FASHION

วันนี้โว้กตอบแล้วว่าใครคือสุดยอดดีไซเนอร์ตลอดกาล!

     ถ้าหากติดตามแฟชั่นมาสักระยะหนึ่งอาจเกิดคำถามว่าใครคือสุดยอดดีไซเนอร์ที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ ชื่อของนักออกแบบระดับตำนานคงถูกเสนอมาหลายสิบคน แต่สุดท้ายก็ย่อมเกิดข้อโต้เถียงกันอยู่เสมอเพราะไม่มีเกณฑ์ใดที่สามารถวัดสิ่งนามธรรมอย่างคำว่า “สวย เก่ง ยอดเยี่ยม” ได้ หลายคนอาจจะมีคนที่เรียกว่าที่หนึ่งในดวงใจ สุดท้ายแล้วคำว่านักออกแบบอาจกลายเป็นสิ่งที่คนถูกจริตกับสไตล์และเรื่องราวที่สอดคล้องกันมากกว่า ถ้าหากจะให้ทุกคนบนโลกเห็นตรงไปทางในเดียวกันและระลึกถึงการออกแบบโดยไร้ที่มาแต่รังสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างเหนือคำบรรยายจนน่าจะถูกเรียกว่า “ดีไซเนอร์ที่เก่งที่สุดในโลก” ทุกคนอาจจะคิ้วขมวดและตั้งคำถามว่าใคร?

ภาพ: Solo Practice University

     ธรรมชาติ (Nature) คือสิ่งที่เราพูดถึง ใช่! คุณอ่านไม่ผิดหรอกธรรมชาตินี่ล่ะคือสุดยอดนักออกแบบของโลกใบนี้ ผู้คนเกือบทั้งโลกมองข้ามในจุดนี้ไปชนิดที่ว่าไม่เคยนึกถึงผลงานของธรรมชาติเลยสักนิด คงเป็นเพราะว่าเราเห็นมันทุกวัน มีส่วนร่วมอยู่กับมัน และที่สำคัญไม่เคยคิดเลยว่าเป็นชิ้นงานการออกแบบที่ยอดเยี่ยมที่สุด ทั้งเรื่องความสวยงามและการใช้งานจริง ถึงเวลาแล้วที่ผู้คนต้องให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมที่เราดำรงอยู่ในฐานะอีกหนึ่งศิลปินที่ถือว่าดีที่สุดตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ “Nature as Designer”

 

1.Colour Shades

1 / 3

4 Shades of Blue In Antartica กับการเล่นโทนสีฟ้าของ Giorgio Armani คอลเล็กชั่น Spring/ Summer 2019


2 / 3

ภาพทุ่งหญ้าโทนสีเขียวหลายเฉดกับชุดกูตูร์เทคนิคสุดประณีตจาก Ziad Nakad คอลเล็กชั่น Fall/Winter 2018


3 / 3

ชุดเดรสไล่ระดับเฉดของสีรุ้งจาก Zuhair Murad คอลเล็กชั่นกูตูร์ Spring 2019




WATCH




     สีในแวดวงแฟชั่นถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากการที่ชุดหรือแอ็กเซสเซอรี่จะออกมาสมบูรณ์แบบในวิถีทางที่เรากำหนด การไล่เฉดถือเป็นกุญแจที่จะพาเราไปสู่งานดีไซน์ที่แสดงให้เห็นความหลากหลายและการไล่ระดับหนักเบาเพื่อเนรมิตจากสิ่งของสีโมโนโครมธรรมดาทั่วไปสู่การเป็นสุดยอดไอเท็มโทนเดียวให้สาว ๆ ได้สัมผัส แต่เฉดสีเหล่านี้เราเห็นได้จากธรรมชาติมานับไม่ถ้วนไม่ว่าการไล่สีของเฉดเขียวของทุ่งหญ้าและหุบเขาเทียบกับชุดเดรสกูตูร์ หรือจะเป็นภาพระดับไอคอนิกอย่าง “4 Shades of Blue In Antartica” ที่แสดงให้เห็นการปรับเฉดของสีฟ้า 4 รูปแบบด้วยการออกแบบแบ่งสแควร์อย่างลงตัว และยังมีอีกหลากหลายการเล่นสีที่หลังจากอ่านพารากราฟนี่จบแล้วคุณจะร้องอ๋อพร้อมชื่นชมมันอย่างไม่มีข้อแม้

 

2.Colour Matching

1 / 4

สีส้มปะการังแมตช์กับสีฟ้าพร้อมประกอบลุคจาก Tibi คอลเล็กชั่น Fall/Winter 2018


2 / 4

สีชมพู-แดงของดอกกุหลาบบันดาลสู่ชุดเดรสรับตรุษจีนและวาเลนไทน์จากแบรนด์ Disaya


3 / 4

สีชมพู-แดงของดอกทิวลิปกับความสวยงามของชุดรับตรุษจีนปี 2019 ของแบรนด์ Marni


4 / 4

สีเบจและน้ำตาลโทนร้อนของใบไม้กับลุคสีเดียวกันจากแบรนด์ Tibi คอลเล็กชั่น Spring/Summer 2019


