FASHION
วัฒนธรรมก้นใหญ่แท้จริงแล้วมาจากไหน? โว้กพาย้อนอดีตชมที่มาความงามบั้นท้ายในแต่ละยุค
|
“อู้วว ว้าว!” เสียงอุทานชื่นชมความสวยงามในเรือนร่างของผู้หญิงทั้งจากผู้ชายและผู้หญิงด้วยกัน คุณค่าความสวยงามย่อมเปลี่ยนไปตามสถานที่และกาลเวลา บั้นท้ายก็เป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการนี้ แน่นอนว่าทุกอย่างมีจุดเริ่มต้น กว่าจะมาเป็นเทรนด์บั้นท้ายใหญ่ในปัจจุบัน เราผ่านความงามของก้นมาหลายรูปแบบ โว้กพาย้อนเวลาดูบั้นท้ายในอุดมคติในแบบฉบับอเมริกาซึ่งแผ่ขยายอิทธิพลทั่วไปโลกรวมถึงเมืองไทย การันตีด้วยสไตล์ของดีไซเนอร์สาว แพร-วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา แต่วัฒนธรรมก้นใหญ่เหล่านี้มาจากไหน แพร-วทานิกา คิม คาร์เดเชี่ยน หรือใครกันแน่? เชิญสาว ๆ ร่วมย้อนเวลาหาคำตอบไปพร้อมกับโว้กประเทศไทย
คำว่า “วัฒนธรรมแช่แข็ง” ไม่เคยเกิดขึ้นกับโลกแห่งแฟชั่นและความงาม เพราะทุกอย่างในโลกแห่งนี้ก้าวเดินอยู่เสมอ ทำให้สาว ๆ อยากจะมีร่างกายตามแบบในอุดมคติไม่ว่าจะยุคสมัยไหน แต่ละยุคมีปัจจัยที่สนับสนุนให้ร่างกายรูปแบบที่ต่างกันไปเป็นร่างกายในอุดมคติในช่วงนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสังคม วิถีชีวิต และที่สำคัญคือสื่อตั้งแต่สิ่งพิมพ์ไปจนถึงสื่อออนไลน์ในยุคปัจจุบัน
ยุคก่อน 1910s
ภาพ Venus and the Lust Prayer แสดงถึงความสวยงามของผู้หญิงยุค Italian Renaissance / ภาพ: Metropolitan Museum of Art
เมื่อจะพูดถึงไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์จะขาดบทบาทสำคัญของผู้หญิงยุคโบราณไปไม่ได้ ความงามของผู้หญิงยุคเก่าล้วนเคยถูกนิยามมาก่อนว่าแบบไหนคือดี ตั้งแต่ก้นบาง ๆ ของสาวอียิปต์ บั้นท้ายอวบอิ่มแบบยุคกรีก ก้นอวบแน่นสมัยอิตาเลียนเรเนสซองส์ หรือแม่นางจีนโบราณกับสัดส่วนไซส์มินิ จนมาถึงยุควิคตอเรียของอังกฤษซึ่งเป็นยุคของทรวดทรงนาฬิกาทราย และส่งผลต่อจากภาคพื้นยุโรปสู่ดินแดนอเมริกาในเวลาต่อมา
WATCH
ยุค 1910s “ยุคสมัยแห่งความกลมใหญ่ของบั้นท้าย”
Camille Clifford ผู้หญิงต้นแบบในภาพวาดเซ็ต Gibson Girl / ภาพ: Yanaly & Alexis NRMS
