ช่างภาพ: สุดเขต จิ้วพานิช

สไตล์ไดเร็กเตอร์: จิรัฏฐ์ ทรัพย์พิศาลกุล 

แต่งหน้า: พรพิชิต ขุมเงิน

ทำผม: ธานุพล ภู่เทพอมรกุล

ผู้ช่วยสไตลิสต์: ฐิตาภรณ์ พุกพัก

บรรณาธิการดิจิทัลด้านแฟชั่น: ปภัสรา นัฏสถาพร 

เรื่อง: นาทนาม ไวยหงษ์

อาร์ตไดเร็กเตอร์: วิวาน วรศิริ

กราฟิกดีไซเนอร์: บพิตร วิเศษน้อย

 

     ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าชื่อ “ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี” ถือเป็นชื่อของซูเปอร์สตาร์ชั้นนำของเมืองไทยในเวลานี้ ด้วยฐานแฟนคลับอันเหนียวแน่นและผลงานที่เขารังสรรค์ให้พวกเราทุกคนติดตามอย่างต่อเนื่อง กุญแจความสำเร็จคือเสน่ห์อันน่าหลงใหล รวมไปถึงคาแรกเตอร์อันน่าจดจำที่ยิ่งทำให้ทุกคนหลงรักไบร์ทกันถ้วนหน้า สืบเนื่องจากประเด็นดังกล่าวไบร์ทจึงไม่ได้มีแค่ผลงานด้านการแสดงหรือรายการบันเทิงเพียงอย่างเดียว แต่โลกแฟชั่นก็เป็นอีกหนึ่งเส้นทางแสนสดใสที่เขาสามารถก้าวเดินต่อไปพร้อมกับการพัฒนาในฐานะศิลปิน เส้นทางแฟชั่นคือเส้นทางแห่งอนาคตที่ช่างสดใสสมชื่อเจ้าตัว

 

     จุดเริ่มต้นของนักแสดงหนุ่มสุดฮอตวัย 23 ปีคือการปรากฏตัวครั้งแรกอย่างเป็นทางการในฐานะพิธีกรรุ่น 6 ของรายการ “สตรอเบอรี่ครับเค้ก” ในปี 2013 กับวัยเพียง 15 ปีเศษ ต่อจากนั้นก็มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าเขาคือดาวรุ่งดวงใหม่ของวงการผู้พร้อมรอวันประกายแสง เส้นทางแฟชั่นสำหรับไบร์ทในตอนนั้นอาจจะไม่ใช่เส้นทางหลักที่คนส่วนใหญ่คาดหวังมาตั้งแต่แรก แต่ในมุมของการเป็นนักแสดงและเด็กหนุ่มไฟแรงในอุตสาหกรรมบันเทิงทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียงในแวดวงอยู่พอสมควรเลยทีเดียว

เสื้อเชิ้ตแขนยาว ผ้าฝ้ายสวมทับด้วยสเวตเตอร์คอกลมผ้าแคชเมียร์ทอลาย รองเท้าสนีกเกอร์ผ้าแคนวาสพิมพ์ลายตัดต่อหนัง ทั้งหมดจาก DIOR MEN สวมทับอีกชั้นด้วยแจ็กเกตพร้อมฮู้ดซิปหน้า ผ้าไนลอนพิมพ์ลาย ใส่กับกางเกงขายาวทรงตรง ผ้าไหมพิมพ์ลายทั้งสองจาก LOUIS VUITTON

     ก้าวข้ามมาถึงปี 2017 ไบร์ทเหมือนปลดล็อคตัวเองสู่เส้นทางบนโลกแฟชั่นเป็นครั้งแรก โปรเจกต์ Boys of Bangkok คือผลงานแฟชั่นชิ้นแรกอย่างเป็นทางการ โดยเด็กหนุ่มนักศึกษาอายุ 19 ปี (ณ ตอนนั้น) เดินบนรันเวย์ในฐานะนายแบบให้กับแบรนด์ Leisure Projects ด้วยใบหน้าและแววตาอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้เขาอยู่ท่ามกลางแสงสปอตไลต์อย่างรวดเร็ว จุดเริ่มต้นที่สำคัญนี้ผลักดันให้ไบร์ทค่อยๆ ก้าวขาเข้ามาในอุตสาหกรรมศิลปะเครื่องแต่งกายได้แบบค่อยเป็นค่อยไป

