FASHION
เปิดเบื้องหลังการทำชุดเดรสดอกอะนีโมนีของ Alexander McQueen ที่จะกลายเป็นไอคอนิกเดรสชุดใหม่ความงามของดอกไม้อยู่คู่กับแบรนด์ Alexander McQueen มาเป็นเวลานาน และวันนี้ดอกอะนีโมนีคือดอกไม้พันธุ์ล่าสุดที่ถูกเปลี่ยนเป็นลายพิมพ์แฟชั่น |
ความสวยงามของดอกไม้เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับความสร้างสรรค์ของแบรนด์ Alexander McQueen อยู่เสมอ ในการพรีวิวคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2021 ณ ร้านย่าน Old Bond Street เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนนั้น “นิทรรศการกุหลาบ” ของแบรนด์ยังคงจัดแสดงอยู่ชั้นบนตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2019 และไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความงามของอเล็กซานเดอร์ แม็กควีนขาดดอกไม้ไปไม่ได้ ไม่ใช่แค่การจัดแสดงผลงานและเรื่องราวเบื้องหลัง แต่หมายถึงชุดไอคอนิกจากรันเวย์ในความทรงจำจากหลายคอลเล็กชั่น ไม่ว่าจะเป็นชุดดอกไม้สดจากคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2007 “Rose Dress” จากคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2019 และชุดดอกไม้เลเซอร์คัตในคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2020 ซึ่ง Sarah Burton ยังคงยึดถือมุมมองความสวยงามจากธรรมชาติแบบนี้ไว้เสมอ
ชุดเดรสดอกอะนีโมนีพิมพ์ลงบนผ้า poly faille สีโรสโกลด์ / ภาพ: Alexander McQueen
ในคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2021 มีชุดเดรสดอกไม้เป็นจุดเด่นสะดุดตาอีกเช่นเคย ครั้งนี้ซาราห์ย้อนนึกถึงความโดดเด่นในอดีตเพื่อพัฒนาสู่อนาคต โดยมีข้อความระบุถึงคอลเล็กชั่นนี้ว่า “สำรวจเสียงสะท้อนจากอดีตเพื่อเสริมสร้างอนาคตของแบรนด์” ซึ่งความหมายโดยนัยสื่อถึงการนำเอาความสวยงามของดอกไม้มารังสรรค์ให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เปลี่ยนจากดอกกุหลาบเป็นดอกอะนีโมนีแทน (Anemone) เธอกล่าวว่าผู้หญิงที่ได้สวมชุดดอกอะนีโมนีนี้แทบจะกลายเป็นดอกไม้อันงดงาม เปี่ยมไปด้วยความเปล่งปลั่ง เต็มไปด้วยรายละเอียด และมีความแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน ความสลับซับซ้อนเหล่านี้จึงชวนโว้กพาทุกคนไปชมเบื้องหลังของชุดเดรสอะนีโมนีสุดประณีตของซาราห์
ภาพบรรยากาศการฟิตติ้งชุดเดรสอะเนมโมนี / ภาพ: Liam Leslie
ชุดเดรสอะเนมโมนีเป็นเหมือนชิ้นงานที่สะท้อนการผสมผสานระหว่างธรรมชาติและการฟื้นฟูอย่างเป็นรูปธรรม เป็นเหมือนการสร้างเซนส์ด้านความสุขและการมองโลกแง่บวก หลังจากต้องเผชิญกับช่วงเวลาอันแสนมืดมน(สถานการณ์โควิด-19) ซิลูเอตของชุดเดรสได้รับแรงบันดาลใจมาจากกลีบดอกไม้ ลวดลายของดอกไม้ค่อยๆ ฟุ้งกระจายออกจากจุดเข้มๆ บริเวณกลางลำตัว กลายเป็นงานศิลปะบนชุดเดรสที่สะดุดตาไม่แพ้ลวดลายดอกไม้ไหนๆ ในประวัติศาสตร์แฟชั่น
