ช่างทำแพตเทิร์น ตำแหน่งธรรมดาๆ ที่ทำให้ Alexander McQueen มีความสุขที่สุดในชีวิต
ชีวิตอันมืดมนของ Alexander McQueen คงเป็นสิ่งที่เรารู้จักกันดี แต่ใครจะรู้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นหนุ่มสดใสในบทบาทช่างตัดเสื้อหน้าใหม่
ใครติดตามเรื่องราวแฟชั่นมาโดยตลอดจะทราบกันดีว่าดีไซเนอร์หัวขบถที่สร้างปรากฏการณ์ไว้มากมายอย่าง Alexander McQueen เต็มไปด้วยเรื่องราวความหม่นหมองในชีวิตจนเรียกได้ว่าเขาคือดีไซเนอร์ที่ดาร์กที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์วงการแฟชั่นเลยก็ว่าได้ ทว่าเรื่องราวบางช่วงเวลาอาจไม่เคยถูกพูดถึงบ่อยนัก และเป็นช่วงเวลาที่อเล็กซานเดอร์มีความสุขเพลิดเพลินถึงขนาดเผยรอยยิ้มได้อย่างเป็นธรรมชาติ วันนี้เราจะพาทุกคนย้อนกลับไปหาวัยเด็กของเขาอีกครั้งพร้อมกับหาคำตอบว่า “ช่วงชีวิตที่ไร้ซึ่งความหม่นหมองของอเล็กซานเดอร์ แม็กควีนเป็นอย่างไร”
Alexander McQueen และแม่ของเขา Joyce McQueen / ภาพ: World of faces
หากพูดถึงอเล็กซานเดอร์แน่นอนว่าเราต้องไม่พลาดพูดถึงครอบครัวรากฐานการเป็นครูและนักจัดดอกไม้ของคุณแม่ รวมถึงความรู้ที่ส่งทอดมาจากประสบการณ์ของคุณพ่อทำให้อเล็กซานเดอร์ถือเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดไม่เบาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเชิงศิลปะ เชื่อไหมว่าเด็กน้อยจากลอนดอนสร้างสรรค์ภาพสเกตช์ครั้งแรกตอนอายุ 3 ขวบบนผนังห้องนอนตัวเอง ชุดเดรสซินเดอเรลล่าคือชุดแรกที่สเกตช์โดยฝีมืออเล็กซานเดอร์ มันคือความสุขของเด็กน้อยคนหนึ่งที่ได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ เสรีภาพทางความคิดแม้จะอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมไม่กว้างนัก วิญญาณด้านแฟชั่นหล่อหลอมตัวตนและสร้างความสุขให้เขาอยู่เสมอ พอวาดเสร็จก็สร้าง...พร้อมนำแรงบันดาลใจจากการชอบเรื่องราวเกี่ยวกับนกซึ่งสะท้อนถึงความอิสระ นอกจากนี้รูปทรงอันสวยงามของมันยังสร้างความประทับใจเติมเต็มวัยเด็กของดีไซเนอร์คนนี้ได้อย่างดีเยี่ยม
วัยเด็กแสนมีสไตล์ของ Alexander McQueen / ภาพ: The Times
“แกะสีชมพู” ในยุคที่ผู้คนเต็มไปด้วยข้อสงสัยเรื่องเพศและการใช้ชีวิตนอกกรอบ การไปเรียนของอเล็กซานเดอร์เหมือนเป็นแกะตัวแตกต่างในฝูง ในขณะเดียวกันงานอดิเรกอย่างการเรียนว่ายน้ำที่สร้างความสุขได้ตลอดมาก็ทำให้เขาได้คลุกคลีกับผู้หญิง กลิ่นอายความเฟมินีนที่เขาชื่นชอบได้โอบล้อมวัยเด็กของเขาอย่างอบอุ่น อเล็กซานเดอร์คือเด็กชายตัวน้อยที่ได้เริงระบำในโลกแฟนตาซีที่มีเหล่าสัตว์ปีกและชุดเดรสเป็นสิ่งห้อมล้อม ครั้งหนึ่งเขาเคยมีความสุขสุดขีดกับการสวมกระโปรงไปงานกาล่า หลังจากนั้นเขาก็อธิบายเนื้อแท้ความเป็นตัวเองว่าเป็นแกะสีชมพู ไม่ใช่แกะดำแต่อย่างใด...