 

     ช่วงระหว่างปี 2017 ถึง 2018 ไบร์ทยังคงเป็นหนุ่มดาวรุ่งไฟแรงผู้สั่งสมประสบการณ์ในวงการบันเทิงเตรียมพร้อมสู่การก้าวทะยานครั้งสำคัญในชีวิต เขาเปิดโอกาสใหม่ให้ตัวเองด้วยการเริ่มโปรเจกต์ GMM25 New Face 2018 และได้เซ็นสัญญากับทางค่าย GMMTV ซึ่งต่อมากลายเป็นใบเบิกทางสำคัญที่พาหนุ่มคนนี้พุ่งทะยานจากนักแสดงหนุ่มรุ่นใหม่สู่การเป็นดาวดวงใหม่ของวงการ จุดเริ่มต้นตรงนี้ถือเป็นเหมือนจุดเช็กพอยต์ที่แสดงให้เห็นว่าไบร์ทก้าวขึ้นมาอีกขั้นแล้ว

เสื้อเชิ้ตแขนยาว ผ้าฝ้ายสวมทับด้วยสเวตเตอร์คอกลมผ้าแคชเมียร์ทอลาย รองเท้าสนีกเกอร์ผ้าแคนวาสพิมพ์ลายตัดต่อหนัง ทั้งหมดจาก DIOR MEN สวมทับอีกชั้นด้วยแจ็กเกตพร้อมฮู้ดซิปหน้า ผ้าไนลอนพิมพ์ลาย ใส่กับกางเกงขายาวทรงตรง ผ้าไหมพิมพ์ลายทั้งสองจาก LOUIS VUITTON

     ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ประตูแห่งโลกแฟชั่นและศิลปะได้เปิดให้ไบร์ทลิ้มรสชาติอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน หากใครย้อนชมโซเชียลมีเดียของไบร์ทจะเห็นว่าปี 2018 เขาพัฒนาด้านนี้อย่างรวดเร็ว สังเกตได้จากภาพต่างๆ ที่โพสต์ลงหน้าฟีดอินสตาแกรมนั้นเป็นภาพที่ถ่ายให้กับแบรนด์แฟชั่นในประเทศ อีกทั้งยังมีการถ่ายภาพแฟชั่นเซตมากขึ้นเรื่อยๆ นับจากวันนั้นไบร์ทก็เดินบนถนนสายแฟชั่นเส้นเล็กๆ ก่อนที่แบรนด์ระดับนานาชาติจะเริ่มติดต่อเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกา เสื้อผ้าแฟชั่น และที่หลายคนคงจำกันได้คือการร่วมงานกับ Adidas ประเทศไทย ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งพัฒนาการที่เขาพาตัวเองสวมสนีกเกอร์มุ่งหน้าสู่ความสำเร็จ

สเวตเตอร์คอเต่าผ้านิตใยวูลสวมทับด้วยแจ็กเกตแขนยาวผ้าวูลทอลายในตัว ใส่กับกางเกงขายาวทรงตรงพร้อมเข็มขัดผ้าวูลทอลาย ทั้งหมดจาก ERMENEGILDO ZEGNA

