รู้จัก 'Lady D-Joy' ภาคต่อของ Lady Dior กระเป๋าที่ผลิตขึ้นเพื่อแสดงถึงความเคารพต่อเจ้าหญิงไดอาน่า
เรียกได้ว่าการปรับรูปโฉมในครั้งนี้ทำให้ Lady Dior ในชื่อ Lady D-Joy ดูร่วมสมัยและพิเศษขึ้น
ในขณะที่เธอยังมีชีวิตอยู่ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเจ้าหญิงไดอาน่าแห่งเวลส์คือหนึ่งในสตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับแฟชั่น ที่ไม่ว่าเธอจะหยิบจับเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า กระเป๋า หรือไอเท็มชิ้นไหนมาสวมใส่ และปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน รับประกันได้เลยว่ามันจะได้รับความนิยมอย่างถล่มทลายในทันที หนึ่งในเรื่องราวที่พิสูจน์ความจริงประการนี้ได้ดีที่สุดคือความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหญิงไดอาน่ากับกระเป๋าถือ Dior สุดไอคอนิกของเธอ ที่เรียกได้ว่าเป็นภาพจำอมตะที่ตราตรึงในความทรงจำผู้คนทั่วโลกเป็นที่เรียบร้อย
เจ้าหญิงไดอาน่ากับกระเป๋า Lady Dior / ภาพ: British Vogue
เดินทางผ่านกาลเวลาหลายทศวรรษ จนกระทั่งในเดือนเมษายน 2022 ที่ผ่านมาทางดิออร์ก็ยังคงแสดงถึงความรัก เคารพ และขอบคุณที่มีต่อเจ้าหญิงไดอาน่าอย่างไม่เสื่อมคลาย ด้วยการผลิตกระเป๋าในชื่อรุ่น Lady D-Joy ออกมาวางจำหน่าย เมื่อย้อนกลับไปถึงเรื่องราวชวนอบอุ่นหัวใจเช่นนี้มีจุดเริ่มต้นขึ้นในปี 1995 เมื่อครั้งเจ้าหญิงไดอาน่าแห่งเวลส์ได้เดินทางไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเข้าร่วมงานนิทรรศการแฟชั่นย้อนยุคของ Paul Cézanne ซึ่งจัดขึ้นที่ Grand Palais โดยในงานนิทรรศการแห่งนี้ เจ้าหญิงไดอาน่าได้พบปะพูดคุยกับ Bernadette Chirac อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของฝรั่งเศส และดูเหมือนว่าบทสนทนาจะดำเนินไปอย่างสนุกสนาน แบร์นาเดตต์รู้สึกถูกชะตากับเจ้าหญิงไดอาน่าเป็นอย่างมากถึงขั้นได้มอบกระเป๋าใบหนึ่งให้แก่เธอ ความพิเศษของกระเป๋าดังกล่าวคือเป็นกระเป๋าที่แบรนด์ Dior รุ่นล่าสุด ที่ยังไม่มีการวางจำหน่าย หรือแม้แต่ชื่อรุ่นก็ยังไม่ได้ถูกตั้งอย่างเป็นทางการ ทุกคนเรียกขานมันว่า 'Chouchou' (ดิออร์ได้มอบ Choucho ให้แก่แบร์นาเดตต์เป็นกรณีพิเศษในฐานะอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของฝรั่งเศส และผู้ทรงอิทธิพลด้านแฟชั่นของประเทศ ให้ได้ทดลองใช้ก่อนเป็นคนแรก ก่อนที่เธอจะส่งมอบมันอีกทอดหนึ่งแก่เจ้าหญิงไดอาน่า)
1 / 2
กระเป๋า Lady D-Joy จากแบรนด์ Dior
2 / 2
กระเป๋า Chouchou หรือ Lady D จากแบรนด์ Dior
WATCH
เจ้าหญิงไดอาน่าในชุดสูทสีส้มจาก Versace คู่กับกระเป๋า Lady Dior เมื่อครั้งเยือนเมือง Liverpool / ภาพ: Vogue US
