vintage shoes

FASHION

ส่อง 5 สไตล์รองเท้าวินเทจสุดคลาสสิกที่สวมใส่ดูดีมาตลอดทุกยุคสมัย

รองเท้าวินเทจกับดีไซน์เหนือกาลเวลาที่ยังคงร่วมสมัยและได้รับความนิยมมาเสมอ

โดย วราภรณ์ หงส์วรางกูร
09 สิงหาคม 2566

     ในขณะที่แฟชั่นรองเท้ามีดีไซน์ใหม่มาอัปเดตกันอยู่เรื่อยๆ อีกด้านหนึ่งก็ยังมี “รองเท้าวินเทจ” ที่ได้รับความนิยมจากยุคก่อนมาจนถึงปัจจุบันด้วยเช่นกัน เพราะรองเท้าวินเทจมีความคลาสสิก ซึ่งหลายสไตล์เป็นดีไซน์ดั้งเดิมแต่ยังมีความร่วมสมัย รวมถึงยังมีการพัฒนาและประยุกต์ดีไซน์เก่ามาทำใหม่ให้เก๋มากขึ้น ในบทความนี้จะมาพูดถึงรองเท้าวินเทจสไตล์ต่างๆ ที่ไม่เคยตกเทรนด์ รวมถึงช่วยยกระดับให้กับเครื่องแต่งกายได้มาตลอดทุกยุคสมัยอีกด้วย

 

Article

 

1. รองเท้าแมรี่เจน (Mary-Janes)

     รองเท้าแมรี่เจน (Mary-Janes) มีจุดเด่นที่สายรัดด้านหน้าที่รัดพาดหน้าเท้าอันเป็นเอกลักษณ์ รูปลักษณ์คล้ายกับรองเท้านักเรียนหญิง โดยรองเท้าสไตล์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 โดยเป็นตัวเลือกรองเท้าสำหรับเด็ก เพราะมันยากที่จะดึงออกได้ด้วยแรงของเด็กๆ นั่นเอง ต่อมาในช่วงปี 1910s – 1920s เริ่มมีการสวมรองเท้าแมรี่เจนเพื่อเต้นรำในคลับ และเมื่อเวลาผ่านไปรองเท้าแมรี่เจนยังถูกผลิตซ้ำในรูปแบบต่างๆ มาตลอดจนถึงยุค 1960s และทุกวันนี้แมรี่เจนก็ยังเป็นรองเท้าวินเทจที่ยังถูกสร้างสรรค์ต่อเรื่อยๆ ทั้งส้นสูงและส้นแบน และทำจากวัสดุที่หลากหลายอีกด้วย

 

Article

 

2. รองเท้าส้นสูงสายรัดตัวที (T-Strap Heels)

     ประวัติศาสตร์รองเท้าหลากหลายประเภทเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1920s และ 1930s เนื่องจากมีดีไซน์รองเท้าปรากฏขึ้นใหม่ในช่วงยุคนี้มากมาย ตั้งแต่รองเท้าโอต์กูตูร์ ไปจนถึงสไตล์สำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำวัน โดยหนึ่งในรองเท้าที่เป็นไอคอนิกแห่งยุคคือรองเท้าส้นสูงสายรัดตัวที (T-Strap Heels) ที่มีสายรัดโอบรัดเท้าและสายพาดผ่านหน้าเท้าเป็นตัวที (T)  ซึ่งหลายคนอาจคุ้นตาจากคอสตูมตัวละครในภาพยนตร์ย้อนยุค และส่งต่อมาอีกหลายยุคจนดำเนินถึงปัจจุบัน เรายังคงเห็นรองเท้าสูงสายรัดแบบ T-Strap ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะจะสีสัน วัสดุ และการตกแต่ง ซึ่งล้วนมีความร่วมสมัยทว่ายังตอบโจทย์ความเป็นวินเทจได้เป็นอย่างดี

 

Article

 

3. รองเท้าออกซ์ฟอร์ด (Oxfords)

