FASHION

เมแกน มาร์เคิล คืนชีพ 'ชุดแก้แค้น' ตามหลอกหลอนราชวงศ์วินด์เซอร์ ในรอบ 26 ปี!

หลายคนไม่รู้จักว่า "The Revenge Dress" คืออะไร แปลตรงตัวอย่างง่ายได้เลยว่า "ชุดแก้แค้น" ซึ่งแน่นอนว่ามันแปลว่าเช่นนั้นจริงๆ...

     ย้อนกลับไปในปี 1994 ที่งานปาร์ตี้ของเครือนิตยสาร Vanity Fair ที่ถูกจัดขึ้น ณ หอศิลป์ Serpentine กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ไดอาน่า สเปนเซอร์ ซึ่งในขณะนั้นยังรั้งตำแหน่งเป็นสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูง "เจ้าหญิงแห่งเวลส์" และยังไม่ได้หย่าขาดจากมกุฎราชกุมารชาลส์ แต่ก็แยกกันอยู่แล้วอย่างเป็นทางการ ปรากฏตัวขึ้นในงานเลี้ยงปาร์ตี้ดังกล่าว พร้อมกับชุดกระโปรงรัดรูปสีดำ ตัดต่อชายผ้า ไหล่ปาด สวมใส่เข้าคู่กับสร้อยคอไข่มุก ประดับเพชรสีน้ำเงินตรงกลางเส้น จนหลายคนต้องตกตะลึงในความสวยสง่า ดังที่มีคำให้การของคนที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า "ไม่เคยเห็นไดอาน่าสวย และสดใสเท่านี้มาก่อน" ทว่าถ้าหากได้ฉุกคิดสักนิด ในเช้าวันเดียวกันนั้น เป็นวันเดียวกันกับที่เจ้าชายชาลส์ปริปากให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเจ้าดังว่า "ข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขา และคามิลล่า พาร์กเกอร์ โบลส์ ที่เข้ามาเป็นมือที่ 3 ในชีวิตสมรสของเขา และไดอาน่านั้นเป็นเรื่องจริง" หลังจากที่ไดอาน่าพยายามดิสเครดิตด้วยการให้ข่าวเรื่องนี้มาแสนนาน และเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ก็คงจะพอเข้าใจแล้วว่า ทำไมในงานปาร์ตี้คืนนั้น ไดอาน่า สเปนเซอร์ จึงได้สวย สดใส และมีเสน่ห์มากขนาดนั้น ก็เพราะว่า นั่นคือความตั้งใจของเธอ ที่ต้องการจะปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนเพื่อเป็นการแก้แค้น และประกาศชัยชนะ ที่มกุฎราชกุมารคนปัจจุบัน แห่งราชวงศ์วินด์เซอร์ ออกมายอมจำนนเสียทีว่า "เขาไม่ได้ซื่อสัตย์กับเธอตั้งแต่ต้น"...

     ผ่านมา 26 ปี ราวกับราชวงศ์วินด์เซอร์ทำกรรมหนักเอาไว้ "ชุดแก้แค้น" ตามกลับมาหลอกหลอน สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 อีกครั้ง หลังจากที่เจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน มาร์เคิล ดยุก และดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ตัดสินใจสละยศ "เจ้าฟ้าชั้นสูง" พร้อมประกาศหอบผ้าหอบผ่อนหนีไปใช้ชีวิตแสนสงบที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา อีกทั้งยังพาทายาทคนแรกของครอบครัวซัสเซกซ์ อย่าง อาร์ชี่ เมาต์แบตเทิน ที่บัดนี้รั้งตำแหน่งรัชทายาทลำดับที่ 7 ในโปเจียม ไปเลี้ยงดูด้วย งานนี้หลายสื่อต่างรายงานตรงกันว่าเล่นเอาควีนเอลิซาเบธฯ และสมาชิกราชวงศ์ปวดหัวหนัก ออกมาตรการนัดคุยปรับความเข้าใจกันอยู่หลายหน จนต้องปลงตกปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม ทว่าก่อนไปก็ยังทรงรับสั่งให้ทั้งคู่กลับมาทำงานในฐานะของราชวงศ์ชั้นสูงเป็นครั้งสุดท้าย กับการเข้าร่วมเฉลิมฉลองในงาน Common Wealth Day หรือวันชาติแห่งเครือจักรภพ ประจำปี 2020 และเมื่อรู้เช่นนั้นแล้ว เมแกน มาร์เคิล ที่ได้รับการจัดลำดับให้เป็นชื่อที่ถูกค้นหามากที่สุดด้านแฟชั่น และสไตล์บนเว็บไซต์ Lyst.com ประจำปี 2019 ที่ผ่านมา มีหรือจะยอมทิ้งทวนทริปสุดท้ายให้จบลงอย่างเรียบง่าย เธอจึงจัดให้ชุดใหญ่ ปรากฏตัว ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ในชุดกระโปรงผ้าคลุมสีเขียว สวยสะกด โดยฝีมือของ Emilia Wickstead พร้อมสวมหมวกตามธรรมเนียมที่ผู้(หญิง)ดีชาวอังกฤษเขาทำกัน เรียกแสงแฟลชจากสื่อที่กระหายข่าวได้อยู่หมัด แบบนี้แล้วถ้าไม่เรียกว่า "ชุดแก้แค้น" แล้วจะให้เรียกว่าชุดอะไร...



