“การเปลี่ยนแปลงคือความท้าทาย” คำกล่าวนี้ถือเป็นบทเรียนอมตะในสังคมที่เกิดขึ้นในทุกด้าน วงการแฟชั่นเองก็เช่นกัน การเปลี่ยนแปลงสำคัญแต่ละครั้งจะได้รับคำวิจารณ์ ความคาดหวัง และความแคลงใจอยู่ตลอดเวลา Alexander McQueen ก็เป็นหนึ่งในแบรนด์ระดับตำนานที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เมื่อ Sarah Burton ก้าวลงจากตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างสรรค์ หลังสืบต่อรูปแบบความงดงามและนำเสนอสู่สายตาคนทั่วโลกมานานเกินทศวรรษ หลังจากประกาศไม่นานนักก็มีรายงานเพิ่มเติมว่า Seán McGirr จะเข้ามารับตำแหน่งหัวเรือคนใหม่ของแบรนด์

Seán McGirr ผู้อำนวยการสร้างสรรค์คนปัจจุบันของแบรนด์ Alexander McQueen / ภาพ: Courtesy of Brand

     แน่นอนว่าการเข้ามาของชอนต้องได้รับความสนใจจากสาวกแฟชั่นทั่วโลก เพราะนี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการประจำปี 2023 ที่ผ่านมา หลายคนรอคอยว่าเขาจะนำเสนอผลงานภายใต้ชื่ออเล็กซานเดอร์ แม็กควีนอย่างไร และแล้วเวลาแห่งความตื่นเต้นก็มาถึงเมื่อแบรนด์ปล่อยภาพพรีวิวมิติเชิงศิลป์ของแบรนด์ภายใต้การนำทัพของหัวเรือคนใหม่ช่วงหลังวันวาเลนไทน์ มีทั้งวิดีโอและภาพนิ่งที่เผยให้เห็นชุดและบรรยากาศของความดาร์ก สะท้อนกลิ่นอายที่ทุกคนจดจำเกี่ยวกับแบรนด์ในช่วงเวลาที่ผู้ก่อตั้งนำเสนอมันออกมาอย่างลึกซึ้งและซับซ้อน ทว่าการพรีวิวครั้งนี้กลับได้รับผลตอบรับที่ไม่ค่อยดีนัก

     ความโดดเด่นของหญิงสาวสวมหน้ากากหัวกะโหลกพร้อมบรรยากาศป่าสนนั้นบ่งบอกถึงแนวทางเชิงศิลป์ที่ต้องการหยิบจับความดาร์กกลับมา ทว่าแทนที่ทุกคนจะชื่นชมกับแนวทางใหม่ที่ย้อนสู่จุดดั้งเดิม หลายคนมองว่ารูปแบบการนำเสนอมีความตรงไปตรงมาเกินไป แตกต่างจากที่อเล็กซานเดอร์เคยสร้างมิติความล้ำลึกถึงห้วงอารมณ์ด้วยความซับซ้อนกว่านี้ หัวกะโหลกถูกนำเสนอเป็นสัญญะอย่างโจ่งแจ้งและดูไม่ค่อยเป็นสิ่งที่ใช้สื่อสารหรือถ่ายทอดอารมณ์ในเชิงลึกเท่าไหร่นัก บางคนมองว่าการพรีวิวนี้แสนธรรมดา และมีการนำเสนอก็เรียบแบนไร้ที่มิติจนเกินไป

ภาพแคมเปญ Alexander McQueen ภาพแรกที่นำเสนอภายใต้การกุมบังเหียนของ Seán McGirr / ภาพ: @alexandermcqueen