     สไตล์รองเท้าวินเทจที่เป็นยูนิเซ็กส์ที่มาพร้อมดีไซน์เหนือกาลเวลา และมีมานานกว่า 100 ปี คือ รองเท้าออกซ์ฟอร์ด (Oxfords) รองเท้าหนังซึ่งโดดเด่นด้วยการผูกเชือกเป็นเอกลักษณ์  ในยุคก่อนผู้คนมักสวมใส่รองเท้าออกซ์ฟอร์ดเข้ากับความหรูหราและเป็นทางการ ถูกจัดให้เป็นรองเท้าคลาสสิกได้รับความนิยมตลอดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19s จวบจนต้นยุค 2000s และอย่างที่ทราบกันดีว่ารองเท้าออกซ์ฟอร์ดไม่ได้จำกัดอยู่แค่สำหรับผู้ชาย แต่ยังเป็นสไตล์สำหรับผู้หญิงได้อีกด้วย ปัจจุบันรองเท้าออกซ์ฟอร์ดยังเป็นที่นิยม โดยเฉพาะการแมตช์กับการแต่งกายย้อนยุค เพราะมอบกลิ่นอายความเป็นวินเทจได้เป็นอย่างดี 

 

Article

 

4. รองเท้าโลฟเฟอร์ (Loafers)

     รองเท้าโลฟเฟอร์ (Loafers) หนึ่งในสไตล์ที่ถูกนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ หากพูดถึงรองเท้าวินเทจ โดยเอกลักษณ์คือการสวมได้แบบสลิปออน สะดวกสบาย ไม่ต้องผูกเชือก รองเท้าโลฟเฟอร์คู่แรกถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 1930 ต่อมาในช่วง 1950s จะมีดีไซน์พู่ และทำจากวัสดุประเภทหนังลูกวัวหรือหนังกลับที่มีความนิ่ม ทนทาน และยืดหยุ่น ได้รับความนิยมสวมใส่ในแวดวงนักธุรกิจ ถัดมาที่ปี 1953 แบรนด์ Gucci เปิดตัว Gucci Horsebit Loafer ที่ยกระดับรองเท้าโลฟเฟอร์ให้ดูแฟชั่นมากขึ้น และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว สู่การเป็นรองเท้าวินเทจสุดคลาสสิกที่ไม่เคยตกยุค ทั้งยังเป็นที่นิยมมาจนถึงทุกวันนี้ทั้งสำหรับแมตช์ลุคทางการหรือลำลอง

 

Article

 

5. รองเท้าส้นสูงแพลตฟอร์ม (Platforms)

     แม้ว่ารองเท้าส้นสูงแพลตฟอร์ม หรือรองเท้าส้นหนาจะเกิดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1930s แต่เรื่องของสไตล์นั้นยังไม่ค่อยหลากหลาย เพราะแฟชั่นยังไม่เต็มรูปแบบจนกระทั่งจนถึงช่วงยุค 70s ที่รองเท้าส้นสูงแพลตฟอร์มได้ถูกออกแบบให้เข้ากับแฟชั่นมาแรงในยุคนั้นนั่นคือกระโปรงยาว และกางเกงขากระดิ่งขนาดใหญ่ เพื่อให้ส้นรองเท้าสูงมากพอไม่ให้ชายกางเกงลากไปกับพื้นนั่นเอง ถึงแม้ว่าในช่วงยุค 80s ความนิยมในรองเท้าส้นหนาเช่นนี้จะแผ่วลงไปบ้าง ทว่าก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในยุค 90s และ 2000s รวมถึงขณะนี้ที่แฟชั่น Y2K กลับมาเป็นกระแส เราจึงได้เห็นแฟชั่นรองเท้าส้นสูงแพลตฟอร์มกลับมาเฉิดฉายกันอีกครั้งด้วย

 

ส่อง 5 สไตล์รองเท้าวินเทจสุดคลาสสิกที่สวมใส่ดูดีมาตลอดทุกยุคสมัย