     “ช่วงเวลาสำคัญเปิดทางอนาคตอันสดใส” ปี 2019 เป็นปีที่ชื่อของไบร์ทเป็นที่รู้จักมักคุ้นกับทุกคนมากขึ้น และเราเชื่อว่าทุกคนคงจำหนุ่มหล่อคนนี้ได้จากบท “หมอเป้ง” ช่วงวัยรุ่นจากเรื่อง My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการ เขากลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น และช่วงนี้เองเป็นครั้งแรกที่ไบร์ทมาปรากฏตัวบนแพลตฟอร์มดิจิทัลของโว้กประเทศไทยเป็นครั้งแรกกับวิดีโอ #VogueCast ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2019 ซึ่งเขาพาตัวเองเข้ามาอยู่ในวังวนของสื่อแฟชั่นอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่ตอนนั้นเขาก็ไม่เคยหลุดหายไปจากสารบบแม้แต่ช่วงเดียว

จั๊มป์สูทขายาวแขนยาวพร้อมถุงมือผ้านิตใยวูลทอลายจาก DIOR สวมทับด้วยแจ็กเกตซิปหน้าทรงโอเวอร์ไซซ์ผ้าไนลอนซับในผ้านิตใยวูลทอลาย ถุงมือสั้นหนังตกแต่งกระเป๋าและโลโก้ ทั้งหมดจาก PRADA

     การพุ่งทะยานครั้งใหญ่ที่ไม่มีใครหยุดอยู่ สำหรับไบร์ทปี 2020 เหมือนเป็นปีของเขาเลยก็ว่าได้ เพราะซีรีส์เพราะเราคู่กัน 2gether The Series สร้างกระแสฮิตโด่งดังทั้งในและต่างประเทศ ไบร์ทบินตรงขึ้นสู่ระดับซูเปอร์สตาร์เต็มตัว สอดคล้องกับโลกแฟชั่นยุคใหม่ที่แบรนด์ดังระดับโลก รวมถึงสื่อแฟชั่นต่างให้ความสนใจกับเหล่าดาราผู้ได้รับความนิยมถล่มทลายแบบนี้ ไบร์ทจึงมาปรากฏตัวในโว้กอีกครั้งกับวิดีโอ #คั่นกู ที่มาตอบคำถามเดาใจกันกับ “วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร” หลังจากนั้นเหมือนกับเส้นทางของไบร์ทสดใสตามชื่อจริงๆ เพราะแบรนด์หัวแถวต่างรุมจีบจนทำให้เขากลายเป็นเซเลบริตี้ที่ปรากฏบนหน้าฟีดแฟชั่นประเทศไทยแบบไม่มีเว้นวรรค

สเวตเตอร์คอเต่าทรงโอเวอร์ไซซ์ผ้านิตใยแคชเมียร์ คลุมทับด้วยแจ็กเกตแขนยาวทรงตรงผ้าวูล ใส่กับกางเกงขายาวทรงตรง ผ้าวูลเข้าชุด ทั้งหมดจาก Z ZEGNA รองเท้าสนีกเกอร์หนังเมทัลลิกจาก LOUIS VUITTON

     งานอีเวนต์ของแบรนด์ระดับโลกที่ไบร์ทมีส่วนร่วมเป็นงานแรกเราเชื่อว่าหลายคนคงจำลุคสุดเก๋รับซัมเมอร์กับงาน Prada Hyper Leaves ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมได้อย่างแน่นอน หลังจากนั้นกราฟชีวิตบนเส้นทางแฟชั่นของหนุ่มคนนี้ก็พุ่งทะยานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขากลายเป็นที่จับตามองของแบรนด์ยักษ์ใหญ่มากมาย เพราะฐานแฟนคลับที่แน่นหนาขึ้นทุกวัน และสไตล์การแต่งตัวที่สามารถลื่นไหลไปได้หลายรูปแบบ ไม่นานนักโว้กได้จับมือกับ Louis Vuitton รังสรรค์แฟชั่นเซตนำเสนอจิวเวลรีชิ้นใหม่ของแบรนด์อย่าง “LV Volt” ในช่วงต้นไตรมาสสุดท้ายของปี 2020 สร้างภาพให้ไบร์ทเป็นหนุ่มแฟชั่นเต็มตัว และเพิ่มแบรนด์ชั้นนำอีกหนึ่งแบรนด์เข้าสู่พอร์ตโฟลิโอที่เต็มไปด้วยผลงานด้านแฟชั่นอันสมบูรณ์มากขึ้น

