FASHION

ตำนาน 'Le Smoking' ชุดสูทผู้หญิงฝีมือ YSL ที่ปฏิวัติเรื่องเพศในโลกแฟชั่นไปตลอดกาล!

Yves Saint Laurent รังสรรค์ 'Le Smoking' จนกลายเป็นชิ้นงานที่ปฏิวัติเรื่องเพศในวงการแฟชั่น

เนื้อหาสำคัญ

  • เมื่อเพศเป็นตัวกำหนดนิยามความงามของหญิงและชาย ดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศสจึงต้องคำถามพร้อมปฏิวัติอย่างสันติและแนบเนียน
  • ทักซิโด้เคยเป็นสัญลักษณ์ของสุภาพบุรุษแต่เมื่อสุภาพสตรีหยิบมันมาสวมกลับมีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง ทั้งสร้างพลังและขับความโดดเด่นออกมาได้อย่างน่าสนใจ
  • เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ต่างๆ ที่ทำให้ Le Smoking กลายเป็นที่จดจำจนถึงทุกวันนี้
  • เหตุการณ์และกระแสต่างๆ หลังจาก Le Smoking ถูกรังสรรค์ขึ้นจากชายชื่อว่า Yves Saint Laurent

_______________________________________________________________________

 

     ก่อนผู้หญิงจะโก้เปรี้ยวด้วยเสื้อสูทและกางเกงเรื่องราวในอดีตกลับตีกรอบแฟชั่นให้เหล่าสุภาพสตรีอยู่ภายใต้กรอบแคบๆ มาตลอดทุกยุคทุกสมัย จนกระทั่ง Yves Saint Laurent รังสรรค์ “Le Smoking Suit” ขึ้นมาให้กับวงการแฟชั่นโลก และไอเท็มสุดไอคอนิกนี้เปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล ไม่ใช่แค่โลกแฟชั่นแต่โลกวัฒนธรรมทั้งหมดทั้งมวลถูกตั้งคำถามว่า “เพศ” มีความสำคัญในการกำหนดสไตล์จริงหรือ การปลดแอกครั้งสำคัญของดีไซเนอร์อัจฉริยะสมองเพชรคนนี้ทำให้ผู้หญิงมีสิทธิ์ในการแต่งตัวแบบทวีคูณ ทำไมตำนานผู้นี้ถึงได้ทำลาย “กรงขังสิทธิสตรี” ได้สำเร็จ ความสวยงาม พลัง หรือความตั้งใจแฝง หาคำตอบได้ในบทความนี้ได้เลย

ภาพจำของแฟชั่นสตรีช่วงยุค ‘60s / ภาพ: Women-Fashion.club

     ย้อนกลับไปเมื่อช่วง ‘60s การแต่งกายของผู้หญิงมักถูกจดจำและบันทึกลงหน้าประวัติศาสตร์แฟชั่นว่าเป็นยุคแห่งเสื้อและกระโปรงเข้าชุด หรือจะเป็นเดรสสีสันสดใสประกอบลวดลาย ความผู้ญิ้งผู้หญิงจำกัดมิติความสวยงามและอิสระทางด้านความงามให้วิ่งตรงในทางเดียวกัน สมัยนั้นไม่มีโซเชียลมีเดีย ไม่มีอินฟลูเอนเซอร์คอยนำเสนอวิธีคิดอันแตกต่างที่ทรงพลังพอจะโน้มน้าวคนให้รู้สึกสวยงามตามไปด้วย วิถีแฟชั่นในยุคนั้นจึงกลายเป็นสไตล์เดียวกันวิ่งตรงโดยแทบไม่มีความขบถแหวกแตกต่างมากนัก ชายก็คือชาย หญิงก็คือหญิง นิยามความไร้เพศหรือความลื่นไหลทางเพศซึ่งกำลังเป็นหัวใจสำคัญของทิศทางแฟชั่นในยุคนี้แทบจะเป็นศูนย์ในยุคนั้น

