หลังจากจบมหกรรมโอลิมปิก 2020 ณ กรุงโตเกียว ผู้คนต่างอิ่มเอมใจที่เห็นเหล่านักกีฬาต่างจากทั่วร่วมแข่งขันในนามทีมชาติเพื่อชิงความเป็นหนึ่งในแต่ละชนิดกีฬา มากไปกว่านั้นยังแสดงให้เห็นถึงการผูกโยงมนุษย์เข้ากันด้วยกันอีกครั้งหลังต้องเผชิญสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กันถ้วนหน้า แต่เราไม่อยากให้ทุกคนลืมอีกหนึ่งมหกรรมกีฬาที่จัดต่อจากโอลิมปิกทุกครั้ง นั่นก็คือ “พาราลิมปิก” วันนี้โว้กจะชวนทุกคนไปรู้จักกับสุดยอดนักว่ายน้ำผู้บกพร่องทางร่างกายแต่ไม่เคยยอมแพ้ ตอนนี้เขาคือผู้ถือสถิติโลกและสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนสู้กับโชคชะตาอย่างแท้จริง

Juan Ignacio Reyes เจ้าสระแห่งวงการว่ายน้ำประเภท S4 / ภาพ: Wiki Library

     Juan Ignacio Reyes González คือนักกีฬาพาราลิมปิกระดับตำนานที่เราจะกล่าวถึงกันในวันนี้ แน่นอนว่าชื่อของเขาอาจไม่ได้โด่งดังเปรี้ยงปร้างจนเป็นตำนานแห่งผืนน้ำดั่ง Michael Phelps หรือกลายเป็นจอมเพชรฆาตใต้น้ำผู้ปฏิวัติวงการเหมือน Ian Thorpe แต่เขาคือราชานักสู้ผู้สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการว่ายน้ำอย่างน่าทึ่ง เราเชื่อว่าหลายคนอาจเคยเห็นวิดีโอว่ายน้ำของเขามาบ้าง แต่ไม่รู้จักมักคุ้นว่าฆวนเป็นใครและสำคัญต่อมวลมนุษยชาติมากเพียงใด

ลีลาบนผิวน้ำในท่ากรรเชียงของ Juan Ignacio Reyes / ภาพ: ESTO

     ฆวนเกิดวันที่ 15 ธันวาคม 1981 ณ เมืองเม็กซิโกซิตี้ ประเทศเม็กซิโก เขาสมบูรณ์ครบ 32 ทุกประการ แต่แล้วโชคชะตากลับไม่ได้ปูทางให้ชีวิตเขาสวยงามเหมือนเด็กทั่วไป ในวัย 5 ขวบเขาป่วยอย่างหนักจากการเส้นเลือดอุดตันขั้นรุนแรงบริเวณแขนทั้ง 2 ข้างและขาข้างซ้าย เป็นเหตุเขาต้องเสียอวัยวะสำคัญในการดำรงชีวิตไป 3 ชุดในชนิดที่มนุษย์คนหนึ่งยากจะจินตนาการถึงความโหดร้ายของโชคชะตาเหล่านั้น แต่สิ่งที่เขาเลือกคือการเดินหน้าใช้ชีวิตอย่างมีความหมายต่อไป และการว่ายน้ำเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันตัวเขาให้ก้าวข้ามขีดจำกัดโดยไม่ยึดติดกับความบกพร่องทางร่างกาย

Arnošt Petráček ผู้เข้าแข่งขันว่ายน้ำประเภท S4 ในริโอเกมส์ 2016 ที่คว้าเหรียญทองและทำลายสถิติพาราลิมปิกได้สำเร็จ / ภาพ: Paralympics

