FASHION

รวบ 10 น้ำหอมสายแฟ(ชั่น)จากแบรนด์แฟชั่นที่โด่งดังไม่แพ้เหล่าไอเท็มเสื้อผ้า

'น้ำหอม' ก็ยังถือเป็นไอเท็มเด็ดที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเช่นกัน

     เชื่อว่าหลายคนคงมีแบรนด์แฟชั่นในดวงใจที่โปรดปราน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของกระเป๋า รองเท้า และเสื้อผ้า ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีเรื่องราวและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป จนถ่ายทอดออกมาเป็นไอเท็มต่างๆ ที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้ทั่วโลก ในปัจจุบันแบรนด์แฟชั่นหลายแบรนด์ในผันตัวมาทำคอลเล็กชั่นด้านความงามกันมากขึ้น อย่างการเปิดตัวสินค้าในกลุ่มของสกินแคร์ เครื่องสำอาง รวมถึงน้ำหอม โดยน้ำหอมถือเป็นสินค้าความงามชิ้นแรกๆ ที่แบรนด์แฟชั่นเลือกผลิตและต่อยอดจนขายดีมาถึงปัจจุบัน บทความนี้โว้กพาไปทำความรู้จักกับ 10 น้ำหอมสายแฟ(ชั่น)ที่ไม่ได้มีดีไอเท็มแฟชั่นเท่านั้น น้ำหอมจากแบรนด์เหล่านี้ยังถือว่าเป็นไอเท็ม 'Must have' ที่ใครหลายคนไม่ควรพลาด

 

ภาพ: @bvlgari

Bvlgari

     แบรนด์แฟชั่นจากประเทศอิตาลีอย่าง 'Bvlgari' มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องการทำเครื่องประดับอัญมณีด้วยการออกแบบที่มีการผสมผสานระหว่างศิลปะของกรีกโรมันเข้าด้วยกัน นอกจากชื่อเสียงในด้านการผลิตเครื่องประดับแล้ว แบรนด์ยังได้มีไลน์นาฬิกาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ นาฬิกาที่มีดีไซน์หรูหรา เหมาะสำหรับการสวมใส่ในโอกาสสำคัญ ในเวลาต่อมาก็ได้ออกไลน์น้ำหอมซึ่งยังคงได้แรงบันดาลใจมาจากอัญมณีที่ใช้ในการผลิตเครื่องประดับ เช่น น้ำหอมซิกเนเจอร์ของแบรนด์อย่าง BVLGARI Omnia Amethyste Eau de Toilette ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอัญมณีสีม่วง Amethyst ที่สื่อถึงความสง่างามและความมั่นใจของผู้หญิงยุคใหม่

 

ภาพ: @Chloé

Chloé

     'Chloé' เปิดตัวแบรนด์ครั้งแรกในปี 1952 โดย Gaby Aghion (กาบี อากียง) ที่เน้นการออกแบบเสื้อผ้าสไตล์สาวหวานที่เข้ากับสรีระของผู้หญิงได้หลายไซซ์ ซึ่งให้ความแตกต่างกับแฟชั่นยุค 50s ที่เน้นแนวรัดรูปให้ดูมีทรวดทรง ทางแบรนด์เปิดตัวน้ำหอมชิ้นแรกในปี 2012 กับ See by Chloé ที่เป็นกลิ่นสไตล์ฟรุตตี้ฟลอรัล ต่อมาก็ได้แต่ออกมาหลายคอลเล็กชั่น เช่น Signature, Love Story, Nomade และ Atelier Des Fleurs โดยจุดเด่นคือการใช้กลิ่นของดอกกุหลาบมาเป็นตัวนำ ซึ่งดอกกุหลาบแต่ละประเภทก็ให้กลิ่นที่แตกต่างกันออกไป เช่น ลุคสาวโมเดิร์นที่มีความมั่นใจหรือลุคสาวหวานเรียบร้อย แต่สิ่งที่เหมือนกันคือการชูเสน่ห์ของความเป็นผู้หญิงให้ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

 



WATCH




ภาพ: @dolceandgabbana_beauty

Dolce & Gabbana

     แบรนด์แฟชั่นสัญชาติอิตาลีอย่าง 'Dolce & Gabbana' ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1985 จากสองดีไซเนอร์ Domenico Dolce และ Stefano Gabbana เริ่มแรกด้วยการนำเสนอแฟชั่นสไตล์ขาวดำ และต่อมาก็ได้มีการออกแบบให้มีสีสันเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าน้ำหอมชิ้นแรกที่ทางแบรนด์เปิดตัวในปี 1992 เป็นน้ำหอมผู้ชายอย่าง ‘Dolce & Gabbana Pour Homme’ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าผู้ชายที่ผลิตมาในปีเดียวกัน ทั้งยังได้รับรางวัล The best masculine fragrance จาก The Perfume Academy เช่นเดียวกับน้ำหอมผู้หญิงในรุ่นเดียวกันอย่าง ‘Dolce & Gabbana Pour Femme’ หลังจากนั้นต่อมาทางแบรนด์ก็ได้ออกน้ำหอมมาหลายคอลเล็กชั่น เช่น Light Blue, The Only One, K by Dolce & Gabbana, The One, Velvet และ Dolce ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบไม่เหมือนใคร