     สิ่งที่เรียกว่าคู่สีเป็นเรื่องสำคัญไม่ต่างกับระดับสีเพราะไม่ใช่เสื้อผ้าทุกรูปแบบจะออกมาในโทนสีเดียว การผสมสี แมตช์สีเป็นปัจจัยที่ทำให้แต่ละลุคบนรันเวย์ รวมถึงบนท้องถนนออกมาโดดเด่นหรือในทางกลับกันถ้าจับคู่สีออกมาผิดอาจจะทำให้ทั้งลุคพังไม่เป็นท่า แม้จะมีไอเท็มระดับปังอลังการโอบอุ้มไว้ก็ไม่ช่วย อย่างในเทรนด์ล่าสุดที่สีส้มคอรัลจับคู่กับสีเทอร์คอยซ์และสีน้ำทะเลล้วนได้แรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติของผืนทะเลและปะการังสีส้มสดใส หรือจะเป็นสีแดงและชมพูของเหล่าดอกไม้ที่ขึ้นสอดแทรกกันก็กลายมาเป็นสียอดนิยมในหน้าร้อนที่จะถึงนี้เช่นกัน รวมไปถึงสีเอิร์ธโทนคลาสสิกตลอดกาลถูกใจสายมินิมอลแน่นอน

 

3.Leathers & Skins

1 / 3

Crocodile Skin


2 / 3

Lizard Skin


3 / 3

Python Skin


     ความยอดเยี่ยมของธรรมชาติคือการรังสรรค์ความสวยงามผ่านผิวหนังและลวดลายของสัตว์ซึ่งถูกพ่วงมาด้วยความต้องการสิ่งสวยงามเหล่านี้ ธรรมชาติสร้างสรรค์ผิวหนังของสัตว์มาเพื่อจุดประสงค์ที่ต่างกันนั่นทำให้เกิดเสน่ห์ของการเป็นวัสดุแต่ละชนิดได้เป็นอย่างดี หนังจระเข้ที่ให้พื้นผิวทั้งเนียนและแบ่งเป็นช่องดูแข็งแรงและเสริมความหรูหราด้วยการทำเงาได้ออกมายอดเยี่ยม หนังของกิ้งก่าก็สร้างเส้นลายที่ละเอียดดูประณีต หนังงูก็ให้อารมณ์เกร็ดที่สร้างเทกซ์เจอร์ให้กับไอเท็มทุกชิ้นอย่างแปลกใหม่ หรือว่าจะเป็นหนังทั่วไปอย่างหนังวัวก็มีหลายรูปแบบให้เราได้เลือกใช้กัน ที่สำคัญหนังเหล่านี้ไม่ได้สวยเฉพาะการนำมาทำผลิตภัณฑ์ แต่ของพวกนี้สวยตั้งแต่อยู่บนตัวสัตว์ทั้งหลายแล้วมันสอดรับกับรูปร่างสร้างซิลูเอตเฉพาะตัวราวกับว่าสรรพสัตว์มีดีไซเนอร์ส่วนตัว แต่หารู้ไม่ดีไซเนอร์ที่ว่าก็คือธรรมชาตินั่นเอง ในสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องใช้หนังแท้เสมอไปเพราะหลายครั้งก็มีตัวเลือกหนังเทียมให้ได้ใช้กัน แต่สาว ๆ จะเลือกใช้อย่างไรก็ไม่บังคับกันถือว่าเป็นวิจารณญาณส่วนบุคคล

 

4.Natural Print

1 / 5

ลวดลายเสือดาวจากแบรนด์ Rochas คอลเล็กชั่น Spring/Summer 2019


2 / 5

เสือโคร่งอวดโฉมบนเสื้อผ้าหลายเลเยอร์จาก Rochas คอลเล็กชั่น Spring/Summer 2019


3 / 5

กางเกงเข้ารูปลายม้าลายจาก Saint Laurent


4 / 5

ชุดเดรสพิมพ์ลายต้นกล้วยจาก Osklen คอลเล็กชั่น Spring/Summer 2015


5 / 5

เสื้อสเวตเชิ้ตพิมพ์ลายก้อนเมฆจาก Kenzo


     ลายพิมพ์ที่เราคุ้นเคยกันคงจะเป็นสัตว์น้อยใหญ่ที่เข้ามาอยู่บนเสื้อผ้าของเรา แต่ที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็นลายเสือซึ่งเล่นได้กับพื้นหลายสี ในที่นี้มีทั้งเสือโคร่ง เสือดาวและอีกหลากหลายพันธุ์ที่ปรากฏบนโลกแฟชั่นอยู่เสมอ แต่สัตว์บางตัวก็ก้าวเข้ามามีที่ยืนในลวดลายเหล่านี้อย่างเช่น ม้าลายที่แบรนด์ดังอย่าง Saint Laurent ก็ดึงมาทำกางเกงได้ล้ำทีเดียว นอกจากสัตว์แล้วองค์ประกอบทางธรรมชาติอื่น ๆ ก็ถูกนำมาปรับใช้กับเสื้อผ้าได้อย่างลงตัวไม่ว่าจะเป็นก้อนเมฆ ใบไม้ ดอกไม้ และอื่น ๆ อีกมากมาย