ภาพสเกตช์และชุดทักซิโด้สำหรับผู้หญิงยุคแรกจาก Yves Saint Laurent / ภาพ: Musée Yves Saint Laurent

     แต่แล้วมีดีไซเนอร์คนหนึ่งกำลังเปิดตำราแฟชั่นแต่ไม่ได้เปิดดูแต่เขากำลังจะเปิดหน้าว่างเพื่อบันทึกผลงานของเขาลงไปในนั้น อีฟ แซงต์ โลรองต์ วาดความงามนิยามแบบใหม่ลงบนหน้าบันทึกประวัติศาสตร์ จากเดิมผู้หญิงไม่สามารถสวมกางเกงเข้าร้านอาหารหลายแห่งได้ งานกลางคืนผู้หญิงต้องสวมชุดเดรสยาวเท่านั้น หรือแม้แต่การออกงานสังคมยังต้องแต่งกายด้วยกระโปรงยาวระดับเข่า อีฟไม่ได้กบฏต่อต้านแต่เขาสร้างสรรค์มิติความงามใหม่เพื่อเปิดทางเลือกให้กับผู้หญิงและพัฒนาแฟชั่นรวมถึงสิทธิสตรีแบบสันติวิธี “Le Smoking” จึงเกิดขึ้น



WATCH




ทักซิโด้สำหรับสุภาพบุรุษสมัยกว่าครึ่งศตวรรษทื่แล้ว / ภาพ: Gentleman's Gazette

     รายละเอียดของ “Le Smoking” คือการตีความชุดสำหรับงานกลางคืนใหม่ทั้งหมด เดิมทีทักซิโด้คือชุดสำหรับสุภาพบุรุษเท่านั้น เหล่าชายชาตรีออกงานธีม “Black Tie” ด้วยทักซิโด้เนี้ยบกริบพร้อมด้วยโบว์ประดับคอเสื้อขนาดพอเหมาะ แต่สำหรับสุภาพสตรีไม่มีคำว่าทักซิโด้ในพจนานุกรมมาก่อน อีฟไม่รอช้าปี 1966 เขาได้สร้างชิ้นงาน “Le Smoking” ขึ้นมาด้วยรายละเอียดชุดทักซิโด้ทริมขอบด้วยผ้าซาตินเฉกเช่นของสุภาพบุรุษอย่างไรอย่างนั้น เพียงแต่ซิลูเอตถูกสร้างมาให้สอดรับกับรูปร่างของหญิงสาวอย่างพอดิบพอดี เพิ่มความยาวของเรียวขา จัดส่วนเว้าส่วนโค้งได้คมกริบ เขาไม่ได้สร้างผลงานชิ้นนี้แค่เป็นเทรนด์แฟชั่นที่เหมือนจุดพลุแล้วดับไป แต่ดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศสคนนี้ตั้งใจสร้างมันให้เป็นไอเท็มชิ้นอมตะมาตั้งแต่ต้น หลักฐานจากบทสัมภาษณ์ใน Musée Yves Saint Laurent ว่า “ทักซิโด้จะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้หญิง เธอ(ผู้สวมใส่)จะสัมผัสได้ถึงความมีสไตล์ มันไม่ใช่แค่ตามสมัยนิยม เพราะแฟชั่นค่อยๆ เลือนหายไปตามยุคสมัย แต่สไตล์คงอยู่ตลอดไป”

 

*FUN FACT: Le Smoking ได้รับแรงบันดาลใจทั้งเรื่องและสไตล์มาจาก Smoking Jacket เครื่องแต่งกายดั้งเดิมของสุภาพบุรุษชาวอังกฤษ

ความสับสนเรื่องเพศที่ Le Smoking สร้างขึ้น ณ ช่วงเวลาแรกเริ่ม / ภาพ: Helmut Newton