WATCH
การเทียบลายพิมพ์ดอกอะเนมโมนีเพื่อเตรียมพิมพ์ลงผ้า poly faille สีดำ / ภาพ: Alexander McQueen
ซาราห์และทีมออกแบบสนใจอย่างยิ่งในการใช้ชุดเดรสเพื่อรักษาภาพอันงดงามของดอกอะเนมโมนีซึ่งเป็นดอกไม้ที่ไม่จีรังนัก เมื่อซิลูเอตของชุดเริ่มขยายใหญ่ขึ้น มีการเติมรายละเอียดส่วนต่างๆ อย่างละเอียด ลวดลายดอกอะเนมโมนีก็กระจายวงกว้างตามไปดั่งงานศิลปะแบบนามธรรม ทั้งซิลูเอตและลายพิมพ์ผสมผสานกันได้อย่างดี ลายดอกไม้สร้างภาพออกมาได้ชัดเจน ส่วนซิลูเอตก็จำลองรูปลักษณ์ของดอกไม้ออกมาในรูปแบบ 3 มิติ โดยมีจุดเด่นสำคัญคือการเสริมรายละเอียดบริเวณแขนเสื้อและกระโปรงให้ออกมาราวกับเป็นกลีบของดอกอะเนมโมนี ซึ่งเธอต้องการให้ชุดดอกอะเนมโมนีกลายเป็นไอเท็มชิ้นอมตะ ไม่เหี่ยวเฉาไปเหมือนดอกอะเนมโมนีของจริงที่บานสะพรั่งได้เพียงไม่กี่สัปดาห์
ภาพบรรยากาศการฟิตติ้งชุดเดรสอะเนมโมนีอีกหนึ่งเซต / ภาพ: Liam Leslie
การเดรปผ้าทั้งหมดเป็นงานฝีมือมนุษย์ ลายพิมพ์ดอกอะเนมโมนีหลายรูปแบบก็ปรากฏอยู่บนงานคราฟต์ดังกล่าวตลอดทั้งคอลเล็กชั่น แต่กว่าจะเป็นลายดอกอะเนมโมนีไม่ใช่เรื่องง่าย ทีมงานต้องถ่ายภาพและนำมาสร้างมิติเพิ่มเติมด้วยการอัดแน่นรวมกัน ก่อนจะถ่ายมันซ้ำอีกครั้งหนึ่งจึงค่อยพิมพ์ลงบนเนื้อผ้า ซึ่งการสร้างลายดอกไม้ระดับกูตูร์ดังกล่าวจะถูกพิมพ์ลงบน poly faille ผ้าชนิดพิเศษที่ทำจากเส้นด้ายรีไซเคิล
ชุดเดรสไหล่ปาดผ้า poly faille สีโรสโกลด์ มาพร้อมลายพิมพ์ดอกอะเนมโมนี / ภาพ: Alexander McQueen
เมื่อวางระบบการทำงานเรียบร้อย มาถึงขั้นตอนสุดท้ายซึ่งสำคัญที่สุดอย่างการพิมพ์ลาย ซาราห์และทีมสร้างหุ่นกระดาษขึ้นมาเพื่อจำลองให้เห็นว่าเมื่อลายพิมพ์อยู่บนเนื้อผ้าแล้วจะเป็นอย่างไร และค่อยๆ ปรับจนสมบูรณ์แบบ หลังจากนั้นก็สร้างชุดจำลองขนาดเท่าของจริงหลายตัวเพื่อใช้เปรียบเทียบลวดลายดอกอะเนมโมนีหลายเวอร์ชั่น ก่อนจะตัดสินใจเลือกเวอร์ชั่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดใส่ลงไปในคอลเล็กชั่น เราอาจเห็นความงดงามเบื้องหน้าของชุดเดรสอะเนมโมนีที่ทำให้ต้องหยุดมอง ทว่าเบื้องหลังความสวยงามนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราว เทคนิค ความซับซ้อน และหยาดเหงื่อของทีมงานอเล็กซานเดอร์ แม็กควีนทุกคน ดังนั้นชุดเดรสอะเนมโมนีจึงไม่ใช่แค่ชุดเดรสสวยสะดุดตา แต่เป็นคีย์พีซสำคัญของคอลเล็กชั่นนี้ และเชื่อเลยว่าจะกลายเป็นไอคอนิกพีซของแบรนด์อเล็กซานเดอร์ แม็กควีนที่คนจดจำไปตราบนานเท่านาน
ข้อมูล: vogue.co.uk
WATCH