Ben Cobb for Tiger of Sweden นำเสนอคอลเล็กชั่นสูทที่เหมือนนั่งไทม์แมชชีนกลับสู่ยุค ‘70s

     เมื่อพูดถึงแฟชั่นที่เป็นอมตะเหนือกาลเวลาเชื่อเลยสาวกแฟชั่นหลายคนคงต้องเป็นสไตล์จากยุค ‘70s ซึ่งสะท้อนรูปแบบแฟชั่นอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะแฟชั่นของผู้ชายที่เริ่มสวมใส่กางเกงปลายขาบาน มาพร้อมสูทตัวยาวและรายละเอียดอันจัดจ้านที่ผสมผสานกับแนวทางเทเลอริ่งได้เป็นอย่างดี นับเป็นยุคที่ความจัดจ้านมาคลุกเคล้าร่วมกับความคลาสสิกโดยสมบูรณ์ วันนี้ Ben Cobb นำเสนอคอลเล็กชั่นร่วมกับ Tiger of Sweden โดยหยิบจับเอากลิ่นอายแฟชั่นเมื่อ 5 ทศวรรษมาคลุกเคล้าและนำเสนอใหม่ด้วยรูปแบบที่ทั้งพาย้อนเวลาสู่อดีตและร่วมสมัยตามเทรนด์ในปัจจุบันไปพร้อมกัน

     หากใครไม่ใช่สาวกแฟชั่นสายคลาสสิกอาจไม่คุ้นหูกับแบรนด์พยัคฆ์แห่งสวีเดนเท่าไหร่ ทว่าแบรนด์ดังกล่าวคือห้องเสื้อสไตล์เทเลอริ่งสุดคลาสสิกที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1903 มีรูปแบบเสื้อผ้าคลาสสิกที่โดดเด่นด้วยซิลูเอต การเลือกวัสดุ และการสไตลิ่งอันโมเดิร์นตามยุคสมัยอยู่เสมอ ก้าวข้ามมาถึงปี 2023 เป็นเวลา 120 ปีหลังจากก่อตั้งแบรนด์ ห้องเสื้อแห่งนี้ยังคงผลิตไอเท็มชิ้นเด่นน่าสวมใส่อยู่เสมอ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างชื่อจนเป็นที่รู้จักในแถบประเทศสแกนดิเนเวียและยุโรป อีกทั้งยังผลิตเสื้อผ้าผู้หญิงที่ยกเอาความเนี้ยบกริบฉบับงานเทเลอริ่งชั้นครูมาไว้อย่างครบถ้วน

     ส่วนของเบ็นก็เป็นถึงบรรณาธิการบริหารนิตยสาร ES Magazine นิตยสารที่โดดเด่นเรื่องแฟชั่นจัดจ้าน การย้อนยุค และกลิ่นอายความขบถ ซึ่งเขาก็จับมือร่วมกับ Bryan Conway ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษผู้เป็นหัวเรือใหญ่ของไทเกอร์ออฟสวีเดนในคอลเล็กชั่นสุดพิเศษครั้งนี้ และแน่นอนว่ากลิ่นอายความคลาสสิกที่ผสมความจัดจ้านนี้ก็เป็นผลผลิตจากไอเดียร่วมของ 2 หนุ่มชาวอังกฤษ ซึ่งมันทำให้แฟชั่นสไตล์วินเทจย้อนยุคสุดขีดกลับมาโลดแล่นอีกครั้งภายใต้แบรนด์ที่มีชื่อเสียงเรื่องสไตล์คลาสสิกอันเนี้ยบประณีต

     งานเทเลอริ่งของคอลเล็กชั่นนี้จึงเต็มไปด้วยรูปแบบแฟชั่นยุค ‘70s แบบเต็มที่ ชุดสูททั้งหมดถูกออกแบบมาให้ความยาวคลุมบันท้าย กางเกงขาบาน นอกจากนี้ยังมีเรื่องขนาดปกที่ใหญ่สะใจ สอดผสานด้วยเสื้อเชิ้ตและนิตแวร์สีหม่นและสีสดที่ให้อารมณ์ความรู้สึกแตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังมีการตีความชุดสำหรับงานกลางคืนของผู้ชายที่เริ่มต้นจากองค์ประกอบคลาสสิกอย่างทักซิโด้และปรับแต่งจนเกิดเป็นเสื้อผ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพิ่มความสนุกเร้าใจสะท้อนความขบถได้อย่างดี และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการหยิบเอาเทคนิคการตัดเย็บและการสร้างซิลูเอตตกยุคมาปรับแต่งให้น่าตื่นเต้นและแตกต่างจากเสื้อผ้ายุคนี้อย่างสิ้นเชิง โดยคอลเล็กชั่นนี้จะวางขายครั้งแรกในวันที่ 8 พฤศจิกายน ต้องบอกว่านี่เป็นนิยามของเสื้อผ้าวินเทจย้อนยุคที่สามารถสร้างมิติความจัดจ้านให้โลกแฟชั่นยุคปัจจุบันอย่างแท้จริง