อย่างที่ทราบกันดีว่าผู้ชายส่วนใหญ่มักจะนิยมพกสัมภาระไม่เยอะเพื่อความสะดวกสบายและคล่องตัว มีเพียงกระเป๋าสตางค์แค่ใบเดียวก็สามารถออกจากบ้านได้จึงทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่ไปกับเราแทบจะทุกที่ ด้วยเหตุนี้การเลือกกระเป๋าสตางค์จากดีไซน์ที่สวยงามแล้ว ยังต้องคำนึงถึงประโยชน์ต่อการใช้งานด้วย เพราะฉะนั้นการเลือกกระเป๋าสตางค์ที่มีขนาดพอดีกับการใช้งาน ไม่ควรเล็กหรือใหญ่จนเกินไป เพื่อพกพาได้สะดวกและสามารถใส่กระเป๋ากางเกง หรือเสื้อได้ นอกจากนี้การเลือกวัสดุก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันเพราะส่วนใหญ่กระเป๋าสตางค์มักเป็นไอเท็มที่ไม่ค่อยนิยมเปลี่ยนบ่อยจึงควรคำนึงถึงระยะเวลาการใช้งานมากที่สุด และเพื่อเป็นการเลือกกระเป๋าสตางค์ให้ได้ใบที่ถูกใจเราจึงจะพามารู้จักกับวัสดุหนังของแต่ละประเภทกันก่อนเพื่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อที่ดีที่สุด

 

 

หนังแท้

• หนังวัว (Cow Leather): ถือเป็นหนังสัตว์ที่นิยมนำมาทำเป็นกระเป๋ามากที่สุด โดยเฉพาะหนังลูกวัว (Calfskin) ที่มีสัมผัสเนียนนุ่ม มีความเรียบ และที่สำคัญคือทนทานต่อการใช้งาน
• หนังควาย (Buffalo Leather): เป็นหนังที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรง ทนทานมาก มีเนื้อสัมผัสนุ่ม ผืนใหญ่คล้ายกับหนังวัว แต่ข้อเสียคือค่อนข้างหนัก
• หนังแพะหรือหนังแกะ (Nappa Leather): เป็นหนังสัตว์อีกหนึ่งประเภทที่นิยมนำมาใช้ทำกระเป๋า โดยจะมีเนื้อสัมผัสนิ่มกว่าหนังประเภทอื่นๆ มีความยืดหยุ่นสูง และน้ำหนักเบา แต่ในทางกลับกันก็แข็งแรงทนทานน้อยกว่าหนังวัวและหนังควาย
• หนังสัตว์อื่นๆ (Exotic Leather): นอกจากหนังวัว หนังควาย หนังแพะ และหนังแกะแล้ว ยังมีหนังของสัตว์อีกมากมายที่สามารถนำมาใช้ทำกระเป๋าได้ ไม่ว่าจะเป็นกระต่าย, งู, จระเข้, กวาง และนกกระจอกเทศ เป็นต้น

 

หนังเทียม หรือ หนังสังเคราะห์ 

• หนังพียู (Polyurethane Leather): เป็นหนังที่ถูกผลิตขึ้นมาด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ ใช้พลาสติก ประเภทพียูในการผลิต จุดเด่นคือความนุ่ม ทนทาน และมีลวดลายคล้ายกับหนังแท้
• หนังพีวีซี (Polyvinyl Chloride Leather): หนังพีวีซี หรือเรียกอีกอย่างว่าหนังไวนิล เป็นพลาสติกที่ทำจากพีวีซีเรซินมีความยืดหยุ่นเล็กน้อย โดยเนื้อสัมผัสจะค่อนข้างแข็งและมีอายุการใช้งานน้อยกว่าหนังพียู
• หนังไมโครไฟเบอร์ (Microfiber Leather): เป็นหนังที่สังเคราะห์มาจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ เส้นใยโพลีอะไมด์และโพลียูรีเทน สำหรับจุดเด่นคือ มีน้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นสูง และแข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน

     หลังจากทำความรู้จักกับประเภทของหนังที่นำมาใช้เป็นวัสดุหลักของการทำกระเป๋าสตางค์แล้ว โว้กจึงได้รวบรวม 5 กระเป๋าสตางค์ผู้ชายที่มีดีไซน์เรียบหรู และทนทานมาแนะนำกัน

 

 

 

1. Men’s Signature Compact จาก Coach (ราคาประมาณ 8,900 บาท)

     เริ่มกันที่กระเป๋าสตางค์ผู้ชายจากแบรนด์ Coach ที่ผลิตจากแคนวาสพิมพ์ลายโมโนแกรมอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ทำให้มีดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ดูมีระดับไปในเวลาเดียวกัน สามารถจุธนบัตรและบัตรได้ค่อนข้างเยอะ โดยมีช่องใส่บัตรถึง 8 ช่อง และช่องใส่ธนบัตร 2 ช่องเพื่อสะดวกต่อการใช้งาน

 

 

 

2. Multiple Wallet จาก Louis Vuitton (ราคา 16,300 บาท)

     กระเป๋าสตางค์ผู้ชายสุดคลาสสิกจากแบรนด์ไฮเอนด์ระดับโลกอย่าง Louis Vuitton ที่รังสรรค์ขึ้นมาจากแคนวาสพิมพ์ลายโมโนแกรมตารางหมากรุก หรือที่รู้จักในชื่อ Damier ซึ่งเป็นซิกเนอเจอร์ของแบรนด์ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกระเป๋าสตางค์ที่พกพาสะดวก มาพร้อมกับช่องหลายช่องสำหรับใส่ธนบัตร และบัตรได้อย่างเต็มที่

 

 

 

3. Victoire Wallet จาก Goyard (ราคาประมาณ 35,000 บาท)

     กระเป๋าสตางค์ผู้ชายจาก Goyard ที่มาพร้อมลวดลาย Goyardine อันเป็นเอกลักษณ์สุดคลาสสิกของแบรนด์ที่ให้กลิ่นอายความสนุกอยู่บนพื้นฐานความเรียบง่าย จุดเด่นคือขนาดกะทัดรัดพกพาสะดวก ภายในมีหลายช่องสำหรับใส่บัตรและธนบัตร ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการจัดระเบียบกระเป๋าสตางค์ให้สามารถหยิบออกมาใช้งานได้ง่ายและสะดวกมือ

 

 

4. Bi-Fold Wallet จาก Bottega Veneta (ราคาประมาณ 20,165 บาท)

     กระเป๋าใส่บัตรที่รังสรรค์จากหนังแกะที่มีเนื้อสัมผัสนุ่ม พร้อมซับในหนังลูกวัวโดดเด่นด้วยเทคนิคการสานหนัง Intrecciato ที่บ่งบอกตัวตนของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน โดยมีช่องใส่บัตร 8 ช่อง ช่องใส่ธนบัตร 2 ช่อง และช่องใส่ของอีก 2 ช่อง ให้สามารถจัดระเบียบธนบัตรและบัตรได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

 

5. Bi-Fold Wallet จาก Celine (ราคา 16,500 บาท)

     กระเป๋าใส่บัตรที่ผลิตจากหนังลูกวัวมาในดีไซน์ที่ดูเรียบหรูโดยมีช่องใส่ธนบัตร 2 ช่อง ช่องใส่บัตร 4 ช่อง และช่องสำหรับใส่เหรียญอีก 1 ช่อง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเก็บบัตร ธนบัตร และเหรียญไว้ในกระเป๋าสตางค์ใบเดียวกันเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานและดูไม่เทอะทะจนเกินไปอีกด้วย