     ชุดทักซิโด้สำหรับผู้หญิงไม่ได้เปลี่ยนโลกในทันที แต่เป็นเหมือนการตั้งคำถามให้ฉุกคิด เมื่อครั้งปล่อยออกมาทีแรกกระแสตอบกลับมีทั้งบวกและลบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ตามปกติของการฉีกกรอบเก่าของสังคม โดยกระแสเชิงบวกคือการแสดงให้เห็นว่ามิติแฟชั่นของผู้หญิงไม่ได้ถูกกำหนดโดยผู้ชายหรือชุดความคิดอนุรักษ์นิยมเดิมๆ อีกต่อไป แต่อีกแง่หนึ่งหลายคนก็ยังมองว่าเพศและเสื้อผ้าอาภรณ์ยังเป็นสิ่งเชื่อมโยงกันเสมอ เหล่าบรรณาธิการแฟชั่นหลายคนในยุคนั้นวิพากษ์วิจารณ์ว่า “ทำลายความเป็นธรรมชาติของมนุษย์” หรือจะเป็น “ชุดนี้สร้างความสับสนทางเพศอย่างยิ่ง” แต่อย่าเพิ่งย้อนกร่นด่าคนวิจารณ์ในยุคนั้นว่าใจแคบ เพราะความเข้าใจในบริบทของสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาในยุคนั้นยังไม่ได้เปิดกว้างหรือทำความเข้าใจเรื่องเพศในแบบปัจจุบัน พฤติกรรมมนุษย์รวมถึงรสนิยมต่างๆ ยังผูกติดกับเพศมากกว่าไปในตอนนี้มากจริงๆ

Nan Kempner ในลุคชุดสูทจาก Yves Saint Laurent / ภาพ: VANITY FAIR

     การรื้อสร้างความจริงทางสังคมต่างๆ มักต้องมีเรื่องราวเล่าขานสร้างแรงบันดาลใจ และหนึ่งเรื่องราวความขบถที่ทำให้ “Le Smoking” โด่งดังก็คือ ครั้งหนึ่ง Nan Kempner สวมชุดนี้เข้า Le Côte Basque ร้านอาหารชื่อดังในมหานครนิวยอร์กแต่เธอถูกสั่งห้ามเข้าเพราะสวมกางเกงคู่กับแจ๊กเก็ต เธอจึงแก้ปัญหาแบบเผ็ดร้อนด้วยการถอดกางเกงออกและสวมทักซิโด้แจ๊กเก็ตตัวเนี้ยบสีดำจาก อีฟ แซงต์ โลรองต์เป็นเดรสแทน ลุคนี้จึงกลายเป็นแฟชั่นอมตะอีกหนึ่งรูปแบบที่เปลี่ยนโลกไปตลาดกาล จุดเริ่มต้นมาก็เริ่มมาจาก “Le Smoking” อันโด่งดังฝีมืออีฟนั่นเอง

ดูเหมือนชุดจะใส่ความแมสคิวลีนมาเต็มที่ แต่ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นซิลูเอตที่ส่งเสริมรูปแบบของผู้หญิงให้มีความเฟมินีนสุดๆ ถือเป็นการผสมผสานอย่างลงตัว / ภาพ: Reg Lancaster/Stringer

