เผยแรงบันดาลใจ พร้อมส่องไอเท็มชิ้นเด็ดจากคอลเล็กชั่น KAI x GUCCI วางขายแล้ววันนี้ที่ไทย!

     หลังจากที่วัฒนธรรม K-Pop ได้แผ่ขยายไปทั่ว แทรกซึมเข้าไปดำรงอยู่ในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลก จนกลายเป็นป็อปคัลเจอร์แห่งศตวรรษนี้ไปแล้วเรียบร้อย เราจึงมักได้เห็นผลผลิตจากวัฒนธรรมดังกล่าว อันได้แก่เหล่าศิลปิน หรือเซเลบริตี้ชาวเกาหลีใต้ ร่วมโลดแล่นไปทั่วโลก กลายเป็นหนึ่งใน “ผู้ทรงอิทธิพล” ที่สามารถจะขับเคลื่อนสังคมไปในทิศทางที่แตกต่าง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแฟชั่น และบันเทิง ที่เหล่าศิลปินเกาหลีเดินทางเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างปฏิเสธไม่ได้ และนี่ก็คงจะนับเป็นอีกครั้งที่เราจะได้เห็นแบรนด์แฟชั่นระดับโลกร่วมงานอย่างจริงจังกับศิลปินเกาหลี ซึ่งคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่คือ คิม จง-อิน หรือที่เราต่างคุ้นหูกันในชื่อของ KAI ศิลปินสุดฮอตที่ได้เปิดตัวในฐานะของสมาชิกวง Exo เมื่อปี 2012 ก่อนที่จะดังเป็นพลุแตก และได้รับการยอมรับตลอดเกือบทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยทักษะการร้อง และการเต้นที่น่าหลงใหล อีกทั้งเสน่ห์ และสไตล์ส่วนตัวสุดโดดเด่นที่ปรากฏบนเวทีโชว์ ยิ่งทำให้ไคกลายเป็นที่จับตามอง และล่าสุดกับการกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับ Gucci แบรนด์แฟชั่นสัญชาติอิตาเลียนอายุ 100 ปี แบรนด์นี้

     Alessandro Michele ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์กุชชี่ คือหนึ่งในคนที่เล็งเห็นเสน่ห์ และสไตล์สุดโดดเด่นของไค และได้ออกแบบคอลเล็กชั่นพิเศษในนาม “KAI x Gucci” ขึ้น โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวศิลปินโดยตรง และยังได้เพิ่มความสนุกลงไปบนเสื้อผ้าในคอลเล็กชั่นนี้ด้วยลายพิมพ์สุดไอคอนิกอย่าง “ตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์” ผูกโบว์ไทสีฟ้า ของเล่นสุดโปรดในวัยเด็กของไค ที่ตอนนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำคอลเล็กชั่น และติดตาใครต่อใครไปแล้วหลายคน แต่เจ้าตุ๊กตาหมีสไตล์วินเทจผู้โบว์ไทสีฟ้าที่ว่านี้ ก็ไม่ได้มีอยู่แค่บนเสื้อผ้าเท่านั้น เพราะแบรนด์กุชชี่ยังอนุมัติให้อเลสซานโดรเล่นใหญ่ จับมือกับผู้กำกับภาพยนตร์ KIM Woogie ถ่ายทำคลิปวิดีโอนำเสนอคอลเล็กชั่นพิเศษนี้บนท้องถนนในกรุงโซล โดยมีนักแสดงนำหลักเป็นไค และตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเหล่าเพื่อนขนปุย แถมที่เซอร์ไพรส์ไปมากกว่านั้นยังได้ร่วมมือกับ IM Jibin ศิลปินสุดป๊อปจากกรุงโซล ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการแสดงผลงานศิลปะรูปหมี “Bear Balloon” ขนาดใหญ่ในโปรเจกต์งานศิลป์ Everywhere ที่เขาได้สร้างพื้นที่ศิลปะแบบด้นสด โดยการนำ Bear Balloon ขนาดใหญ่ไปวางไว้ตามสถานที่ต่างๆ ที่มองว่าไม่น่าจะเข้ากันได้ทั่วโลก

 

     ซึ่งแน่นอนว่าแบรนด์แฟชั่นสัญชาติอิตาเลียนที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ก็ไม่ยอมน้อยหน้าสั่งผลิต Bear Balloon ขนาดยักษ์สองแบบในขนาดที่แตกต่างกัน ในสองท่าทาง ร่วมกับศิลปิน IM Jibin ที่มีทั้งสีน้ำตาล และสีขาว คาดหน้าด้วยคำทักทายง่ายๆ ว่า “HELLO” สื่อสารถึงการมาถึงประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วของคอลเล็กชั่นคอแลบอเรชั่นสุดพิเศษนี้ ก่อนจะถูกนำไปวางไว้ตามสถานที่สำคัญต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็นสถานีรถไฟหัวลำโพง, สนามมวยราชดำเนิน, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และไอคอนสยาม สร้างกระแสฮือฮาผ่านโลกโซเชียลมีเดียในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้อย่างล้นหลาม ที่โว้กไม่พลาดพาทุกคนไปเจาะลึกดูแต่ละไอเท็มน่าสอยในคอลเล็กชั่นนี้กันแบบชัดๆ

