บนหน้าฟีดอินสตาแกรมเราจะได้เห็นความหลากหลายในการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะลงบนแพลตฟอร์มดิจิทัล นั่นทำให้มีศิลปินเกิดใหม่และสร้างจุดยืนด้านไอเดียจนรักษาความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ความชอบส่วนตัวถูกแปรเปลี่ยนเป็นชิ้นงานส่งสู่สายตาผู้อื่น ผลงานการดัดแปลงรูปภาพก็เป็นศิลปะอีกแขนงบนแพลตฟอร์มนี้ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก วันนี้โว้กจะพาแฟนๆ ได้รู้จักกับอินสตาแกรมแอคเคาต์ @sarashakeel ที่รังสรรค์ความยอดเยี่ยมในการเปลี่ยนแปลงรูปภาพธรรมดาเป็นภาพเอฟเฟกต์พิเศษจนตอนนี้มีผู้ติดตามเกือบ 900,000 คนแล้ว เธอคือใครและกำลังทำอะไรอยู่ติดตามบทสัมภาษณ์พิเศษได้ในบทความนี้

ความระยิบระยับที่ Sara Shakeel ทำกับภาพของ Rihanna

     เริ่มแรกเธอแนะนำตัวกับเราว่าเธอชื่อ Sara Shakeel ซึ่งเธอนำชื่อจริงนี้ตั้งเป็นแอคเคาต์อินสตาแกรมแบบตรงตัว ดั้งเดิมเธอคือสาวชาวปากีสถานผู้มีบ้านเกิด ณ เมืองอิสลามาบัด ซาร่าเผยว่า ณ ตอนนี้ในวัย 30 ปีเธอคือศิลปินเต็มตัวที่สร้างสรรค์ผลงานแบบไม่หยุดพัก และที่สำคัญคือการมีโอกาสได้ออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่องานและโปรเจกต์พิเศษอย่างสม่ำเสมอ ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าภาพของศิลปินชาวปากีสถานคนนี้มีความหลากหลายในเชิงสถานที่อย่างไม่ต้องสงสัย ถึงแม้ว่าจะเป็นเพชรหรือคริสตัลระยิบระยับแต่ไม่ได้ดูซ้ำจำเจอย่างที่หลายคนสบประมาทไว้

ความโหดร้ายของเท้านักเต้นบัลเลต์ถูกแปรเปลี่ยนเป็นความสวยงามแบบฉบับของ Sara Shakeel

     “ความหวังในความสิ้นหวัง” คำนิยามสุดน่าสนใจที่ซาร่าเน้นยำถึงคอนเซปต์ของแอคเคาต์อินสตาแกรมนี้ให้กับเรา “มันคือความรักที่พร้อมส่งถึงทุกคนเมื่อพวกเขาได้เห็นภาพอินสตาแกรมของฉันไม่ว่าพวกเขาจะเห็นหน้าฟีดการติดตามหรือหน้าค้นหาก็ตาม”  ซึ่งความเซอร์เรียลเหล่านี้ถูกบรรจงสร้างสรรค์อย่างตั้งใจโดยมีเป้าหมายเริ่มต้นไว้ว่าจะช่วยเพิ่มความกล้าฝันให้ผู้เสพอีกสักหน่อยเมื่อได้เห็นภาพของเธอ ถือเป็นการสร้างงานศิลปะโดยใช้รากฐานทางจิตใจของผู้อื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เธอไม่ได้ทำเพราะความชอบของตัวเองเท่านั้น แต่เพราะการทำเช่นนี้ศิลปินจะเป็นมากกว่าศิลปิน แต่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนหลายต่อหลายคนที่ต้องการแรงบันดาลใจอะไรสักอย่างหนึ่ง และความระยิบระยับนี้ก็ตอบโจทย์ได้สำเร็จ