WATCH




     ทว่า "ชุดแก้แค้น" ที่เป็นชุดเดียวกันกับ "ชุดบอกลาราชวงศ์" ของเมแกน มาร์เคิล ที่ว่านี้ ก็ใช่ว่าจะเหมือนกับชุดของไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์สักเท่าไหร่ เพราะการแก้แค้นครั้งนี้ของเมแกน มาร์เคิล มุ่งตรงไปยังเหล่าสื่อมวลชนไร้จรรยาบรรณ ที่คอยสาดโคลน กู่ข่าวเสียหายต่อเธอ และครอบครัวของเธอในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเสียมากกว่า และก็นับว่าประสบความสำเร็จที่ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์สามารถเรียกแสงแฟลชจากสื่อหิวข่าวได้อย่างล้นหลาม ดึงดูดความสนใจจนทำให้สื่อหลายสำนัก และกลุ่มของชาวเน็ตที่เคยประกาศกร้าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะไม่นำเสนอข่าว และไม่เสพข่าวของเมแกน มาร์เคิล อีกต่อไปนั้น ต้องผิดคำพูดกันเสียยกใหญ่ เพราะตอนนี้ภาพถ่ายดังกล่าวของเธอตราอยู่ทั่วโลกโซเชียลมีเดียของสื่อทั่วโลกแล้วเป็นที่เรียบร้อย และจะประทับรอยคอยกัดกินหน้าประวัติศาสตร์ของราชวงศ์วินด์เซอร์ไปอีกนานแสนนาน 

     ว่ากันว่า "เสื้อผ้าจะไม่ได้มีความหมายเป็นเพียงเสื้อผ้าธรรมดาอีกต่อไป เมื่อสุภาพสตรีแห่งราชวงศ์อังกฤษ เลือกหยิบมันขึ้นมาสวมใส่" ดังนั้นแล้ว 2 กรณีที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ก็คงจะยืนยันประโยคสำคัญนี้ได้เป็นอย่างดี ทีนี้ก็ต้องมาตามกันต่อว่า "ช่วงเปลี่ยนผ่าน" ของทั้งคู่สู่ฐานะราชวงศ์ระดับขุนนางทั่วไป ที่จะเกิดขึ้นหลังวันที่ 31 มีนาคมนี้ จะเป็นอย่างไรต่อไป แม้ว่าหลายคนจะวิเคราะห์ไว้แล้วว่า เกมครั้งนี้เป็นกระดานเกมของฝั่งราชวงศ์ ที่จะสามารถรุกฆาตเมื่อไหร่ก็ได้ แต่หากพิจารณาให้ดีแล้ว น่าจะไม่ง่ายดายขนาดนั้น เช่นเดียวกับครั้งของไดอาน่า สเปนเซอร์ เพราะครั้งนี้เมแกน มาร์เคิล ที่อาจจะไม่ได้มีกองทัพที่พร้อมผดุงความยุติธรรมให้กับเธอ ดั่งที่เจ้าหญิงไดอาน่าเคยมี แต่ตัวประกันครั้งนี้อย่าง เจ้าชายแฮร์รี่ และอาร์ชี่ เมาต์แบตเทิน ที่พร้อมจะเข้าข้างครอบครัวซัสเซกซ์ของเขา ก็นับเป็นตัวแปรสำคัญที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 หรือใครก็ตาม ต้องทรงคิดให้หนักๆ ก่อนล้มกระดานเหมือนกัน...

WATCH