Ato Boldon, Oakley Over the top, Oakley Sunglasses, Olympics, Sydney 2000, Ato Boldon Glasses
FASHION

ย้อนชมแว่นตาของ Ato Boldon ที่ถือเป็นแฟชั่นในโอลิมปิกที่จัดจ้านที่สุดตลอดกาลจากปี 2000

Ato Boldon สุดยอดนักกรีฑาผู้คว้าเหรียญเงินโอลิมปิกปี 2000 ฝากความทรงจำให้คอกีฬาและแฟชั่นด้วยแว่นตา Oakley Overthetop อันเป็นตำนาน

     หากพูดถึงแฟชั่นที่โดดเด่นและเป็นที่จดจำที่สุดในมหกรรมโอลิมปิกตลอดกาล แต่ละคนคงมีลุคในความทรงจำที่แตกต่างกัน แต่เชื่อว่าแทบทุกคนเมื่อเห็นภาพนักกรีฑาฝีเท้าจัดคนหนึ่งจะต้องนึกย้อนถึงแฟชั่นอันจัดจ้านที่ยังคงได้รับการพูดถึงอยู่จวบจนปัจจุบันอย่างแน่นอน โดยนักกรีฑาคนดังกล่าวคือ Ato Boldon สุดยอดอดีตนักวิ่งลมกรดทีมชาติตรินิแดดและโทเบโก ซึ่งลุคดังกล่าวถือเป็นลุคแฟชั่นจัดจ้านที่ถูกพูดถึงทุกครังเมื่อมหกรรมโอลิมปิกมาถึง และแน่นอนว่ามันเป็นหนึ่งในลุคแห่งความทรงจำที่ทำให้โลกยุคใหม่สนใจความจัดจ้านด้านแฟชั่นของเหล่านักกีฬามากขึ้น ณ ตอนนี้

     ลุคดังกล่าวปรากฏขึ้นในการแข่งขันกรีฑา 100 เมตรชาย อโตถือเป็นนักกรีฑาฝีเท้าจัดที่มีลุ้นชิงชัยระดับเหรียญทอง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องผลการแข่งขันไม่ใช่ประเด็นหลักที่ทุกคนจดจำเขาในโอลิมปิก 2000 ณ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย หนุ่มสไตล์จัดคนนี้สวมแว่นตากันแดดสีเงินพร้อมเลนส์สีส้ม เอกลักษณ์สำคัญคือขาแว่นตาแทนที่จะคาดถึงหู แต่กลับคาดขึ้นบนศีรษะแทน ทำให้หลายคนนิยามว่าเป็นลุคสไตล์ “Mad Max” โดยแว่นตาดังกล่าวมาจากแบรนด์ Oakley ชื่อรุ่นว่า “Overthetop” ตามลักษณะของการสวมใส่แบบตรงไปตรงมา

Ato Boldon, Oakley Over the top, Oakley Sunglasses, Olympics, Sydney 2000, Ato Boldon Glasses

แว่นตา Oakley Overthetop รุ่นลิมิเต็ดที่ปล่อยออกมาเฉลิมฉลอง 20 ปี เมื่อปี 2020 / ภาพ: Oakley

     ต้องบอกว่าแว่นตารุ่นนี้โด่งดังไปพร้อมกับอโตอย่างแท้จริง ตลอดระยะเวลานานกว่า 2 ทศวรรษ เมื่อพูดถึงแฟชั่นโอลิมปิก ทุกคนจะต้องนึกถึงเขาและแว่นตาสุดล้ำนี้แน่นอน แม้อาจไม่ใช่ลุคโปรดที่สุดของใครบางคนก็ตาม ในครั้งนั้นอโตสามารถก้าวขึ้นโพเดียมรับเหรียญเงินในประเภทการแข่งขันกรีฑาที่เข้มข้นที่สุดรายการหนึ่งของโลก เรื่องราวของแว่นตานี้ยังไม่หมดเพราะทางแบรนด์เคยปล่อยแว่นตารุ่นนี้อีกครั้งในอีก 20 ให้หลังเฉลิมฉลองครบรอบ 2 ทศวรรษและสอดประสานกับกระแสโอลิมปิก 2020 ณ กรุงโตเกียวพอดิบพอดี

     แว่นตารุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นเมื่อ 4 ปีก่อนนั้นผลิตจำนวนจำกัดเพียง 20 อัน การผลิตก็พัฒนาตามยุคสมัย ทั้งการใช้เทคโนโลยีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุ O Matter ที่เบากว่าพลาสติกทั่วไป 25 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงเลนส์ Prizm ที่ให้ภาพคมชัด และเสริมความพิเศษด้วยการใช้สีทองทั้งกรอบและเลนส์ แต่รักษาเอกลักษณ์งานออกแบบไว้เช่นเดิม แว่นตารุ่นนี้สนนราคาที่ 2,000 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งราคารีเซลพุ่งทะยานไปแตะหลัก 7,000 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งจากจุดนี้ทำให้ราคาแว่นตาออริจินัลเวอร์ชั่นเดียวกับที่อโตสวมใส่นั้นราคาพุ่งทะยานตามไปเช่นกัน โดยตอนนี้หากค้นหาในตลาดมือสองออนไลน์จะพบว่าราคาแว่นตาแบบเดียวกับที่อโตสวมใส่สนนราคาสูงถึง 2,000 – 2,500 เหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว

WATCH