WATCH
บรรยากาศ ณ ถนนเซวิลโรว์ที่เป็นแหล่งของสุภาพบุรุษระดับโลก / ภาพ: Retail Gazzette
ความสุขเมื่อแม่เห็นดีเห็นงามด้วย...ความสุขของการมีความฝันเป็นดีไซเนอร์คือได้รับการสนับสนุนจากคนเบื้องหลัง แน่นอนว่าหากเกิดในครอบครัวที่ค่อนข้างต้องดิ้นรนพอสมควร การศึกษาและทำงานจะต้องเน้นเพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัวเป็นอันดับแรก แต่ด้วยแง่มุมเชิงศิลปะของครอบครัวทำให้ครอบครัวแม็กควีนไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อแม่ของอเล็กซานเดอร์เปิดโทรทัศน์ดูรายการเกี่ยวกับเซวิลโรว์ ถนนชื่อดังที่ถูกขนานนามว่าถนนแห่งสูท เธอก็บอกให้เขาไปลองสมัครงานดูเผื่อจะได้ทำในสิ่งที่ลูกใฝ่ฝัน ไม่น่าเชื่อด้วยพรสวรรค์เขาสามารถเข้าเป็นเด็กฝึกของ Anderson & Sheppard ห้องเสื้อชื่อดังของถนนเส้นดังกล่าว(และของโลก) เหตุผลนอกเหนือจากแววและพรสวรรค์คือห้องเสื้อพวกนี้นิยมรับเด็กที่ไม่มีประสบการณ์การเรียนหนังสือในระดับมหาวิทยาลัยนัก เพราะพวกเขาอยากปูพื้นฐานและฝึกฝนให้ลื่นไหลในสไตล์เฉพาะ นี่เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตช่างตัดเสื้อ ช่วงเวลาเริ่มต้นของความสุขตอนวัยรุ่นของเด็กหนุ่มผู้กำลังเติมฝัน
Alexander McQueen ช่วงวัยรุ่น ในขณะที่โลกสว่างสดใสอย่างที่ควรจะเป็น / ภาพ: PinkNews
เขาเข้ามาในวงการและเริ่มศึกษาความขบถที่เขาตั้งคำถามมาตั้งแต่เด็ก กรอบทางศิลปะ บทบาทเรื่องเพศ และอื่นๆ อีกมากมาย โลกแฟชั่นในลอนดอนพยายามทำความเข้าใจอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นความพยายามของอเล็กซานเดอร์ในลอนดอนบ้านเกิดจึงทวีคูณขึ้น ที่แอนเดอร์สันแอนด์เชปเพิร์ดคือสถานที่ที่อเล็กซานเดอร์มองเห็นลู่ทางและเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของตัวเอง ทักษะที่เหมือนพระเจ้าประทานพรผลักดันให้เขาอยู่เหนือเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน ความก้าวหน้าพร้อมกับรอยยิ้มคือความสำเร็จแรกโดยไม่มีอะไรมาทำร้ายจิตใจอเล็กซานเดอร์แม้แต่นิด พอทักษะถึงขั้นเขาก็สามารถเรียนรู้ได้จากหลายที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ไปพร้อมๆ กับร่ำเรียนเทคนิคที่ถูกต้อง ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบไปกว่าการได้ใช้ชีวิตในโลกแฟชั่น โลกแห่งความฝันของอเล็กซานเดอร์เสมอมา
Alexander McQueen ในสไตล์ซาร์ทอเรียลสุดเนี้ยบแบบที่คนส่วนใหญ่ไม่คุ้นตานักขณะมีโปรเจกต์พิเศษร่วมกับ Huntsman / ภาพ: The Hounds
“ช่างตัดแพตเทิร์นคือการเปิดโลก ไอเดียของอเล็กซานเดอร์พุ่งกระฉูด” ลองคิดภาพตามว่าถ้าเรามีไอเดียมหาศาลและได้ปลดปล่อยเป็นผลงานเราจะรู้สึกดีแค่ไหน อเล็กซานเดอร์ก็เป็นเช่นนั้น หลังจากเรียนรู้วิถีของชายหนุ่มเซวิลโรว์กับการตัดเย็บชั้นสูงแล้ว เขาก็ออกเดินหน้าอีกครั้งสู่ Gieves & Hawkes อีกหนึ่งห้องเสื้อเก่าแก่และเริ่มรับงานเป็นช่างตัดแพตเทิร์นให้กับแบรนด์ต่างๆ เขารู้สึกดีมากกับรากฐาน ณ เซวิลโรว์เขาทำทุกอย่างได้สมบูรณ์แบบ และใช้ความสมบูรณ์แบบนี้ในการพัฒนาตัวเอง เขาสนุกกับชีวิตช่วงนี้เพราะได้ผสมผสานทักษะพรสวรรค์เข้ากับการสร้างผลงานในแนววิสัยทัศน์ของตัวเองแบบเต็มตัว
Koji Tatsuno ผู้ให้โอกาส Alexander McQueen ได้พัฒนาฝีมือและเปิดโลกจนสร้างตำนานได้ในเวลาต่อมา / ภาพ: MUBI