     ในส่วนของเสื้อสำหรับสุภาพบุรุษนั้น มีหลายชิ้นที่ได้รับการออกแบบ และตกแต่งด้วยตุ๊กตาหมีที่ไคโปรดปราน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อแจ็กเก็ตผ้าไนลอนแคนวาสน้ำหนักเบา เสื้อแจ็กเก็ตเดนิมฟอกหิน เสื้อคอกลมและเสื้อคาร์ดิแกนผ้าขนสัตว์/ผ้าฝ้ายที่มีลายทอ ไปจนถึงเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้าย ผ้าไหมทวิลล์ หรือผ้าขนสัตว์ลายตาราง และกางเกงชิโน่สีเบจผ้าแคนวาส กางเกงยีนส์เดนิม เสื้อวอร์มแบบมีซิปหน้าที่ตัดเย็บขึ้นจากผ้าเจอร์ซี่ เพื่อสวมใส่เข้าชุดกับกางเกงบาสเก็ตบอล และกางเกงวอร์ม

     ในส่วนของฝั่งสุภาพสตรีนั้น เราจะได้เห็นเสื้อแบบมีฮู้ด และเสื้อคอกลมแบบซิปหน้าที่ทำจากผ้าไนลอน เสื้อคาร์ดิแกนคอวี และคอกลมทรงโอเวอร์ไซส์ลายทางทำจากผ้าขนสัตว์/ผ้าฝ้าย ชุดผ้าฝ้าย/ผ้าไหมเนื้อดีในสีงาช้างและสีน้ำเงิน รวมถึงเสื้อแจ็กเก็ตคาร์ดิแกน และเสื้อคอโปโลแขนสั้น เสื้อสเวตเตอร์คอกลม กระโปรงทรงเอและมินิเดรส ไปจนถึงกางเกงยีนส์และกางเกงขาสั้นผ้าเดนิม และเสื้อผ้าเจอร์ซี่ที่ดูสวมใส่สบายได้ทุกวันในแนวสตรีตอีกด้วย

1 / 12

2 / 12

3 / 12

4 / 12

5 / 12

6 / 12

7 / 12

8 / 12

9 / 12

10 / 12

11 / 12

12 / 12

     นอกจากนั้นในคอลเล็คชั่นนี้ยังมีไอเท็มชิ้นไฮไลต์อย่าง กระเป๋าถือพิมพ์ลวดลายหมีเท็ดดี้แบร์ทั่วทั้งใบ ซึ่งกระเป๋าทุกแบบในคอลเล็กชั่นนี้จะถูกตกแต่งขอบด้วยหนังสีส้มอิฐ และถูกทำให้ดูพิเศษขึ้นด้วยป้ายหนังสีส้มด้านในพร้อมตัวอักษรสีทองสะดุดตา ไล่ไปจนถึงเหล่าไอเท็มเครื่องหนังขนาดเล็กที่ตกแต่งด้วยลวดลายหมีเท็ดดี้แบร์อีกมากมาย ที่มาพร้อมกับรองเท้าสนีกเกอร์รุ่นยอดนิยมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Ace, Rhyton ทรง Chunky และ Gucci Tennis 1977 V ที่ทุกรุ่นได้ถูกชุบชีวิตให้สนุกมากขึ้นด้วยลายตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์ และนอกจากนี้ยังมีผ้าพันคอไหมขนาด 90 x 90 ซม. ตกแต่งด้วยลาย GG และมีลายตุ๊กตาหมีกระจายอยู่ทั่วทั้งผืน และผ้าพันคอผ้าฝ้ายขนาด 70 x 70 ซม. ที่มีลายตุ๊กตาหมีขนาดใหญ่พร้อมโลโก้ Gucci ในแบบวินเทจประทับอยู่รอให้เหล่าสาวกของแบรนด์มาเป็นเจ้าของกันแล้ววันนี้

1 / 6

2 / 6

3 / 6

4 / 6

5 / 6

6 / 6

     อย่างไรก็ตามคอลเล็กชั่นคอแลบอเรชั่นสุดพิเศษในครั้งนี้ไม่เพียงจะเป็นบทพิสูจน์สำคัญของฝีมือการออกแบบ และสร้างสรรค์ของแบรนด์กุชชี่เท่านั้น หากยังสะท้อนให้เห็นอีกว่า จักรวาลของเคป็อปนั้นได้ขยายไปไกลพอที่เราจะเรียกได้แล้วว่า นี่คือยุค "เคป็อปครองโลก" จริงๆ...