FASHION
ไม่รู้มาก่อน! 10 เรื่องลับเบื้องหลังของ Longchamp ที่คุณอาจไม่เคยได้ยินที่ไหนถ้าไม่ใช่เพราะญาติคนหนึ่งได้ใช้นามสกุลนี้ตั้งชื่อธุรกิจอื่นไปก่อนแล้ว ป่านนี้กระเป๋าถือที่หลายคนชื่นชอบคงชื่อกาสแกร็งอย่างแน่นอน |
กว่า 70 ปีมาแล้วที่ชื่อของลองฌอมป์เป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์กระเป๋ามากฟังก์ชั่นที่สร้างชื่อจากกระเป๋าไนลอนแคนวาสพับได้ตามชื่อที่ถูกแปลตรงตัวในภาษาฝรั่งเศส ไปจนถึงกระเป๋าหนังรุ่นๆ ต่างๆ ที่ยังคงคอนเซ็ปต์เรื่องความสะดวกในการใช้งานตามแบบฉบับสาวปารีเซียง แต่คุณเคยรู้หรือไม่ว่ายังมีเรื่องราวเบื้องหลังตลอดระยะเวลาเกือบศตวรรษอีกมากมายของลองฌอมป์ที่อาจไม่เคยมีใครรู้มาก่อน กระทั่งชื่อแบรนด์เองก็เกือบถูกตั้งว่ากาสแกร็งตามนามสกุลของผู้ก่อตั้ง นี่คือ 10 เรื่องน่าทึ่งเกี่ยวกับแบรนด์กระเป๋าชื่อก้องโลกที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
1. จุดเริ่มต้นจากไปป์หนัง
ย้อนไปเมื่อปี 1948 หรือราวๆ 70 ปีที่แล้ว ครอบครัวกาสแกร็งซึ่งต่อมามีหนึ่งในสมาชิกเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์ลองฌอมป์เลี้ยงชีพด้วยการขายยาสูบบนถนนสายหลักของกรุงปารีส จุดพลิกของธุรกิจนี้มาจากไอเดียบรรเจิดของฌอง กาสแกร็ง ลูกชายคนสุดท้อง ที่นึกสนุกหยิบเอาหนังคุณภาพดีมาห่อหุ้มไปป์เพื่อยกระดับไปป์ในยุคนั้นแล้วขายให้กับนายทหารชั้นสูงทั่วปารีส
2. ที่มาของชื่อลองฌอมป์คือสนามแข่งม้า
หลังจากที่กิจการเริ่มไปได้ดี ฌองจึงเกิดความคิดที่จะตั้งแบรนด์ของตัวเองขึ้น แต่ชื่อ “ลองฌอมป์” ไม่ใช่ชื่อที่เขานึกถึงแม้แต่น้อย หากแต่เป็นนามสกุล “กาสแกร็ง” ถ้าไม่ใช่เพราะญาติคนหนึ่งได้ใช้นามสกุลนี้ตั้งชื่อธุรกิจอื่นไปก่อนแล้ว ป่านนี้กระเป๋าถือที่หลายคนชื่นชอบคงชื่อกาสแกร็งอย่างแน่นอน แต่ด้วยเหตุนี้ทำให้ฌองหยิบเอาความหมายของนามสกุลซึ่งแปลว่าโรงสีข้าว จากนั้นก็นึกย้อนไปอีกถึงโรงสีข้าวที่ตั้งอยู่ติดกับสนามแข่งม้านามว่า Longchamp นี่จึงเป็นที่มาของโลโก้ม้าแข่งสัญลักษณ์ของแบรนด์ที่คนทั่วโลกรู้จักกันดี
3. ธุรกิจครอบครัว
ไม่ง่ายที่แบรนด์ระดับโลกจะประคองธุรกิจครอบครัวให้เป็นของคนในครอบครัวมากว่า 70 ปี แต่สำหรับลองฌอมป์แม้เวลาจะล่วงเลยมาเกือบศตวรรษแต่ธุรกิจยังคงอยู่ภายใต้การดูแลของทายาทรุ่นที่ 2 และ 3 ของครอบครัวกาสแกร็งไม่เปลี่ยนแปลง
4. แฟนระดับซูเปอร์สตาร์
นอกจากเซเลบริตี้ฮอลลีวู้ดและคนดังของไทยหลายคนจะเป็นแฟนตัวยงของลองฌอมป์แล้ว ราชาเพลงร็อกแอนด์โรลล์อย่าง “เอลวิส เพรสลีย์” ก็ถือเป็นซูเปอร์สตาร์ที่ชื่นชอบลองฌอมป์มาอย่างยาวนาน ส่วนชิ้นที่เขาใช้ติดตัวไม่ห่างเห็นจะเป็นไปป์หนังและกระเป๋าเดินทางสำหรับผู้ชายใบโปรด
5. เครื่องหนังชิ้นเอกลักษณ์
จุดเริ่มต้นของการเป็นที่รู้จักในวงกว้างเริ่มมาจากการก้าวขาเข้ามาในวงการเครื่องหนังดีไซน์คลาสสิกและการเปิดตัวของคอลเล็กชั่นสำหรับสุภาพบุรุษ ตามมาด้วยคอลเล็กชั่นกระเป๋าหนังที่ตกแต่งด้วยหนังแกะผิวสัมผัสนุ่มซึ่งต่อมากลายเป็นรากฐานให้กับกระเป๋ารุ่นต่อๆ มาของลองฌอมป์ และถูกพัฒนาจนเป็นกระเป๋ารุ่นโฮโซ่ที่โดดเด่นด้วยตัวล็อคก้านไผ่และโลโก้หนังทรงวงรี
6. ความสำคัญของเวิร์กช็อปดั้งเดิม
