบ แต่แท้จริงแล้วเสื้อตัวนี้มีแพตเทิร์นดั้งเดิมและซ่อนความหมายเอาไว้อย่างน่าทึ่ง ภายใต้ลายขวางง่ายๆ ที่เราเห็นกันมีความหมายอะไรซ่อนอยู่บ้างหาคำตอบได้ในบทความนี้เลย

ทหารเรือฝรั่งเศสกับเครื่องแบบเสื้อเบรตัน / ภาพ: Heddels

     “Breton” ชื่อเรียกดั้งเดิมของเสื้อลายขวางแบบนี้ ก่อนอื่นเราต้องเริ่มต้นจากเหล่าทหารเรือกันก่อน แน่นอนว่าหลายคนคงคุ้นภาพทหารเรือชุดขาวเลเยอร์เสื้อแบบนี้ไว้ด้านใน จุดนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1858 โดยกองทัพเรือฝรั่งเศสคิดค้นเครื่องแบบนี้เพื่อกองเรือที่ประจำในพื้นที่ทางเหนือของประเทศ ต้องบอกว่าช่วงครึ่งศตวรรษแรกมันเป็นเพียงเครื่องแบบทหาร ไม่ได้รับความสนใจในเชิงแฟชั่นเท่าไหร่นัก ไม่มีบันทึกที่พูดถึงเสื้อเบรตันสำหรับพลเรือน จนกระทั่งในปี 1913 Coco Chanel เห็นเสื้อตัวดังกล่าวและคิดว่านี่คือมนต์เสน่ห์ที่น่าสนใจ เส้นทางแฟชั่นของเสื้อลายขวางแบบนี้จึงเกิดขึ้น

เสื้อลายขวางของแบรนด์ Saint James ที่เรียบง่ายคลาสสิก / ภาพ: WWD

     ชื่อ The Marinière ที่แปลว่ากะลาสีเรือจากแบรนด์ Chanel โด่งดังและได้รับความนิยมในเชิงแฟชั่น ทว่าก่อนหน้านั้น ในปี 1889 แบรนด์อย่าง Saint James ได้ผลิตเสื้อลายขวางนี้ออกเช่นกัน ซึ่งเสื้อดังกล่าวกลายเป็นเอกลักษณ์สำคัญที่อยู่คู่กับแบรนด์มาจนถึงทุกวันนี้ เรียกได้ว่าแบรนด์แฟชั่นแบรนด์แรกที่ทำให้เสื้อตัวนี้เข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้าอย่างจริงจัง (ถ้าไม่นับสำหรับทหาร) ก็คือแบรนด์สุดคลาสสิกจากฝรั่งเศสนี้เอง แบรนด์ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตเสื้อผ้าสไตล์เรียบง่าย เน้นการใช้ง่าย แต่ก็สอดแทรกลูกเล่นเล็กน้อยเพื่อเพิ่มมิติความสวยงาม

Coco Chanel กับเสื้อเบรตัน ภาพประวัติศาสตร์แฟชั่นที่เราคุ้นตา / ภาพ: Conde Nast Traveler

     ความยิ่งใหญ่ของชื่อชาเนลกับเสื้อลายขวางนั้นมีมากกว่าแค่การพัฒนารูปแบบความสวยงาม หรือโปรโมตแพตเทิร์นการทำเสื้อเบสิกให้เป็นที่นิยม เพราะเดิมทียุคนั้นผู้หญิงสวมเสื้อผ้าที่ค่อนข้างซับซ้อน มีรายละเอียดการซ้อนเลเยอร์ ไม่ว่าจะเป็นชุดเดรสฟูฟ่อง กระโปรงยาว เสื้อเบลาซ์ และแอ็กเซสเซอรี่อื่นๆ มากมาย แต่สำหรับชาเนลการหยิบเสื้อตัวนี้มาสวมใส่คู่กับกางเกงกลายเป็นแฟชั่นแสนขบถที่เปลี่ยนโลกนี้ไปตลอดกาล และนี่เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการแต่งกายสไตล์แคชชวลของผู้หญิงที่ไม่จำเป็นต้องจัดหนักจัดเต็ม เพียงแค่สวมเสื้อยืดเข้าคู่กับกางเกงสักตัวก็สามารถเดินออกจากบ้านได้อย่างมั่นใจ

Jean Paul Gaultier กับเสื้อเบรตันคู่ใจของเขา / ภาพ: Vogue Australia

     ก้าวข้ามมาถึงยุคปัจจุบันรูปแบบของเสื้อเบรตันถูกลดทอนกฎระเบียบลงมากมาย มีการมอบเส้นสายความอิสระมากขึ้น ประกอบกับแพตเทิร์นการทำเสื้อที่หลากหลายยิ่งทำให้ลายขวางมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกันไปในแต่ละคอลเล็กชั่น ของแต่ละแบรนด์ ทว่าแรกเริ่มเดิมทีเชื่อไหมว่าเสื้อตัวนี้มีแพตเทิร์นเฉพาะ โดยลายขวางนั้นต้องมี 21 เส้นเท่านั้น ซึ่งหมายถึงชัยชนะของนโปเลียนที่มีเหนือกองทัพอังกฤษจำนวน 21 ครั้ง และนั่นทำให้เป็นสัญลักษณ์ของความแกร่งกล้าที่สอดแทรกอยู่ในเครื่องแบบของเหล่าทหารเรือฝั่งเหนือมาตั้งแต่ต้น แน่นอนว่าตอนนี้ใครเห็นเสื้อลายขวางจะดูเป็นลายแพตเทิร์นเบสิกที่ไม่ได้มีความพิเศษอะไรมากนัก ทว่าหากย้อนถึงประวัติศาสตร์จะเห็นว่าการออกแบบของเรียบง่ายให้มีความหมายและทรงพลังคือกุญแจแห่งความยิ่งใหญ่ที่ทำให้เป็นอมตะเหนือกาลเวลา และนี่คือความน่าสนใจในการย้อนเรื่องราวประวัติศาสตร์แฟชั่นอย่างแท้จริง

 

ข้อมูล:

feraggio.com

heddels.com

vogue.com.au