ลวดลายโมโนแกรมสุดคลาสสิกกำลังจะเป็นความจัดจ้านยุคใหม่ของ Balmain
แม้หลายคนจะบอกว่ามันดูไม่เป็น Balmain เอาเสียเลย แต่สิ่งนี้เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์
สาวกแฟชั่นคงทราบกันดีว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาความโดดเด่นของกระแสโลโก้มาเนีย (Logomania) เข้ามามีบทบาทอย่างมากในวงการแฟชั่น แบรนด์ชั้นนำมากมายต่างหยิบเอาลวดลายสัญลักษณ์ประจำแบรนด์มาออกแบบตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋า เรื่อยจนถึงแอ็กเซสเซอรี่กันจนเป็นภาพจำว่าคอลเล็กชั่นหลักของแบรนด์ต่างๆ ต้องมีเซตลายโมโนแกรมอยู่ไม่มากก็น้อย บางแบรนด์ถึงขนาดปรับลายเพื่อนำเสนอความน่าตื่นเต้นใหม่ๆ ให้กับแฟนๆ ด้วย สำหรับ Balmain ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เลือกลวดลายโมโนแกรมมาเป็นหัวใจหลักในการออกแบบช่วงหลังๆ มานี้อย่างเห็นได้ชัด
ตัวอย่างลุคโมโนแกรมในคอลเล็กชั่นรีสอร์ต 2022 แบรนด์ Balmain / ภาพ: WWD
หลังจากจบโชว์บัลแมงคอลเล็กชั่นรีสอร์ต 2022 เราก็เห็นว่าลายโมโนแกรมของแบรนด์ยังปรากฏให้เห็นเด่นชัดในคอลเล็กชั่นนี้ไม่เปลี่ยนแปลง มีทั้งกระเป๋า เสื้อโค้ต และไอเท็มอีกหลายต่อหลายชิ้น สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือตั้งใจสอดแทรกมาเพื่อการตลาดอย่างแน่นอน เพราะ Olivier Rousteing ลงทุนสร้างฉาก 3 มิติเลียนล้อไปกับเสื้อผ้าแบบเน้นๆ สร้างรันเวย์ที่แม้จะเป็นโชว์ดิจิทัลให้ออกมาน่าตื่นตาตื่นใจ และผู้คนก็จดจำและรู้ได้อย่างรวดเร็วว่านี่คือโชว์บัลแมงจากลายโมโนแกรมดังกล่าว
ลุคโมโนแกรมจากคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2021 แบรนด์ Balmain / ภาพ: Vogue Runway
เราเห็นโอลิวิเยร์เลือกใช้ลายโมโนแกรมที่ทั้งดูคลาสสิกและโมเดิร์นในเวลาเดียวกันมาตลอดในช่วงหลัง ไม่ว่าจะเป็นคอลเล็กชั่นบนรันเวย์ คอลเล็กชั่นแคปซูล หรือแม้แต่แคมเปญพิเศษต่างๆ ดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศสคนนี้ก็ไม่พลาดจะนำลายเอกลักษณ์ของแบรนด์มาตีความและนำเสนอในรูปแบบใหม่ๆ อยู่เสมอ บัลแมงจึงเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่นำจุดเด่นจากในอดีตมาสร้างสรรค์ใหม่พร้อมเปิดหน้าสู้ในสนามโลโก้มาเนียอย่างจริงจัง และด้วยเอกลักษณ์ของลวดลายที่ไม่ใช่แค่ตัวอักษรพร้อมสัญลักษณ์เรียงต่อกัน แต่เป็นรูปทรงเรขาคณิตที่ถูกจัดวางอย่างดี ยิ่งทำให้บัลแมงมีลายโมโนแกรมโดดเด่นไม่แพ้ใครเลยทีเดียว
WATCH
ตัวอย่างลวดลายโมโนแกรมในอดีตที่ Pierre Balmain สร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างตั้งใจ / ภาพ: Balmain
ลายโมโนแกรมนี้มีชื่อเฉพาะว่า “PB” หรือตัวอักษรย่อของชื่อ “Pierre Balmain” ผู้ก่อตั้ง ซึ่งจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครของลายนี้คือความซับซ้อนที่ต่อเรียงกันจนเป็นเหมือนเขาวงกต สะท้อนความงดงามในรูปแบบฝรั่งเศสช่วงยุคเรเนซองส์ และด้วยความคล้ายเขาวงกตนี้จึงมีชื่อเล่นอีกชื่อในภาษาอังกฤษว่า “Maze” โดยลายดังกล่าวมีบันทึกว่าเกิดขึ้นประมาณช่วงต้นของยุค ‘70s แต่ไม่มีการระบุปีที่แน่ชัดนักว่าปิแอร์สร้างสรรค์มันขึ้นเมื่อไร แต่ด้วยความนิยมแฟชั่นของยุโรปยุคก่อนที่เน้นเรื่องงานฝีมือ อีกทั้งห้องเสื้อบัลแมงยังโดดเด่นมากเรื่องความประณีตเรียบหรูสไตล์ฝรั่งเศส ลายโมโนแกรมในยุคนั้นจึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นแต่ไม่ใช่อะไรที่คงอยู่ในสารบบยืนยาวนัก
Kim Kardashian ในลุคลาย PB แบบโททัลลุคที่สะท้อนความเป็น Balmain ยุคใหม่ผสมผสานกับความคลาสสิกอย่างลงตัว / ภาพ: @kimkardashian
การกลับมาของลาย PB เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2020 ที่ผ่านมานี้เองเมื่อโอลิวิเยร์ต้องการนำรูปแบบความสวยงามแบบเก่ามาปัดฝุ่นและสร้างให้เป็นภาพจำของคนทั้งโลก เมื่อปล่อยออกมาก็ต้องได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับวลีที่ว่า “ดูไม่เป็นบัลแมง” แต่แท้จริงแล้วลายนี้บ่งบอกความเป็นบัลแมงได้อย่างดี เพราะความสลับซับซ้อนนั้นแสดงถึงความประณีตในการรังสรรค์ ในขณะเดียวกันเมื่อนำมาประกอบลงบนเสื้อผ้าหรือกระเป๋าก็ให้มิติลูกเล่นที่น่าสนใจ ตรงกับอัตลักษณ์ของแบรนด์ที่ยึดถือการสอดประสานกันของ 2 สิ่งนี้อย่างมาก ตอนนี้หัวเรือใหญ่ของแบรนด์คนปัจจุบันก็ได้พิสูจน์แล้วว่าลาย PB ที่หลายคนเคยมองข้ามและคิดว่ามันไม่เป็นบัลแมงเอาเสียเลยนั้น ในความเป็นจริงมันกลับเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่ปิแอร์ตั้งใจออกแบบขึ้นมาเมื่อหลายทศวรรษก่อน เชื่อเลยว่าถึงแม้กระแสโลโก้มาเนียจะขึ้นๆ ลงๆ อยู่ตลอด แต่การออกแบบโดยใช้ความคลาสสิกที่สามารถอยู่รอดมานานกว่า 50 ปีแบบนี้จะไม่สูญสลายไปตามเทรนด์อย่างแน่นอน
ข้อมูล:
WATCH