 

ภาพ: @givenchy 

Givenchy

     แบรนด์แฟชั่นชื่อดังจากประเทศฝรั่งเศส 'Givenchy' มีจุดเริ่มต้นมาจาก Hubert De Givenchy (อูแบร์ เดอ จีวองชี่) ผู้ก่อตั้งแบรนด์ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักปฏิวัติแฟชั่นกลางยุคศตวรรษที่ 20 เริ่มไต่เต้าจากการทำงานกับแบรนด์ดังอย่าง Chanel, Elsa Schiaparelli และอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน จนกลายเป็นสิ่งที่นำพาเขามาสู่ความสำเร็จ จนมาในปี 1957 ได้ผลิตน้ำหอมชิ้นแรกออกมาจนกลายเป็นที่รู้จักจนถึงทุกวันนี้คือ L'interdit de Givenchy กลิ่นสไตล์ฟลอรัลที่ให้ความสดชื่น ดูมีเสน่ห์และน่าค้นหา นอกจากน้ำหอมผู้หญิงแล้ว น้ำหอมในไลน์ของผู้ชายก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น Play, Gentlemen หรือ Xeryus Rouge ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีลักษณะของกลิ่นที่แตกต่างกันไป

 

ภาพ: @gucci

Gucci

     อีกหนึ่งแบรนด์ดังจากประเทศอิตาลี 'Gucci' ที่ใครหลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากสายแฟชั่นที่มีต้นกำเนิดมามากกว่า 100 ปีแล้ว เมื่อปี 2019 ที่ผ่านมายังได้เปิดตัวไลน์บิวตี้เป็นครั้งแรกกับเครื่องสำอางมากมาย นำทีมสร้างสรรค์โดย Alessandro Michele ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์คนเก่าของกุชชี่ โดยมีคอนเซปต์คือ ‘ความงามที่ไม่สมบูรณ์แบบ’ คือหัวใจหลักของแบรนด์ มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากมาย เช่น ลิปสติก, แป้ง, คอนซีเลอร์, ไฮไลเตอร์ ฯลฯ และเมื่อพูดถึงสายความงามก็คงไม่พ้นเรื่องน้ำหอมที่โด่งดังไม่แพ้กัน น้ำหอมขวดแรกของแบรนด์อย่าง Gucci No.1 for Women ถูกเปิดตัวในปี 1974 เป็นน้ำหอมสไตล์ฟลอรัลที่ให้ความรู้สึกสง่างาม ดูมีระดับสไตล์สาวอิตาเลียน ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อปี 2021 ยังได้เปิดตัวน้ำหอม Gucci 1921 ที่อยู่ในไลน์หรู The Alchemist's garden เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีแบรนด์กุชชี่อีกด้วย

 

ภาพ: @hermes

Hermès

     แบรนด์ลักชัวรีชื่อดัง 'Hermès' ที่ผันตัวจากร้านทำอานม้าสู่แบรนด์แฟชั่นที่ไม่ได้มีดีแค่กระเป๋ากับรุ่นคลาสสิกในตำนานอย่าง Hermès Kelly ซึ่งขายดิบขายดีจนถึงปัจจุบัน ต่อมาได้พัฒนาสู่เสื้อผ้า ผ้าพันคอ รวมถึงน้ำหอมที่ใครหลายคนชื่นชอบกันอีกด้วย ในปี 1951 ทางแบรนด์ได้เปิดตัวน้ำหอมชิ้นแรกอย่าง Eau d'Hermès Eau de Toilette โดย Edmond Roudnitska นักปรุงน้ำหอมชาวฝรั่งเศส เป็นกลิ่นหอมแนวซิตรัสที่โดดเด่นด้วยกลิ่นเลมอน ให้ความรู้สึกสดชื่นเหมือนได้ยืนท่ามกลางสวนเลมอน หลังจากนั้นก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามและได้รังสรรค์กลิ่นใหม่ออกมามากมาย เช่น Twilly d'Hermès, Un Jardin sur la Lagune, Terre d'Hermès เป็นต้น

 

ภาพ: @isseymiyake  

Issey Miyake

     แบรนด์แฟชั่นที่มีต้นกำเนิดมาจาก Issey Miyake ดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่น ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์แฟชั่นที่อยู่ในวงการเครื่องหอมมาอย่างยาวนานถึง 25 ปี โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ความหอมแนวกลิ่นสดชื่น สะอาด และบริสุทธิ์ ซึ่งน้ำหอมชิ้นแรกถูกเปิดตัวในปี 1992 กับ L'eau d'Issey Eau De Toilette ซึ่งมีความหมายว่า 'น้ำ' ที่ถือเป็นแรงบันดาลใจหลักของการผลิตน้ำหอมชิ้นนี้ จึงเป็นกลิ่นหอมสดชื่นที่ให้ความรู้สึกถึงท้องทะเลที่ไม่เหมือนใคร และได้กลายเป็นน้ำหอมกลิ่นอมตะที่ขายดีอันดับต้นๆ ของแบรนด์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นอกจากไลน์คลาสสิกอย่าง L'Eau d'Issey แบรนด์ยังได้เปิดตัวน้ำหอมรุ่นใหม่ A Drop d’Issey Eau de Parfum ที่ได้แรงบันดาลใจจากหยาดฝนในฤดูใบไม้ผลิที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติผสานกลิ่นของดอกไม้หลากสีสันอีกด้วย