งานศิลปะซ้อนงานศิลปะโดย Sara Shakeel

     พอพูดถึงแรงบันดาลใจประกอบกับเป้าหมายเบื้องต้น เราได้ถามซาร่าถึงเรื่องในใจลึกๆ ที่ทำให้ภาพแต่ละภาพออกมามีส่วนการแต่งเติมความระยิบระยับ โดยเธอเผยว่าเบื้องลึกของงานศิลปะนั้นได้มาจาก “ความรัก พระเจ้า และสิ่งต่างๆ ที่ฉันสบสายตา” ฉะนั้นไม่แปลกเลยที่เราจะเห็นฉากความสวยงามในภาพต่างๆ ในบริบทที่ไม่เหมือนกัน เพราะเธอเห็นอะไรก็หยิบจับมาแต่งเติมโดยมีนัยยะสำคัญในแต่ละช่วงเวลาของชีวิตได้หมด เริ่มตั้งแต่รูปเข้าใจง่าย ไปจนถึงงานศิลปะซ้อนงานศิลปะนั่นเอง

บางทีเราอาจจะไม่ได้เห็นบ้านหลังนี้สวยเหมือนกับตอนสร้างมันขึ้นมาครั้งแรกในจินตนาการ

     “ฉันมาทำมา 3 ปีแล้ว ช่วงเวลาที่ฉันเติบโตเป็นศิลปินคือช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิต” ซาร่าเผยถึงประสบการณ์การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะบนแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ไม่ใช่ความฉาบฉวยเพราะเธอใช้เวลาพัฒนาและสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองอยู่ไม่น้อย ซึ่งตอนนี้มีผลงานอยู่ในแอคเคาต์อินสตาแกรมแล้วทั้งหมดเกิน 2,500 โพสต์ และยังคงนับต่อไปเรื่อยๆ จากผลงานเยอะเช่นนี้เราจึงให้ซาร่าเลือกว่า ผลงานชิ้นไหนที่คิดว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงตราตรึงในความทรงจำ ศิลปินหญิงผู้ให้เกียรติผลงานของตัวเองทุกคนตอบว่า “งานทุกชิ้นคือลูกน้อยด้านศิลปะของฉัน ฉันไม่สามารถเลือกได้หรอก” เธอเสริมการให้ความสำคัญว่าแท้จริงแล้วไม่มีงานชิ้นไหนโดดเด่นกว่า เพราะแต่ละชิ้นถูกสร้างในเวลาที่ต่างกัน อารมณ์ที่ต่างกัน จึงตัดสินไม่ได้ว่าชิ้นไหนจะดีกว่ากัน สะท้อนใจได้ว่าเราอาจจะไม่ต้องสร้างเกณฑ์เพื่อเปรียบเทียบทุกสิ่งอย่าง เพียงแต่เราต้องทำความเข้าใจและย้อนคิดถึงบริบทแต่ละด้านในขณะที่สิ่งนั้นๆ เกิดขึ้นกับตัวเรา

ร่องรอยแตกของเนื้อหนัง Ashley Graham ถูกตีความใหม่และแทนที่ด้วยความระยิบระยับ

     จากแรงบันดาลใจเบื้องหลัง ความสำคัญของศิลปะแต่ละชิ้นทำให้โคว้ต “Each picture heals a part of me & I hope it heals a part of you too” สามารถนิยามแอคเคาต์นี้ได้อย่างตรงเป๊ะ เธอเลือกที่จะใช้โคว้ตนี่ตั้งแต่เริ่มสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา เธอย้ำด้วยว่า “มันสามารถอธิบายทุกอย่างของไอจีนี้” นอกจากแรงบันดาลใจที่มอบให้กับทุกคน ยารักษาที่คอยเยียวยาผู้เสพศิลปะ ความระยิบระยับเหล่านี้ก็สามารถใช้เลี้ยงตัวซาร่าได้ในโลกความเป็นจริง เธอไม่เปิดเผยถึงจำนวนความมากน้อย เธอบอกเพียงว่ามันสร้างความสะดวกสบายสำหรับตัวเธอและครอบครัว ที่สำคัญสร้างความสบายใจให้กับผู้เสพของเธอด้วย

