โว้กรวบโมเมนต์น่าจดจำจากมิลานแฟชั่นวีก ประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ปี 2024 ฝั่งเสื้อผ้าบุรุษ ที่สะท้อนให้เห็นเทรนด์ของอุตสาหกรรมแฟชั่นระดับโลก ตั้งแต่รายชื่อของเหล่าเซเลบริตี้หนุ่มชาวไทย เรื่อยไปจนถึงการเนรมิตเซตติ้งรันเวย์น่าสนใจของหลากหลายแบรนด์ และเหล่าแฟชั่นไอเท็มสะดุดตา กับการแข่งขันสุดเข้มข้นที่แต่ละแบรนด์งัดไม้เด็ดออกมาสู้กันอย่างไม่ลดละ ไม่แพ้แฟชั่นวีกฝั่งผู้หญิงก็ว่าได้ ทั้งหมดที่คุณควรรู้อยู่ในคอนเทนต์นี้แล้ว

 

     THAI TALENTS

     หากจะบอกว่าประเทศไทยคือหนึ่งในประเทศที่ถูกอุตสาหกรรมแฟชั่นโลกจับตามองมากที่สุด ก็คงไม่ใช่ประโยคที่เกินจริง หลักฐานเห็นอย่างประจักษ์ได้จากจำนวนของเหล่าเซเลบริตี้และศิลปินชาวไทย ที่เดินทางไปร่วมชมแฟชั่นโชว์คอลเล็กชั่นต่างๆ เช่นเดียวกับมิลานแฟชั่นวีกซีซั่นนี้ในฝั่งของเสื้อผ้าผู้ชาย คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ปี 2024 ที่เราได้เห็นศิลปินหนุ่มชาวไทยเดินทางไปร่วมชมโชว์กันอย่างคับคั่ง ไล่เรียงมาตั้งแต่ 'กลัฟ-คณาวุฒิ' Friend of GUCCI, 'วิน-เมธวิน' แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ PRADA, 'ฟอส-บุ๊ค' ที่เดินทางไปชมโชว์ Dolce & Gabbana ตามมาด้วย 'โฟร์ท-เจมีไนน์' กับการร่วมชมโชว์ Zegna และปิดท้ายด้วย 'มีน-นิชคุณ' ในฐานะแขกคนสำคัญของแบรนด์ Tod's สะท้อนอิทธิพลของเหล่าเซเลบริตี้ชาวไทยบนพื้นที่อุตสาหกรรมแฟชั่นระดับโลกอย่างเห็นได้ชัด

 

     SHOW HIGHLIGHTS

 

 