ในช่วงยุคนี้มีการนิยามถึงร่างกายผู้หญิงด้วยคำแสลงอย่าง “badonkadonk” ซึ่งหมายผู้หญิงที่มีเอวเล็กแต่มีสะโพกที่อวบกลม เป็นองค์ประกอบสำคัญของหุ่นนาฬิกาทรายที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ยิ่งมีศิลปินอย่าง Charles Gibson วาดภาพหญิงสาวที่มีหุ่นสวยงามดุจนาฬิกาทราย ภาพเซ็ต “Gibson Girl” แพร่กระจายออกไป กลายเป็นอิทธิพลสำคัญที่ทำให้สาว ๆ อเมริกันมองว่าก้นแบบนี้คือก้นอันสมบูรณ์แบบในอุดมคติ ณ ช่วงเวลานั้น
ยุค 1920s “ก้นแบน ๆ แทนด้วยความพลิ้วไหว”
2 สาวในชุดแฟลปเปอร์เดรสพลิ้วไหวพร้อมเต้นบนฟลอร์ในงานเลี้ยง / ภาพ: glamourdaze.com
ชุดแฟลปเปอร์เดรสโดดเด่นในกระแสป๊อบคัลเจอร์สมัยนั้น นิยามความงามพลิกผันโดยฉับพลัน ผู้หญิงหุ่นนาฬิทรายพร้อมส่วนสะโพกผายและบั้นท้ายกลมใหญ่ ถูกมองว่าไม่เซ็กซี่เท่าหุ่นเรียบแบนอย่างหน้าตาเฉย สาว ๆ สมัยนั้นถึงขนาดลงทุนสวมชุดชั้นในแบบพิเศษเพื่อทำให้หน้าอกและก้นอวบอิ่มของพวกเธอแบนราบเข้ากับชุดแฟลปเปอร์เดรส พร้อมลุกขึ้นโชว์สัดส่วนและลวดลายบนฟลอร์เต้นรำ ตอบโจทย์ความงามยุค ‘20s ได้เป็นอย่างดี
ยุค 1930s “ก้าวแรกสู่สาวฮอลลีวู้ด”
Marian Marsh และ Leila Hyams 2 นักแสดงสาวยุคเริ่มเฟื่องฟูของฮอลลีวู้ด / ภาพ: glamourdaze.com
ก้าวเข้าสู่ยุคทองของฮอลลีวู้ด นักแสดงทั้งหลายบนจอเงินสมัยนั้นสร้างบรรทัดฐานความงามขึ้นมาแทนที่ชุดแฟลปเปอร์เดรส คราวนี้การเปลี่ยนแปลงค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้พลิกโฉมเหมือนครั้งที่แล้ว ถ้าให้เปรียบเทียบคงเปรียบก้นเป็นผลไม้ที่ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนรูป เติบโตอวบอิ่มไปเรื่อย ๆ สาวยุค ‘30s จึงกลับมาเป็นยุคแห่งนาฬิกาทรายที่ลดระดับความสุดขั้ว ไม่ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองแบบสุดโต่งเพื่อตามแบบในอุดมคติอย่างที่ผ่านมา
ยุค 1940s “พักฮอลลีวู้ดไว้ สงครามกำลังมา”
การวัดขนาดตัวเพื่อตัดเสื้อผ้าผู้หญิงช่วงยุค 1940s / ภาพ: glamourdaze.com
ผลกระทบของสงครามโลกครั้งที่ 2 คืบคลานเข้ามาสู่สังคมอเมริกา ผู้ชายออกไปรบหมดผู้หญิงจึงรับหน้าที่ไปทำงานแทน ในสมัยนั้นงานต้องมีการใช้ร่างกายเข้ามาเกี่ยวข้อง หุ่นของผู้หญิงยุคนั้นจึงมีความบึกบึนขึ้น ณ ตอนนั้นผู้หญิงเก่งเพียบพร้อมไปด้วยร่างกายที่แข็งแรงขึ้นเป็นบรรทัดฐานของความสวยงามจากผู้หญิงด้วยกัน แต่ก็อยู่ได้ไม่ยาวนานเสียเท่าไหร่ เพราะเมื่อสงครามจบทหารกลับมาจากการรบ ความนิยมในรูปร่างแบบนาฬิกาทรายในยุคก่อนหน้านี้ยังคงติดตาตรึงใจพวกเขาอยู่ ปิดยุคของความบึกบึนแล้วกลับมาสู่ก้นอวบอิ่มและโค้งเว้ากว่าเดิม
ยุค 1950s “โค้งเว้าให้สุด!”