     มันไม่ใช่แค่วิธีการแต่งกาย แต่มันคือวิธีสร้างพลัง การสวมสูทธรรมดาว่าให้พลังอำนาจแบบแมสคิวลีนในยุคสมัยชายเป็นใหญ่ได้เป็นอย่างดี แต่ยิ่งหญิงสาวสวมทักซิโด้ซึ่งเครื่องหมายทางเพศของบุรุษชั้นสูงนั้นยิ่งตอกย้ำอย่างชัดเจนว่า “แฟชั่นไม่ได้ยึดติดกับคำว่าเพศ” เพราะถ้าเรามองดูการประกอบสร้างซิลูเอตชุดนี้ขึ้นมาจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าความเฉียบคมเหล่านี้มันช่างโก้ดีเสียจริง และอย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าจะสร้างพลังให้ผู้หญิงถึงเปลี่ยนผู้หญิงให้สวมชุดผู้ชาย แต่สมองเพชรของอีฟคิดรอบด้านกว่านั้น “Le Smoking” ไม่ใช่แค่การหยิบทักซิโด้มาให้ผู้หญิงสวมใส่ แต่การออกแบบให้ทั้งปก การเข้าเอว รวมถึงกางเกงที่ยังความเฟมินีนอยู่ทำให้สะท้อนได้อย่างชัดเจนว่ากรอบธรรมเนียมการแต่งกายแบบเดิมๆ ยังมีอยู่ได้แต่ใครจะแหวกออกนอกกรอบพร้อมรับความสวยงามแบบใหม่ให้ตัวเองก็ย่อมต้องทำได้เช่นกัน ไอคอนิกไอเท็มของอีฟเล่าออกมาโดยไม่ต้องออกเสียง

Bianca และ Mick Jagger ในวันเข้าพิธีสมรส / ภาพ: WhoWhatWear

     ความโด่งดังของ “Le Smoking” นั้นเรียกว่าเป็นหนึ่งในไอเท็มเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าแฟชั่นโลกในศตวรรษที่ 20 ชิ้นหนึ่งเลยก็ว่าได้ Bianca Jagger ภรรยาของ Mick Jagger ก็เลือกฉีกขนบชุดเดรสเจ้าสาวในภาพจำแบบเดิมๆ ทิ้งจนวิ้น เพราะเธอเลือกปรับใช้ชุดทักซิโด้สีขาวมาเป็นชุดแต่งงานพร้อมแมตช์เข้ากับหมวกปีกกว้าง หากเราจะเรียกลุคนี้ว่า “ลุคแต่งงานแห่งความขบถ” ก็คงไม่ผิดนัก แต่ยืนยันได้เลยว่าชุดแต่งงานชุดนี้เรียบโก้มีรสนิยมสมเป็นคู่รักมีสไตล์สมชื่อ “Jagger” เสียจริงๆ

ภาพในตำนานกับการถ่ายแบบของโว้กฝรั่งเศสโดยฝีมือ Helmut Newton / ภาพ: Helmut Newton

     นอกจากในตอนนั้นคนจะทึ่งเรื่องชุดแล้ว การสไตลิ่งก็เป็นเคล็ดลับที่อีฟส่งเสริมให้ “Le Smoking” เป็นตำนานขึ้นอีกระดับ เมื่อการสวมชุดสูทที่มักมีแต่สุภาพบุรุษสวมใส่ย่อมไม่มีรองเท้าส้นสูงหรือไอเท็มสะท้อนความเป็นสตรีอยู่ในลุคอยู่แล้ว แต่สำหรับชุดนี้กลับต่างออกไป ลองกลับไปมองภาพ Helmut Newton ถ่ายภาพ Vibeke Knudsen สวมชุดทักซิโด้กับรองเท้าส้นสูงพร้อมรายละเอียดของเสื้อเชิ้ตแบบจับระบาย ณ Rue Aubriot กรุงปารีสยิ่งเร่งปฏิกิริยาความน่าดึงดูดให้กับลุคอมตะลุคนี้ผ่านมุมมองของโว้กฝรั่งเศสได้อย่างยอดเยี่ยม

ท่าโพสต์นางแบบที่เราเห็นกันในยุคใหม่ก็เกิดจากชุดสไตล์มาดเท่อย่าง Le Smoking / ภาพ: Design & Culture