     สำหรับมิลานแฟชั่นวีกฝั่งผู้ชาย ประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ปี 2024 นั้น เต็มไปด้วยไฮไลต์สำคัญที่น่าสนใจจากหลายๆ โชว์ ไม่ว่าจะเป็น Gucci กับคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าผู้ชายปฐมฤกษ์ของ Sabato de Sarno สร้างความประหลาดใจให้กับเหล่าคนแฟชั่นไม่น้อย โดยใช้ชื่อเดียวกันกับคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าผู้หญิงคือ #GucciAncora ด้วยคอนเซปต์แบบ 'Mirroring' สะท้อนภาพคู่ขนานจากคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าผู้หญิงตลอดทั้งคอลเล็กชั่น ราวกับเป็นปัจฉิมบทปิดจบ Gucci Ancora โดยสมบูรณ์ พร้อมเล่นล้อไปกับความหมายของคำศัพท์อิตาเลียน 'Ancora' ที่แปลว่า 'อีกครั้ง' ที่ยังมาพร้อมสไตล์โมเดิร์นมินิมัล เน้นการตัดเย็บสุดเนี้ยบ เส้นสาย ดีไซน์ แมตทีเรียล และคัตติ้งคมกริบเช่นเดิม หรือจะเป็น PRADA โดยฝีมือการสร้างสรรค์ของ Miuccia Prada และ Raf Simons ที่ครั้งนี้ต้อนรับเหล่าแขกฟรอนต์โรว์ด้วยรันเวย์พื้นกระจกใส ที่ภายใต้ถูกเนรมิตให้เป็นเหมือนผืนป่า ขัดแย้งกับบรรยากาศและเก้าอี้ล้อเลื่อนแบบสำนักงาน ซึ่งสอดรับกับคอนเซปต์ของการออกแบบเสื้อผ้าในคอลเล็กชั่นนี้ ที่ให้กลิ่นอายของหนุ่มออฟฟิศที่ต้องการออกไปสัมผัสกับธรรมชาติในโลกกว้าง ผ่านการออกแบบแฟชั่นไอเท็มสีสดใส ในสไตล์เสื้อผ้าแบบกึ่งเอาต์ดอร์ นอกจากนี้ก็ยังมี JW Anderson ที่มาพร้อมกับความคิดสร้างสรรค์เต็มขั้น อ้างอิงแรงบันดาลใจมาจากงานภาพยนตร์อีโรติก Eyes Wide Shut หรือจะเป็น Fendi ที่ผสมผสานงานเสื้อผ้าแบบคนเมืองและแบบคันทรี่เอาไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว พร้อมฉาบทับด้วยงานเทเลอริ่งสุดเนี้ยบอย่างที่เคยเป็นมา

 

     RUNWAY MOMENTS

     นอกจากงานเสื้อผ้าและแฟชั่นไอเท็มแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือเทคนิคงานโชว์ ตั้งแต่การแคสติ้งนายแบบและนางแบบ ซึ่งในฤดูกาลนี้คงต้องยกให้กับแบรนด์ DSQUARED2 โดยฝีมือการสร้างสรรค์ของดีไซเนอร์ฝาแฝด Dean และ Dan Caten ที่เนรมิตโชว์ได้น่าสนใจ ตั้งแคปซูลเทคโนโลยีทรานส์ฟอร์มลุคเหล่านายแบบและนางแบบกลางรันเวย์ จากเสื้อผ้าแนวสตรีตเปลี่ยนสู่โททัลลุคสุดสง่างาม โดยมีความลับเบื้องหลังของโชว์ดังกล่าว อยู่ที่การแคสติ้งเหล่านางแบบและนายแบบฝาแฝดกลายคู่ เพื่อสร้างสรรค์โชว์ในครั้งนี้ให้เกิดขึ้นได้อย่างน่ามหัศจรรย์ในพริบตา รวมไปถึงเซ็ตติ้งรันเวย์ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดโชว์หนึ่งของฤดูกาลนี้ กับภูเขาแคชเมียร์สีส้มของ Zegna ที่เข้าไปอยู่ในความทรงจำของเหล่าคนแฟชั่นแล้วเรียบร้อย ยิ่งส่งให้แฟชั่นวีกฝั่งผู้ชายในฤดูกาลนี้คึกคักขึ้นอีกเป็นเท่าตัว

 

     ACCESSORIES GAME

     ปิดท้ายด้วยสังเวียนแอ็กเซสเซอร์รี่ในคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าฝั่งผู้ชาย ในช่วงมิลานแฟชั่นวีก ประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ปี 2024 ที่นับได้ว่าเป็นการแข่งขันที่ดุเดือด กับการขุดเอาทุกความคิดสร้างสรรค์มาเนรมิตแฟชั่นไอเท็ม ทั้งหมวก, กระเป๋า และรองเท้า ซึ่งมีตั้งแต่สายโมเดิร์นมินิมัลโชว์คัตติ้งสุดเนี้ยบ เรื่อยไปจนถึงงานคอแลบอเรชั่นสุดสนุก ที่ทุกแบรนด์แข่งกันวางกลยุทธ์แข่งขัน เพื่อดึงดูดความสนใจจากเหล่าสาวกและแขกฟรอนต์โรว์ให้อยู่หมัดให้ได้