Marilyn Monroe ไอคอนสตาร์ของฮอลลีวู้ดกับชุดว่ายน้ำสีขาวบนชายหาด / ภาพ: womanadvice.ru
จากอิทธิพลของยุค ‘30s ผ่านยุค ‘40s ส่งต่อมาจนถึงยุค ‘50s ฮอลลีวู้ดยังถูกยึดถือเป็นบรรทัดฐานความงามอยู่ตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องบั้นท้าย คราวนี้นอกจากจะอวบอิ่มแล้วยังโค้งงอนเป็นทรง บั้นท้ายแบบนี้ได้รับความนิยมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนสาว ๆ ยุคนั้นต้องหาซื้อแผ่นเสริมก้นมาเพื่อเสริมรูปทรงของสรีระช่วงล่างและหน้าอกโค้งสวยเหมือนดาราฮอลลีวู้ดสุดอมตะอย่างลิซ เทย์เลอร์ และมาริลิน มอนโร เป็นยุคต้นกำเนิดของตัวเลขสัดส่วนความเพอร์เฟกต์ 36-24-36
ยุค 1960s “เล็กพริกขี้หนู”
Twiggy นางแบบตัวบางชื่อดังของยุค 1960s / ภาพ: BUSTLE
เป็นเวลากว่า 3 ทศวรรษที่บั้นท้ายอวบอิ่มโค้งงอนครองบัลลังก์อุดมคติของสาว ๆ แต่ไม่ใช่กับยุค ‘60s การเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้วเริ่มขึ้นอีกครั้ง สาวร่างเล็กหุ่นนางแบบกำลังเป็นที่นิยมเหตุจากอิทธิพลเรื่องสิทธิสตรี ผู้หญิงทำลายข้อจำกัดเรื่องเสื้อผ้าลงจนทำให้มินิสเกิร์ตถือกำเนิดขึ้น กระโปรงตัวเล็กจิ๋วนี้เองที่คอยกรอบรูปร่างในอุดมคติของผู้หญิงให้เปลี่ยนไป เพราะก้นเรียวบางเหมือนซูเปอร์โมเดลอย่างแพตตี้ บอยด์ จีน ชริมพ์ตัน และทวิกกี้ สามารถสอดตัวเข้าไปอยู่ในกระโปรงตัวจิ๋วไอเท็มประจำยุค 60s ได้อย่างพอดิบพอดี
ยุค 1970s “ก้นฟิตฮิตทั่วโลก”
โปสเตอร์โฆษณากางเกงยีนส์ทรงสอดรับกับบันท้ายแบรนด์ LEVI'S / ภาพ: flashbak.com
สิทธิสตรีทรงอิทธิพลต่อเนื่องมาถึงยุคนี้ กรอบความคิดทางความงามก็เปลี่ยนตาม ในยุคนี้ความสวยงามของร่างกายสามารถทำได้ตามธรรมชาติ โดยมีเป้าหมายหลักคือสุขภาพของบั้นท้ายที่ฟิตสวยแสดงว่าผ่านการดูแลมา ไม่ต้องใช้เครื่องมืออย่างคอร์เซ็ตที่คอยบีบรัดให้ตัวออกมาเป็นรูปนาฬิกาทรายอีกแล้ว เพียงแต่ว่ารูปร่างต้องผ่านความใส่ใจของตัวสาว ๆ เอง ทั้งการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ผลลัพธ์จึงจะออกมาเป็นตัวละครในอุดมคติที่เป็นแรงบันดาลใจให้สาว ๆ ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบันอย่าง นางฟ้าชาร์ลี
ยุค 1980s “แอโรบิคเกิร์ลที่แท้จริง”
Jane Fonda ผู้ริเริ่มเป็นฟิตเนสอินฟลูเอนเซอร์ / ภาพ: cloudfront.net
จากช่วง ‘70s ก้นฟิต ๆ เริ่มเข้ามาสู่วงจรความงาม จนมาถึงยุค 80s มันไม่หยุดอยู่แค่นั้น เจน ฟอนด้า ผู้เริ่มการเป็นฟิตเนสอินฟลูเอนเซอร์มีอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์ผู้หญิงยุคนั้นอย่างมาก สาว ๆ ตามกระแสเจน ทำให้ความนิยมในการออกกำลังกายพุ่งถึงขีดสุด ถ้าอยากเป็นตามแบบอุดมคติในยุคนั้นบั้นท้ายต้องฟิตแน่นด้วยกล้ามเนื้อตามแบบฉบับสาวสปอร์ต เกิดคำนิยามให้กับยุค 80s ว่า “การมีบั้นท้ายแน่นฟิตไม่ใช่แค่ดูดี แต่ถึงขนาดเป็นทีปราถนาเลยทีเดียว”
ยุค 1990s “ซูเปอร์โมเดลคอนเซ็ปต์”