Chouchou มีลักษณะเป็นกระเป๋าหูหิ้วด้านบน โดดเด่นด้วยสไตล์การเย็บแคนเนจ ส่วนดีไซน์เป็นไอเดียของ Christian Dior ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเก้าอี้ของพระเจ้านโปเลียนที่ 3 ปิดท้ายด้วยโลโก้และจี้ห้อย และกระเป๋า Chouchou ใบนี้กลายเป็นกระเป๋าใบโปรดของเจ้าหญิงไดอาน่าในทันที เรียกว่าเธอพกพามันติดตัวไปด้วยทุกที่ทุกเวลา และเมื่อกลับมายังกรุงลอนดอน เธอก็กลายเป็นแฟนตัวยงของดิออร์ไปโดยปริยาย มีรายงานว่าเธอได้ซื้อกระเป๋าดิออร์จำนวนหลายใบจากห้างสรรพสินค้า Harrods
ครั้งหนึ่งที่กระเป๋า Chouchou อยู่คู่กับเจ้าหญิงไดอาน่าและสามารถสะกดสายตาของผู้คนทั่วโลกได้มากที่สุดคือครั้งที่เธอจับคู่มันเข้ากับชุดสูทสีส้มของ Versace ขณะที่เธอไปเยือนเมืองลิเวอร์พูล ในปี ค.ศ.1995 และอีกครั้งในปี ค.ศ.1996 ณ งาน Met Gala เรียกได้ว่ากระเป๋า Chouchou ของขวัญจากทางดิออร์ที่เจ้าหญิงไดอาน่าได้รับมาโดยไม่ตั้งใจ กลายเป็นไอเท็มที่อยู่เคียงข้างเธอมาโดยตลอด ผ่านช่วงเวลาสุข เศร้า และแตกสลาย อีกทั้งมันยังเป็นสัญลักษณ์ ที่ไม่ว่าตัวเธอจะตั้งใจหรือไม่ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระเป๋าใบนี้ทำให้เธอดูมีอิสระจากกรอบจารีตของราชวงศ์
เจ้าหญิงไดอาน่ากับกระเป๋า Lady Dior / ภาพ: Buro247
หลังจากที่ผู้คนทั่วโลกพากันตกหลุมรักกระเป๋า Chouchou ที่เจ้าหญิงไดอาน่าพาติดตัวไปด้วยทุกที่จนสุกงอมได้ที่แล้ว ทางดิออร์ก็จัดการวางจำหน่ายกระเป๋ารุ่นดังกล่าวให้คนทั่วไปจับจองเป็นเจ้าของได้ และตั้งชื่อรุ่นว่า Lady Dior เพื่อเป็นเกียรติและแสดงความขอบคุณแก่เจ้าหญิงไดอาน่าที่ทำให้กระเป๋ารุ่นนี้โด่งดังไปทั่วโลก
อย่างที่ทุกคนทราบกันดี Lady Dior กลายเป็นหนึ่งในกระเป๋าถือสตรีที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาลของแบรนด์ดิออร์และแม้ว่าเจ้าหญิงไดอาน่าจะสิ้นพระชนม์ไปแล้วเกือบสามทศวรรษ ทว่าความนิยมใน Lady Dior ก็ยังไม่เสื่อมคลายแม้แต่น้อย
กระเป๋า Lady D-Joy จากแบรนด์ Dior / ภาพ: PurseBlog
จนกระทั่งในปี 2022 Maria Grazia Chiuri ผู้ดำรงตำแหน่งครีเอทีฟไดเร็กเตอร์คนปัจจุบันของดิออร์มีแนวคิดที่อยากอัปเกรดความคลาสสิกของ Lady Dior ให้ร่วมสมัยมากขึ้น และเพื่อเป็นการแสดงความนึกถึงและเคารพแก่เจ้าหญิงไดอาน่าอีกครั้ง จึงนำไปสู่การผลิตกระเป๋าที่ใช้ชื่อรุ่นว่า Lady D-Joy ที่ตีความผ้าควิลต์คลาสสิกใหม่ โดยปรับปรุงด้วยรูปทรงเป็นแนวนอน สีสันและการตัดเย็บบนผืนหนังลูกวัวแตกต่างจากเดิม แต่ยังคงไว้ซึ่งความประณีต เสริมด้วยสายหนังและสายโซ่สองสาย เรียกได้ว่าการปรับรูปโฉมในครั้งนี้ทำให้ Lady Dior ในชื่อ Lady D-Joy ดูร่วมสมัยและพิเศษขึ้นด้วยงานปักเลื่อมตามแบบฉบับ Italian Ateliers ของดิออร์ และในขณะนี้ทุกคนสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ว
WATCH