FASHION

ส่งตรงจากปารีส! Saut Hermès มหกรรมการแข่งขันม้าในโดมกระจกของ Grand Palais

งานอีเวนต์ยิ่งใหญ่ในปารีสที่ตั๋วขายหมดเกลี้ยงภายในวันเดียว

จบลงไปอย่างน่าประทับใจสำหรับอีเวนต์ใหญ่ประจำปีที่ชาวปารีเซียงรอคอยกัน Saut Hermès มหกรรมการแข่งม้าในโดมกระจกของ Grand Palai เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้คนในปารีสต่างกระตือรือร้นแห่กันมาซื้อตั๋วเพื่อชมงาน Saut Hermès รอบชิงชนะเลิศกันอย่างคับคั่งจนตั๋วขายหมดเกลี้ยงภายในวันเดียวก็คือความรักความผูกพัน ที่มีต่อสัตว์แสนสง่างามกับบรรยากาศอันน่าตื่นเต้นภายใต้โดมกระจกแก้วขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปที่ไม่เหมือนสนามกีฬาทั่วไป ถูกจริตชาวปารีเซียงผู้มีรสนิยมดีเลิศ “การจัดอีเวนต์นี้ทำให้แอร์เมสได้ออกมาสัมผัสกับแสงแดดและอากาศที่สดชื่นเหมือนอยู่กลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นผู้ร่วมงาน เหล่าม้าแข่ง หรือบรรยากาศโดยรอบต่างสร้างความสุขให้กับพวกเราอย่างมาก” Axel Dumas ซีอีโอของแฟชั่นแบรนด์เก่าแก่พูดถึงความรู้สึก เช่นเดียวกับแบรนด์ยักษ์ใหญ่หลายแบรนด์ที่จัดกิจกรรมขยายแนวร่วมไปยังวงการต่างๆ ทั้งดนตรี ศิลปะ ภาพยนตร์ และ กีฬา เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์ให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นอันเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างหนึ่ง

 

CENTURY LEGACY

ความพิเศษอีกหนึ่งอย่างของแอร์เมสคืองานในครั้งนี้ยังเป็นการเชิดชูรากเหง้าของแบรนด์ซึ่งมีลูกค้ารายแรกเป็นม้าและการสร้างกร็องปาเลส์ขึ้นมาเพื่อโชว์ม้า และอุตสาหกรรมรถม้าเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ก่อนที่สินค้าแฟชั่นกล่องสีส้มจะกลายเป็นที่ต้องการของผู้หญิงทั่วโลก อากาศในช่วงที่มีการแข่งขันตลอดสามวันในเดือนมีนาคมนั้นยังคงหนาวเหน็บเพราะอิทธิพลของลมหนาวจากไซบีเรีย จึงไม่มีกิจกรรมกลางแจ้ง ทุกคนมารวมตัวกันในอาคารไอคอนิก แสงสว่างและสายตานับพันคู่ต่างพุ่งไปที่จังหวะการกระโดดของม้าแข่งและนักขี่ม้าจากทั่วทุกมุมโลก การแข่งขันกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางในครั้งนี้เป็นระดับ CSI 5* ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดของสหพันธ์กีฬาขี่ม้านานาชาติ (Fédération Équestre Internationale)

 

THE RULES

กฎการแข่งขันมีอยู่สองข้อคือ ใครทำเวลาได้ดีที่สุดและใครกระโดดผ่านเครื่องกีดขวางโดยขาม้าไม่แตะคานหรือทำคานหล่น ซึ่งผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะได้ขี่ม้าเพียงรอบเดียว แล้วจะคัดจนเหลือผู้ที่ผ่านเกณฑ์เข้าแข่งรอบต่อไป มีทั้งหมดหกรอบตลอดสามวันและแบ่งเป็นหกรางวัล แต่ไฮไลต์ที่บัตรขายหมดตั้งแต่วันแรกคือรางวัล Grand Prix Hermès ที่แข่งในบ่ายวันสุดท้าย ผู้เข้าแข่งขันยี่สิบกว่าคนทยอยลงสนามควบม้าคู่ใจกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง 16 ด่านที่ระดับความสูง 1.6 เมตร (สูงกว่าคนบางคนอีก) ผู้ชนะคือนักขี่ม้าสัญชาติฝรั่งเศสชื่อ Simon Delestre ใช้เวลาไปเพียง 34.54 วินาที ได้รับเงินรางวัล 400,000 ยูโร และที่น่าประหลาดใจก็คือม้าที่เขาขี่ในครั้งนี้มีชื่อว่า “Hermès Ryan” นับเป็นการปิดฉากกีฬาแข่งม้าที่ยิ่งใหญ่ของแอร์เมสอย่างสวยงามน่าประทับใจทีเดียว

 

EVERYWHERE YOU CAN SHOP

ภายในงานมีสินค้ามากมายสำหรับม้าและผู้ขี่ ตั้งแต่อานม้าที่สามารถสั่งทำได้ในงาน แส้ม้า สบู่สำหรับม้า น้ำหอมกลิ่นใหม่ แต่ที่ขายดีที่สุดคือผ้าพันคอลายพิเศษที่ออกแบบใหม่ ทุกปี สร้อยข้อมือที่ทำจากผ้าไหมห้อยชาร์ม แจ็กเกตดาวน์สีส้มสดสัญลักษณ์ของแบรนด์ และกระเป๋าผ้าพิมพ์คำว่า “Hermès Sellier”

 

ON A TABLE

ผ่อนคลายและเติมพลังให้มื้อสายของวันหยุดด้วยหอยนางรม ยอดหน่อไม้ฝรั่ง ชีสนานาชนิด และไวน์ไม่อั้น โดยแอร์เมสเนรมิตพื้นที่ด้านทิศตะวันออกให้เป็นห้องอาหารใต้โดมกระจกขนาดยักษ์เพื่อเลี้ยงรับรองแขกด้วยอาหารฝรั่งเศสขนานแท้บนโต๊ะขนาด 8-12 ที่นั่ง ประมาณ 50 ที่ให้เหล่าสาวกการแข่งม้ามาแชร์กัน

 

TECH TOUCH

ระหว่างรอการแข่งขันรอบต่อไปเขาก็มีอะไรมาให้เล่น แก้เบื่อด้วย อย่างเกม H-pitchhh ที่จำลองการเล่นเกมโยนเกือกม้ามาไว้ในมือถือโดยจะเพิ่มความยากขึ้นเรื่อยๆ ในด่านต่างๆ นอกจากความตื่นเต้นที่ต้องคอยลุ้นว่าเกือกม้าจะเข้าเป้าหรือเปล่า เราโยนแรงไปหรือเบาไปแล้ว ยังมีกราฟิกสวยๆ น่ารักๆ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากลายผ้าพันคอสุดคลาสสิกของแอร์เมสให้ดูเพลินๆ แถมยังสามารถรวบรวมผู้เล่นใกล้เคียงมาแข่งกันเป็นทีมเพิ่มความสนุกได้อีกด้วย

 

เรื่อง: ตะวัน ก้อนแก้ว

ภาพ: GETTY, Courtesy of The Brand

WATCH

คีย์เวิร์ด: Saut Hermès Hermès Horse Paris Grand Palais