     “สิ่งที่ดูเหมือนง่ายทำยากเสมอ” วลีนี้เหมาะอย่างยิ่งกับ “Le Smoking” เอกลักษณ์โดดเด่นทั้งหมดที่กล่าวไปเห็นได้ชัดและไม่ได้มีรายละเอียดซับซ้อนอะไรมาก แต่กรรมวิธีที่ทำให้ความเรียบง่ายดูหมดจดสมบูรณ์คือกุญแจสำคัญ การตัดเย็บช่วงแขนและเอวให้พอดิบพอดีเพื่อขับเสน่ห์จากรูปร่างของผู้หญิงนั้นไม่ง่ายเลย รวมถึงการโพสต์ท่าของนางแบบเพื่อนำเสนอลุคนี้ก็เป็นโจทย์สำคัญที่จะทำให้ลุคนี้มั่นคงในสมัยที่โลกยังมองทักซิโด้สำหรับผู้หญิงเป็นสิ่งใหม่ ทำอย่างไรให้ดูแข็งแกร่งเฉียบคมแต่ไม่รู้สึกเป็นภัยคุกคาม โจทย์ปัญหาสำคัญที่อีฟและเหล่าผู้สนับสนุนก้าวผ่านมาได้แบบไร้รอยแผลใดๆ

เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้พอย้อนกลับไปดูภาพสเกตช์อีกครั้งจะเห็นว่าความทรงพลังในการผสมผสานการตกผลึกแฟชั่นตามทั้ง 2 เพศถูกผสมผสานกันอย่างน่าทึ่งโดย Yves Saint Laurent / ภาพ: Musée Yves Saint Laurent

     ตอนนี้ “Le Smoking” กลายเป็นรากฐานของแฟชั่นสำหรับผู้หญิงมาจวบจนปัจจุบัน เป็นพื้นฐานหลักในคอลเล็กชั่นของแบรนด์ไม่ว่าดีไซเนอร์คนไหนมารับตำแหน่งต้องคำนึงถึงชุดนี้อยู่เสมอ เสื้อสูทของผู้หญิงรูปแบบต่างๆ การผสมผสานกลิ่นอายของหญิงและใช้เข้าด้วยกัน ยิ่งตอนนี้ “Androgynous Fashion” กำลังมาแรงมากๆ ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2019 ความเรียบโก้ของผู้หญิงสวมสูทเมื่อเรามองตอนนี้อาจจะดูธรรมดา แต่ถ้าย้อนกลับไปในยุคของอีฟจริงๆ มันคือสิ่งแปลกใหม่ที่มาปฏิวัติแฟชั่นให้เปลี่ยนโฉมไปตลาดกาล ทีแรกอีฟเขียนบันทึกประวัติศาสตร์ด้วยตัวเอง หลังจากนั้นหน้าบันทึกก็ถูกเขียนต่อยอดมาจากต้นเรื่องของเขาต่อมาเกินครึ่งศตวรรษ ถ้าวันนั้นไม่มีอีฟเราอาจไม่ได้เห็นแฟชั่นกางเกง เบลเซอร์ หรือแม้แต่กลิ่นอายแมสคิวลีนต่างๆ ในแฟชั่นผู้หญิงแบบปัจจุบันก็ได้ ความกล้าจะออกนอกกรอบ การปฏิวัติแฟชั่นอย่างสันติ การฉีกกฎขนบเดิมทิ้งด้วยความงดงามของสไตล์ เรื่องเหล่านี้คงจะหาใครตรงคำนิยามได้ยากหากไม่ใช่เขาคนนี้ เนื่องในโอกาสวันครบรอบการจากไปครบ 12 ปี (1 มิถุนายน) โว้กขอรำลึกถึงตำนานยอดฝีมือแห่งวงการแฟชั่นชาวฝรั่งเศส “อีฟ แซงต์ โลรองต์”  

 

ข้อมูล: Vogue US, culture trip, Musée Yves Saint Laurent, Lifestyle, CR Fashion Book, History of Yves Saint Laurent, BBC และ Courtesy of Saint Laurent

WATCH