จนถึงปัจจุบันผลงานทุกชิ้นของลองฌอมป์ยังคงถูกผลิตในเวิร์กช็อปเก่าแก่ของแบรนด์ซึ่งตั้งอยู่ทั้ง 7 แห่งในฝรั่งเศส เริ่มที่เวิร์กช็อปแห่งแรกในเมืองเซอเกรเมื่อปี 1959 ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านหลังใหญ่ของเหล่าช่างฝีมือชั้นดี และยังเป็นศูนย์กลางของการพัฒนางานเครื่องหนังตั้งแต่ขั้นตอนการสเก็ตช์ภาพ เฟ้นหาหนังคุณภาพเยี่ยมจากทั่วโลก ไปจนถึงขั้นตอนการตัดเย็บ โดยเฉลี่ยกระเป๋าของลองฌอมป์จะใช้ส่วนประกอบทั้งหมด 100 ชิ้น ผ่านการประกอบมากถึง 250 ขั้นตอนโดยช่างฝีมือประสบการณ์สูงเท่านั้น ไม่แปลกใจที่ลองฌอมป์เองเป็นหนึ่งในสมาชิกสมาคม Comité Colbert ที่คัดเลือกเฉพาะแบรนด์ระดับลักชัวรี่ในฝรั่งเศสเท่านั้น
7. เลอ ปลิยาจ
ในขณะที่ฟิลิป กาสแกร็ง ทายาทผู้ก่อตั้งกำลังใช้เวลากว่า 3 ปีในการสร้างสรรค์กระเป๋ารุ่นใหม่เพื่อตอบโจทย์นักเดินทางทั่วโลก ในที่สุดฟิลิปพลันเกิดไอเดียในสมองหยิบเอาแรงบันดาลใจจากการพับกระดาษแบบโอริกามิของญี่ปุ่นมาผสมผสานกับกระเป๋าดีไซน์หรู จึงเป็นที่มาของกระเป๋ารุ่นเลอ ปลิยาจ แม้ว่าลองฌอมป์จะประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งกับทุกๆ คอลเล็กชั่นที่นำเสนอ แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะประทับตราชื่อของแบรนด์ให้คนทั้งโลกหันมาจดจำได้เท่ากับการเปิดตัวของกระเป๋าพับได้จากวัสดุไนลอนแคนวาสที่มีน้ำหนักเบาและทนทานรุ่นนี้ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ความประหยัดพื้นที่ในการเดินทาง หูกระเป๋าหนังรัสเซียอายุกว่า 200 ปี และโลดแล่นในมือสาวๆ ทั่วโลกมาแล้วกว่า 150 เฉดสี
8. มาดมัวแซล ลองฌอมป์
ในคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วงปี 2017 ลองฌอมป์ได้ “เฟรจา เบฮา อีริคเซน” นางแบบสาวสุดเท่มาเป็นเฟสคนใหม่ของแบรนด์ พร้อมเปิดตัวอิทแบ็กใหม่อย่าง “มาดมัวแซล ลองฌอมป์” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากจิตวิญญาณของสาวปารีเซียงผู้มีหัวใจอิรสะและปลุกพลังสตรีนิยมแห่งยุค ‘70 กระเป๋ารุ่นนี้ก้าวขึ้นเป็นอิทแบ็กในหมู่แฟชั่นนิสต้าได้ในระยะเวลาเพียงซีซั่นเดียวเท่านั้น
9. ลองฌอมป์กับศิลปะ
ตลอดเกือบศตวรรษลองฌอมป์เชื้อเชิญศิลปินดังมาร่วมออกแบบผลงานบนกระเป๋ารุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่นมากมาย ไล่ตั้งแต่ Tracey Emin, Jeremy Scott, Mary Katrantzou ไปจนถึง Sarah Morris ล่าสุดแบรนด์ยังผนวกรวมศิลปะ สถาปัตยกรรม และแฟชั่นเข้าด้วยกันผ่านศิลปินชาวอเมริกันอย่าง Ryan McGuinness และ John Aslanidis ชาวออสเตรเลีย
10. ลองฌอมป์สู่แบรนด์ไลฟ์สไตล์
ย้อนไปเมื่อปี 2006 โซฟี เดอลาฟองเตน ทายาทคนสำคัญที่ได้ชื่อว่ามีบทบาทที่สุดของลองฌอมป์เปิดตัวคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าผู้หญิงที่ผสมผสานการหนังอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เข้ากับเสื้อผ้าเรดี้ทูแวร์ คอลเล็กชั่นนี้เองที่กลายเป็นก้าวใหม่ครั้งสำคัญเปิดทางสู่การเป็นแบรนด์แฟชั่นที่ครบเครื่อง และย้ำจุดยืนอีกครั้งในปี 2012 กับการเปิดตัวคอลเล็กชั่นรองเท้าหนังทุกรูปแบบ ถัดมาคือการเปิดตัวคอลเล็กชั่นแว่นตาในปี 2017 ที่มีไฮไลต์คือขาแว่นหุ้มหนังรัสเซียจากหูกระเป๋ารุ่นเลอ ปลิยาจ ทั้งหมดนี้เปรียบเหมือนประกาศอย่างเป็นทางการจากทายาทผู้ก่อตั้งว่าลองฌอมป์ได้ก้าวเข้าสู่โลกของแบรนด์ไลฟ์สไตล์ลักชัวรี่อีกระดับแล้ว
เรื่อง: ปภัสรา นัฏสถาพร
ภาพและข้อมูล: The Courtesy of Longchamp
WATCH