สเวตเตอร์คอเต่าทรงโอเวอร์ไซซ์ผ้านิตใยแคชเมียร์ คลุมทับด้วยแจ็กเกตแขนยาวทรงตรงผ้าวูล ใส่กับกางเกงขายาวทรงตรง ผ้าวูลเข้าชุด ทั้งหมดจาก Z ZEGNA รองเท้าสนีกเกอร์หนังเมทัลลิกจาก LOUIS VUITTON

     เส้นทางแฟชั่นของไบร์ทกับหลุยส์ วิตตองดำเนินไปได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากโปรเจกต์ “LV Volt” เขายังคงร่วมงานกับแบรนด์อย่างสม่ำเสมอแทบทุกคอลเล็กชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลุคสตรีตสไตล์ที่เขามักสวมชุดหรือถือกระเป๋าของแบรนด์อยู่ตลอด และช่วงปลายปี 2020 เขาก็ปรากฏตัวคู่กับวินในฐานะแขกคนสำคัญของงานเปิดป๊อปอัพ Game On! คอลเล็กชั่นครูส 2021 ณ สยามพารากอน ซึ่งมีแฟนคลับมารอต้อนรับอย่างคับคั่ง มากไปกว่านั้นบนโลกออนไลน์ยังมีการพูดถึงไบร์ท-วินในงานนี้จนขึ้นเป็นเทรนด์ทวิตเตอร์ช่วงค่ำคืนวันงานอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่ไบร์ทดึงดูดความสนใจได้อย่างล้นหลาม และตอกย้ำแนวทางของการทำงานในโลกแฟชั่นยุคใหม่ที่เซเลบริตี้แถวหน้าคือคนสำคัญที่แบรนด์ชั้นนำทั่วโลกต่างแย่งกันจองตัว

สเวตเตอร์คอเต่า ผ้านิตใยวูลทอลายในตัว จาก PRADA สวมทับด้วยแจ็กเกตแขนยาวซิปหน้าทรงโอเวอร์ไซซ์ จาก ERMENEGILDO ZEGNA

     ตลอดปี 2020 เรื่อยมาจนถึง 2021 ไบร์ทยังคงร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำอีกหลายต่อหลายแบรนด์ เช่น Fendi, Saint Laurent และ Burberry จนล่าสุดเขาร่วมงานอีเวนต์ของปราด้าอีกครั้งในช่วงเดือนมิถุนายน 2021 กับงานเปิดป๊อปอัพแห่งใหม่ของแบรนด์ ณ ไอคอนสยาม ด้านงานในสื่อแฟชั่นโว้กก็ไม่พลาดพาไบร์ทมาถ่ายแฟชั่นเซตอีกครั้งในฉบับเดือนตุลาคม 2021 พร้อมทั้ง #VogueMore ในเดือนเดียวกัน ตั้งแต่เด็กหนุ่มหน้าใสเริ่มเข้าวงการจนก้าวมาเป็นบุคคลสำคัญในวงการแฟชั่นประเทศไทยตอนนี้ ไบร์ทก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังก้าวสอดคล้องไปพร้อมกับเทรนด์โลกอีกด้วย เพราะฉะนั้นอนาคตที่สดใสไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เพราะตัวตนของไบร์ท จังหวะเวลา และการสนับสนุนอันหนักแน่นของแฟนคลับ เราเชื่อว่าต่อไปไบร์ทจะยืนหยัดสร้างผลงานทั้งในอุตสาหกรรมบันเทิง รวมถึงอุตสาหกรรมแฟชั่นอย่างต่อเนื่องแน่นอน หากพูดถึงปรากฏการณ์ในเส้นทางแฟชั่นประเทศไทยช่วง 2 ปี สามารถพูดอย่างเต็มปากเลยว่า ไบร์ท คืออนาคตอันสดใสดั่งวลี “THE FUTURE IS SO BRIGHT” ไม่มีผิด