ช่างตัดแพตเทิร์นคือการสร้างตัวตนจริงๆ ของแม็กควีน ไม่มีเรื่องความกดดัน เงิน หรือด้านมืดเข้ามาครอบงำ การรับงานอย่างเป็นทางการในฐานะช่างตัดแพตเทิร์นคือเมื่อปี 1989 โดยทำงานให้กับ Koji Tatsuno ที่นี่เองเขาได้พัฒนาวิธีการตัดเย็บล้ำสมัย ได้สนุกกับการใช้ผ้าอย่างเต็มที่ ได้ลองถ่ายทอดจินตนาการออกมาเป็นเสื้อผ้าสุดซับซ้อน ไอเดียของอเล็กซานเดอร์เริ่มกระฉูด กระฉูดในชนิดที่ไม่ต้องคิดเรื่องผลตอบรับใดๆ เขาคือช่างผู้เปรียบเสมือนนักทดลองที่พร้อมพิสูจน์สิ่งใหม่ให้กับโลกนี้เสมอ การปลดปล่อยไอเดียขั้นสุดและการยอมรับในฐานะหนุ่มไฟแรงในแวดวงแฟชั่นคือความสุขที่ยากจะหาสิ่งใดมาเปรียบ มากไปกว่านั้นโคจิยังผลักดันให้อเล็กซานเดอร์เป็นมากกว่าแค่ช่างตัดแพตเทิร์นผู้ดูแลความเรียบร้อยตามขนบ แต่ตอบโจทย์ความหัวก้าวหน้าของเขาด้วยการให้โอกาสสร้างสรรค์งานแฟนตาซีได้อย่างที่เขาไม่เคยมีโอกาสมาก่อนช่วงทำงาน ณ ย่านอนุรักษ์นิยมอย่างเซวิลโรว์
ชุดเดรสที่ดูเรียบง่ายแต่รังสรรค์ด้วยวิธีอันซับซ้อนของ Alexander McQueen / ภาพ: Threads
สุดท้ายความสุขของการสร้างสรรค์ผลงานคือการเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นต่อไป แม้อเล็กซานเดอร์ยังไม่ได้มีชื่อเสียงหรือแม้แต่เรียนแฟชั่นอย่างจริงจังเลยด้วยซ้ำ การทดลองของเขากลับเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นมากมาย การมองโลกด้วยมุมมองที่แตกต่างทำให้เกิดเทคนิคใหม่ๆ อยู่เสมอ ช่างตัดแพตเทิร์นหลอมรวมฝีมือเข้ากับความคิด การสร้างชิ้นงานขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่างอาจจะง่าย แต่จะสร้างออกมาให้เรียบร้อยสมบูรณ์ไปทุกด้านนั้นยากเสมอ ทว่าอเล็กซานเดอร์ทำได้ และเขาทำมันด้วยความสุขเปี่ยมล้น แทบไม่เคยมีบันทึกใดเลยที่บันทึกถึงความตรากตรำและมืดหม่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาแบบยุคหลังๆ เลย
เราคงเคยเห็นแต่ภาพความขบถสุดดาร์กของ Alexander McQueen แบบนี้แต่วันนี้มีอ่านบทความนี้จบ หลายคนอาจจะจำอีกแง่สำคัญในชีวิตเขาได้มากขึ้น / ภาพ: The Designers Studio
อเล็กซานเดอร์มีแต่แรงบันดาลใจทั้งสำหรับตัวเขาเองและผู้อื่น ความคิดอิสระที่พร้อมกระจายซึมเข้าทุกส่วนของประสาท เพราะฉะนั้นเราสามารถพูดได้อย่างจริงจังว่าอเล็กซานเดอร์มีความสุขกับช่วงเวลาแสนเรียบง่ายแต่จัดจ้านด้านศิลปะ เขาไม่เคยต้องการสปอตไลต์ เพราะการเป็นช่างตัดเสื้อเป็นแค่คนหลังฉากเท่านั้น ตอนนี้เขาคงมีความสุขที่ได้พักผ่อนหลังต้องตรากตรำกับความคิดแง่ลบมาโดยตลอด การเป็นช่างตัดแพตเทิร์นนี้เองที่ทำให้เราได้เห็นรอยยิ้มพิมพ์ใจของอเล็กซานเดอร์สักครั้งในชีวิต และนี่คือช่วงเวลาที่คนมองไม่ข้ามเรื่องหมองมัวในชีวิตมา เขาไม่ใช่แค่ดีไซเนอร์หัวขบถผู้ปลิดชีพตัวเอง ทว่าเขาคือตำนานที่ฝากผลงานให้เราจดจำในฐานะดีไซเนอร์ มากไปกว่านั้นยังถูกจดจำในฐานะช่างแพตเทิร์นผู้กล้าเปลี่ยนโลก วันนี้เราคงเห็นเขายิ้มในสวรรค์เมื่อได้ย้อนมาฟังเรื่องราวความขบถภายใต้วงล้อมแห่งชีวิตอันขมขื่นในฐานะผู้ใหญ่และดีไซเนอร์แบรนด์ดัง มากไปกว่านั้นเราจะได้จดจำด้วยว่าเขาเคยมีรอยยิ้มและใบหน้าอารมณ์สดชื่นซึ่งเราจะไม่มีโอกาสเห็นอีกตลอดไป...
ภาพ: Alexander McQueen Fashion Visionary by Judith Watt, The Hounds, และ The Cutting Class
WATCH