 

ภาพ: @louisvuitton 

Louis Vuitton

     หนึ่งในแบรนด์แฟชั่นระดับตำนานที่ไม่มีใครไม่รู้จักอย่าง 'Louis Vuitton' นอกจากกระเป๋า เสื้อผ้า และรองเท้าที่โด่งดังแล้ว แบรนด์ยังมีไลน์น้ำหอมที่น่าจับตามองไม่แพ้กัน โดยน้ำหอมขวดแรกถูกเปิดตัวในปี 1927 กับ Heures d’Absence มาในขวดแก้วคริสตัลสุดคลาสสิก ในช่วงแรกผลิตมาเพียงแค่ 300 ขวดเท่านั้น ต่อมาได้ขยายไลน์นี้เพิ่มเติมออกมาเป็น Les Parfums Louis Vuitton แต่ละกลิ่นได้รับแรงบันดาลใจมาจากความหอมจากทวีปต่างๆ ทั่วโลก โดยยังคงคอนเซปต์ขวดแก้วคริสตัลที่มีความใสราวกับหยดน้ำ มาพร้อมกับฝาขวดสีดำสลักโลโก้ LV ซึ่งแบรนด์เอกลักษณ์ของแบรนด์ที่เราสามารถเห็นได้ตามเสื้อผ้าและกระเป๋าของหลุยส์ วิตตอง

 

ภาพ: @marcjacobsbeauty

Marc jacobs

     แบรนด์แฟชั่นสัญชาติอเมริกันถูกก่อตั้งเมื่อปี 1984 โดย Marc Jacobs ร่วมกับ Robert Duffy ผู้ร่วมสร้างสรรค์และหุ้นส่วนทางธุรกิจ การออกแบบมาในคอนเซปต์เรียบง่ายที่ผสมผสานเข้ากับความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมต่างๆ จนทำให้ชื่อของมาร์ค เจค็อบส์ ได้รับการขนานนามว่าเป็น “นักออกแบบอายุน้อยผู้มีผลงานโดดเด่น” ในช่วงทศวรรษที่ 1990s ทางแบรนด์ได้นำเสนอกลุ่มสินค้าหลากหลาย เช่น กระเป๋า เสื้อผ้า เครื่องประดับแฟชั่น รองเท้า และเครื่องสำอาง รวมถึงน้ำหอมขวดลายดอกไม้ในตำนานที่มีหลายคอลเล็กชั่นให้เลือกสรร โดยน้ำหอมชิ้นแรกถูกเปิดตัวเมื่อปี 2001 และรุ่นที่เป็นที่รู้จักจนขายดิบขายดีมาถึงปัจจุบันคือ Daisy Marc Jacobs เป็นน้ำหอมสไตล์ฟลอรัลฟรุตตี้ที่ให้ความสดชื่น ดูเป็นสาวขี้เล่น มาพร้อมกับขวดแก้วประดับลายดอกเดซี่ตามชื่อรุ่น มีกลิ่นให้เลือกมากมายมากกว่า 10 กลิ่น

 

ภาพ: @prada  

Prada

     ปิดท้ายด้วยแบรนด์แฟชั่นที่ส่งตรงจากประเทศอิตาลีอย่าง 'Prada' โด่งดังมาจากสินค้าประเภทเครื่องหนังจากร้านเล็กๆ ในเมืองมิลาน จนกลายเป็นแบรนด์แฟชั่นที่มีการออกแบบที่ผสมผสานแนวคิดแบบใหม่ ในเวลาต่อมาก็ได้ต่อยอดคอลเล็กชั่นความงามออกมาให้ได้ชมกัน ซึ่งปราด้าเปิดตัวน้ำหอมชิ้นแรกในปี 1990 เป็นกลิ่นสไตล์แอมเบอร์ที่ให้ความรู้สึกนุ่มลึก ดูน่าค้นหา หลังจากนั้นต่อมาก็ได้พัฒนาและต่อยอดผลิตไลน์ใหม่ๆ ออกมา ซึ่งไลน์ที่โด่งดังคือ Prada Paradoxe ในไลน์ของ Prada Beauty อันเป็นไลน์ความงามที่มีทั้งเครื่องสำอางและสกินแคร์ โดยน้ำหอมไลน์นี้ยังคงคอนเซปต์ของกลิ่นแอมเบอร์ที่เพิ่มความสดชื่นของดอกไม้เข้ามา เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น มาในขวดทรงสามเหลี่ยมขนาดเล็ก สามารถพกพาได้ง่าย ทั้งยังมีลูกเล่นที่เราสามารถซื้อแบบรีฟิลและเติมในขวดได้เองอีกด้วย

 

WATCH

TAGS : Parfume