บางครั้งเราก็สร้างความยอดเยี่ยมขึ้นมาในจินตนาการของเรา

     เชื่อไหมจากที่ฟังมาทั้งหมดเธอเปลี่ยนแปลงตัวเองมามากแค่ไหน เธอไม่ใช่ศิลปินตั้งแต่เกิด เธอไม่ใช่นักเรียนศิลปะ แต่เธอคือหมอฟัน! ใช่อ่านกันไม่ผิด...ด้วยรากฐานสังคมของประเทศการมีอาชีพที่มั่นคงอย่างหมอ นักบิน ครู และวิศวะคือค่านิยมที่ดี ศิลปะไม่ได้ถูกยอมรับให้เป็นอาชีพ กรอบบางอย่างบังคับเธอให้อยู่ห่างจากความชื่นชอบและความฝันพอสมควรเลยทีเดียว แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้จนมีวันนี้ได้ ซาร่าพร้อมฝากถึงผู้คนที่อยากเป็นศิลปินอย่างจริงจังด้วยว่า “ฉันเชื่อว่าทุกคนสามารถเป็นศิลปินได้อย่างฉัน แต่ถ้าทุกคนทำตามๆ กันสิ่งแปลกใหม่จะเกิดขึ้นอย่างไร...พวกเราต้องการแค่แรงบันดาลใจ ไม่ใช่การเป็นพวกลอกเลียนแบบ!” ซาร่าเน้นยำว่า 2 สิ่งนั้นแตกต่างกัน “บางคนเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อจะมาเป็นแบบฉัน จนอาจลืมไปว่าพวกเขาอาจจะเป็นสุดยอดนักวิทยาศาสตร์ก็ได้” ทันตแพทย์ผู้พาตัวเองเข้าสู่เส้นทางศิลปินสนับสนุนให้ความถนัดในทุกด้าน ไม่ใช่ว่าเธอโดนกีดกันด้านศิลปะและจำเป็นต้องไม่ชอบวิทยาศาสตร์ มันคนละเรื่องกันอย่างสิ้นเชิง

ถนนอ็อกซ์ฟอร์ดที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง จินตนาการ และความสวยงามคือความสร้างสรรค์ที่ถูกสร้างสรรค์โดย Sara Shakeel

     ซาร่ายังฝากอีกด้วยว่าการเป็นศิลปินคือการรู้จักใช้แรงบันดาลใจให้ถูกทาง “ฉันไม่ค่อยได้ดูศิลปินคนอื่นเท่าไหร่ ฉันชอบเรื่องราวและการสร้างชื่อในฐานะผู้ผลิตผลงานของพวกเขานะ แต่ฉันไม่เคยลอกเลียนแบบสไตล์ใคร” เธอยังคงมีจุดยืนหนักแน่นว่าความสำคัญของงานศิลปะไม่ใช่แค่ทำให้สวยแต่ต้องเป็นตัวเอง พร้อมทั้งเสริมด้วยว่า “จงสร้างสรรค์และเชื่อว่าสามารถสร้างสิ่งใหม่ให้เกิดขึ้นได้ เราต้องการอะไรแบบนั้น ทุกวันนี้ศิลปะมันหน้าตาเหมือนกันไปหมด” นอกจากนี้เธอยังแนะนำการแปลงแรงบันดาลใจมาสู่งานศิลปะในแบบฉบับซาร่า ชาคีลไว้ด้วยว่า “ต้องหัดเป็นพวกช่างฝันวันให้มากกว่านี้ ปล่อยวางทุกสิ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดเชิงลบ ต่อไปคุณจะเริ่มเชื่อในตัวเอง เชื่อว่าสามารถสร้างอะไรก็ตามจากจินตนาการออกมาเป็นผลงานศิลปะหรืออะไรก็ตามที่หัวใจต้องการจะสร้าง”  และนี่คือแง่มุมอันน่าสนใจที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังของศิลปะประดับคริสตัลในหน้าฟีดอินสตาแกรม ศิลปะไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามอีกต่อไปแต่คือศาสตร์แห่งการใช้ความสร้างสรรค์แปรเปลี่ยนเป็นผลงานซึ่งสอดแทรกไปด้วยนัยยะสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความหวังและแรงบันดาลใจอย่างเช่นผลงานของศิลปินหญิงวัย 30 ปีคนนี้ “ซาร่า ชาคีล”

 

ภาพ: Courtesy of Sara Shakeel

ติดตามภาพเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรมแอคเคาต์ @sarashakeel