 

5.Shapes

1 / 2

ชุดเดรสโอต์ กูตูร์รูปทรงก้อนเมฆจาก Iris Van Herpen คอลเล็กชั่นกูตูร์ Spring 2019


2 / 2

ชุดเดรสหางปลาที่ตีความหมายจาก David Koma คอลเล็กชั่น Spring/Summer 2019


     รูปทรงก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้โดยเฉพาะเสื้อผ้าผู้หญิงที่แทบจะไร้ขีดจำกัดในเรื่องนี้ ความอสมมาตรเป็นเรื่องปกติทั่วไปของชุดของสาว ๆ อยู่แล้ว การมิกซ์แอนด์แมตช์ด้วยความแตกต่างเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่รูปทรงที่เราเห็นกันตามชุดเดรสหรือเสื้อผ้าหลายแบบนั้นธรรมชาติเคยรังสรรค์ไว้ชนิดที่เราไม่เคยเอะใจ อย่างเช่นชุดเดรสรูปทรงก้อนเมฆซ้อนกัน หรือจะเป็นชุดเดรสหางปลาที่รูปร่างอิงมาจากหางปลาจริง ๆ ลองนึกภาพซิลูเอตต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกแฟชั่นล้วนมีแรงบันดาลใจไม่มากก็น้อยมาจากธรรมชาติเหล่านี้

 

6.Fabrics

1 / 4

Chanel Tweed Jacket สีฟ้าสดใสจากคอลเล็กชั่นรีสอร์ต 2019 ที่ใช้วัสดุผ้าทวีดจากแกะ


2 / 4

ชุดทักซิโด้ผ้าวูลสำหรับผู้หญิง


3 / 4

ผ้าไหมจากหนอนไหมไทย


4 / 4

ชุดสูทโททัลลุคผ้าไหมจาก Johanna Ortiz คอลเล็กชั่นรีสอร์ต 2019


     นอกจากการดีไซน์แล้วธรรมชาติยังคงสถานะผู้จัดหาวัสดุด้วย หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าผ้าหลายตัวที่เราใช้นั้นมาจากสัตว์ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นใยไปจนถึงขนและหนังของสัตว์อย่างเช่นผ้าวูล ทวีด และไหมที่ล้วนเป็นผลผลิตจากสรรพสัตว์ของธรรมชาติทั้งนั้น รวมถึงเฟอร์รูปแบบต่าง ๆ ที่ใช้จริงหรือจะเป็นเฟอร์เทียมที่ใช้แทนกันในทุกวันนี้

7.Technique

1 / 1

พลีตธรรมชาติจากต้นปาล์มและกระโปรงพลีตสีเบจจาก Fendi คอลเล็กชั่น Spring/Summer 2019


     เทคนิคการทำเสื้อผ้าต่าง ๆ ยังคงเป็นสิ่งที่มนุษย์ยึดถือเป็นฝีมือของตนมาตลอดจนในบางครั้งอาจลืมไปว่าการจับจีบ สร้างมิติความพลิ้วไหวล้วนเกิดมาในธรรมชาติอยู่แล้วด้วยองค์ประกอบอย่างต้นไม้หรือลมพัดผ่านที่จะทำให้สิ่งของเรียบง่ายทั่วไปกลายเป็นสิ่งพิเศษพาให้ย้อนนึกถึงกระโปรงเรียบสักตัวหากจับจีบพลีตและปล่อยโล่งจะเปลี่ยนรูปแบบของลุคไปอย่างสิ้นเชิง

 

     จากเนื้อหาทั้งหมดที่เรานำเสนอวันนี้เราไม่ได้ต้องการให้ทุกคนเห็นพ้องหรือชื่นชมธรรมชาติไปทั้งหมด ผู้เขียนต้องการที่จะให้ทุกคนลองสังเกต เอะใจและให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่รอบตัวเรามาตลอดแต่เราไม่เคยสนใจเลย ความสวยงามเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนถึงใหญ่โตมโหฬารธรรมชาติรังสรรค์มาให้เราชมมาตั้งแต่เด็กยันโต ฉะนั้นจงเก็บรักษาและดูแลสิ่งเหล่านี้ไว้ก่อนที่จะกลายเป็นแค่แรงบันดาลใจอยู่ในแวดวงแห่งวัตถุเท่านั้น ใช้อย่างมีความพอดี สิ่งที่สุดยอดและถือเป็นอันดับ 1 เช่นนี้คงไม่มากเกินไปที่จะได้รับตำแหน่ง “ดีไซเนอร์ที่เก่งที่สุดในโลก” และสามารถพ่วงตำแหน่ง “สุดยอดแรงบันดาลใจของทุกแขนง” ด้วย

WATCH