ความสวยงามของบั้นท้าย 3 รูปแบบเรียงจากซ้ายไปขวา Cindy Crawford /ภาพ: pinimg.com, Jennifer Lopez / ภาพ: babydollsparadise.com และ Kate Moss / ภาพ: Patrik Andersson
กลับมาอีกครั้งกับสัดส่วนที่เล็กและบางของสาว ๆ ย้อนวันวานไปถึงยุค 20s และ 60s แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป ถึงแม้ก้นจะไม่ต้องใหญ่และโค้งงอน แต่ในยุคนี้ผู้หญิงจะเชิดชูก้นของนางแบบที่ไม่ใหญ่แต่โค้งงอนสอดรับกับกางเกงอย่างเช่น ซินดี้ ครอว์ฟอร์ด นอกจากนี้รูปแบบของก้นที่เรียบแบนตามฉายา “เฮโรอีนชิค” อย่าง เคต มอส ก็เป็นที่นิยม และในยุคเดียวกันสาวละตินและผิวสีก้าวขึ้นมามีบทบาทในสังคมมากขึ้น ความงามจาก 2 ถูกแยกเป็น 3 ทาง นอกจากก้นน้อย ๆ แสนงอน และก้นเรียบแบนของนางแบบผิวขาว ยังมีบั้นท้ายของสาวละตินอย่างเจนนิเฟอร์ โลเปซ เป็นต้นฉบับก้นงามในช่วงปลายของยุค 90s นี้อีกทางหนึ่ง
ยุค 2000s “กระชับรับทุกกระแส”
Britnet Spears อวดบั้นท้ายด้วยลุคสาวไฮสคูลสุดแซ่บ / ภาพ: David LaChapelle
ความโมเดิร์นของยุคมิลลินเนียลเปลี่ยนแปลงความงามของก้นอีกครั้ง จุดกึ่งกลางระหว่างความน้อยและมากเกิดขึ้นในยุคนี้ สรีระที่ไม่จำเป็นต้องใหญ่แต่ต้องมีความโค้งงอนและกระชับ อย่างเช่นบั้นท้ายของบริตนีย์ สเปียส์ ซึ่งสร้างได้จากการสควอตและออกกำลังกาย แต่สาวยุค ‘00s กลับไม่ได้ตามรอยเรื่องอุดมคติขนาดนั้น แต่อย่างน้อยผู้หญิงก็ไม่ต้องทรมานตัวเองเพื่อให้ได้หุ่นบอบบางแบบเฮโรอีนชิคในยุคก่อนหน้า
ปัจจุบัน “ใหญ่ก็ดี แต่ยังไงก็ได้”
ดีไซเนอร์สาวแพร-วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา อวดบั้นท้ายอวบอิ่มกลมสวยบนเรือยอร์ช / ภาพ: @vatanika
ปัจจุบันความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมมีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คนเราไม่สามารถเสกร่างกายตัวเองให้เข้ากับอุดมคติทุกยุคทุกสมัยได้ ก้นของผู้หญิงมีบรรทัดฐานบางอย่างในเรื่องความใหญ่ความโค้งงอน สิ่งเหล่านี้ไม่หายไปไหน แต่สาว ๆ ไม่ได้พยายามเพื่อให้เป็นในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนของตัวเอง แต่ละคนมีบั้นท้ายลักษณะความสวยที่เหมาะสมกับรูปร่างอยู่แล้ว คิม คาร์ดาเชียน นิกกี้ มินาจ หรือแพร-วทานิกา รูปแบบบั้นท้ายกลมใหญ่อยู่เป็นกระแสหลักในสังคม แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือบั้นท้ายขนาดใหญ่นั้นเหมาะกับพวกเธอ
แบบในอุดมคติของบั้นท้ายวนเวียนในสังคมอยู่ตลอด ผลัดเปลี่ยนลักษณะกันไป จากการรอคอยมาเกือบ 100 ปี ก้นกลมใหญ่กลับมาเป็นความงามในอุดมคติอีกครั้งในปัจจุบัน ถ้าหากใครมีเรือนร่างไม่ตรงแบบที่คาดฝัน อย่าเพิ่งน้อยใจไปบางทีวงจรแค่ยังวิ่งมาไม่ถึง และที่สำคัญที่สุดจงภูมิใจกับร่างกายตัวเองไม่ว่าจะก้นปอด ก้นใหญ่ หรือสรีระจะเป็นอย่างไรก็ตาม แบบในอุดมคติเป็นเพียงเรื่องสมมติ อย่าให้บรรทัดฐานนามธรรมมากัดกร่อนคุณค่าในตัวเรา
ข้อมูล: BUSTLE
WATCH