     นี่อาจจะเป็นเพียงพรีวิวแรกแต่นั่นก็ทำให้สาวกแฟชั่นฮาร์ดคอร์จำนวนไม่น้อยผิดหวังกับชอนตั้งแต่เริ่ม บางคนให้กำลังใจและมองว่ามันยากเหลือเกินที่จะทำให้เทียบเท่ากับจุดที่อเล็กซานเดอร์เคยทำ การหยิบจับองค์ประกอบดั้งเดิมบางส่วนกลับมาอาจจะเป็นสัญญาณที่ดี บางคนก็ยังมองโลกในแง่บวกและพร้อมเปิดใจรับสิ่งใหม่ หรืออย่างน้อยก็ให้รอผลงานเป็นชิ้นเป็นอันครั้งแรกของชอนเผยโฉมออกมาอย่างเต็มรูปแบบเสียก่อน ถึงกระนั้นเมื่อมีการปล่อยเซ็ตแคมเปญพรีวิวออกมาเรื่อยๆ ทิศทางกระแสลมด้านลบก็เริ่มถาโถมมามากขึ้น และมันยิ่งสร้างความแคลงใจอย่างยิ่งว่าชอนจะสามารถปลุกปั้นอเล็กซานเดอร์ แม็กควีนเวอร์ชั่นใหม่ให้ติดตราตรึงใจได้อย่างไร

     กระแสเชิงลบผุดขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการหยิบโลโก้ดั้งเดิมมาใช้ไม่ได้หมายถึงการย้อนกลับสู่ความยิ่งใหญ่ อีกทั้งยังมีการวิจารณ์เกี่ยวกับการพรีวิวครั้งนี้ว่ามันเหมือนผลงานทั่วไปไร้ซึ่งเอกลักษณ์ และมันยังดูลดทอนคุณค่าของแบรนด์ไปในไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง บางคนถึงขั้นแสดงความคิดเห็นว่ามันดูเหมือน McQ มากกว่าแบรนด์หลักเองเสียอีก เรื่องทิศทางเชิงศิลป์ก็เป็นประเด็นไม่น้อยเหมือนกัน เพราะรูปแบบผลงานนั้นดูค่อนข้างล้าสมัยในมุมมองของใครหลายคน บางคนรู้สึกเหมือนคอนเทนต์ของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์หรือภาพกลิ่นอายเดียวกับแพลตฟอร์ม Tumblr เมื่อทศวรรษก่อน แรงกว่านั้นบางคนยังมองว่าการพรีวิวครั้งนี้เหมือนผลงานนำเสนอแบบงานนักศึกษาแฟชั่นทั่วไปเลยด้วยซ้ำ

ภาพแคมเปญหญิงสาวในป่าสนของ Alexander McQueen โดย Seán McGirr ที่โดนวิจารณ์เกี่ยวกับมิติเชิงศิลป์ / ภาพ: @alexandermcqueen

     ตอนนี้คนกำลังมองหาอะไรกันแน่...เมื่อชอนเข้ามาและนำเสนอพรีวิวที่ชวนให้นึกถึงกลิ่นอายความดาร์ก หลอนประสาท และผสมผสานกับความงดงาม ต้องบอกว่าสาวกพันธุ์แท้ของแบรนด์กำลังมองหาความลึกซึ้งของการนำเสนอแฟชั่นที่มีข้อความซ่อนอยู่ บ่งบอกถึงอารมณ์ความรู้สึก และมิติของเสื้อผ้าเครื่องประดับที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงตั้งตารอโชว์ที่เป็นมากกว่าแฟชั่นโชว์แต่เป็นดั่งการแสดงอันเปี่ยมด้วยความงดงามอันน่าสะพรึง ตอนนี้ทุกคนได้แต่เฝ้ารอว่าชอนจะนำเสนอผลงานเต็มรูปแบบครั้งแรกอย่างไร เขาจะลบคำสบประสาทและกระแสเชิงลบจากการพรีวิวครั้งแรกได้หรือไม่ และอเล็กซานเดอร์ แม็กควีนจะกลับมาเป็นแบรนด์ที่เปี่ยมด้วยเรื่องราวความสวยงามที่คละคลุ้งไปด้วยห้วงอารมณ์ของมนุษย์จริงไหม ปารีสแฟชั่นวีกเปิดศักราช 2024 อาจมีคำตอบ