     เขาฝึกว่ายน้ำอย่างจริงจังมาเรื่อยๆ จนกระทั่งกลายเป็นนักกีฬาพารา หรือนักกีฬาผู้มีความบกพร่องทางร่างกาย ซึ่งเขาถูกจัดอยู่ในหมวด S4, SB2, SM3 (S สำหรับท่าฟรีสไตล์ กรรเชียง และผีเสื้อ / SB สำหรับท่ากบ / SM สำหรับท่าผสม) โดยเราจะสร้างความเข้าใจให้ทราบก่อนว่าการแข่งขันกีฬาประเภทนี้จะมีการแบ่งระดับความรุนแรงที่จะส่งผลถึงสมรรถภาพของร่างกายเรียงลำดับจากรุนแรงมากไปหาน้อยด้วยเลข 1-10 ตามลำดับ โดยอันดับ 1 ความบกพร่องของร่างกายเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันกีฬาสูงสุด ซึ่งหมายถึงความบกพร่องด้านร่างกายบริเวณแขน ขา ช่วงล่าง มือ หัวไหล่ รวมถึงความผิดปกติของสมองที่ทำให้กล้ามเนื้อทั้งร่างกายขยับเขยื้อนลำบากด้วย หลังจากนั้นก็ลดระดับมาเรื่อยๆ ในหมวด S4 ของฆวนนั้นหมายถึงบุคคลผู้สูญเสียอวัยวะแต่ร่างกายหลายส่วนยังทำงานได้ปกติ ทั้งนี้ทั้งนั้นนี่เป็นเพียงการอธิบายอย่างง่ายเท่านั้น เกณฑ์การแบ่งมีความซับซ้อนไปจนถึงรากฐานวิทยาศาสตร์มากกว่านี้

อีกหนึ่งมุมที่แสดงให้เห็นท่าทางการว่ายน้ำท่ากรรเชียงของ Juan Ignacio Reyes / ภาพ: Portal Diaro

     ในระดับประเทศฆวนถือเป็นนักว่ายน้ำที่ก้าวขึ้นมาเป็นความหวังใหม่ของเม็กซิโกตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อเขาก้าวขึ้นมาเป็นนักกีฬาว่ายน้ำระดับเยาวชนเขาคือซูเปอร์สตาร์ในวงการอย่างรวดเร็ว ปี 1998 เขาสร้างชื่อระดับโลกครั้งแรกในรายการแข่งขันว่ายน้ำชิงแชมป์โลก หนุ่มวัย 17 ปีผู้เชี่ยวชาญท่ากรรเชียงทะยานคว้าแชมป์โลกสมัยแรกให้กับตัวเองได้สำเร็จ ณ เมือง ไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ ประเดิมเหรียญรางวัลใหญ่ครั้งแรกและเปิดเส้นทางการเป็นตำนานนักว่ายน้ำให้กับตัวเองอย่างสวยงาม

ภาพใต้น้ำระหว่างการฝึกซ้อมของ Juan Ignacio Reyes / ภาพ: Alchetron

     ปี 2000 ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย แผ่นดินเพื่อนบ้านที่ฆวนเคยไปคว้าชัยมา พาราลิมปิกครั้งแรกของหนุ่มเม็กซิกันจากเมืองหลวงได้รับการจับตามองว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงและมีโอกาสคว้าชัยในการแข่งขันประเภท S4 ท่ากรรเชียงระยะ 50 เมตร ซึ่งฆวนมาในฐานะเต็งจ๋าควบดีกรีแชมป์โลก และแล้วเขาก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง ฆวนว่ายแตะขอบสระเป็นคนแรกคว้าเหรียญทองพาราลิมปิกเหรียญแรกได้สำเร็จ นอกจากนี้ในรายการท่าผสม 150 เมตรเขายังคว้าเหรียญทองเช่นกัน เท่ากับว่าเขาเปิดตัวในพาราลิมปิกด้วย 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงินกับอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น!

Juan Ignacio Reyes ในการแข่งขันพาราลิมปิกปี 2004 ณ กรุงเอเธนส์ / ภาพ: El Siglo de Torreón

     เขาคือดาวเด่นระดับทวีปที่ทุกคนยำเกรงใจความปราดเปรียวบนผิวน้ำ ทั้งรายการพาราแพนและรายการชิงแชมป์โลกเขาคือตัวเต็งในท่ากรรเชียงระยะสั้นเสมอ ปี 2002 ก็กวาดแชมป์โลกไปถึง 3 รายการ และในพาราแพนเกมส์ก็กวาดไปอีก 3 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน เดินทางมาถึงพาราลิมปิกครั้งที่ 2 ในชีวิต ณ กรุงเอเธนส์ปี 2004 เขาก็รักษามาตรฐานคว้าเหรียญทองไปได้ในประเภทเดิมและคว้าเหรียญเงินในท่าผีเสื้อเพิ่มเติม หลังจากนั้นเขาก็ยังคงพัฒนาตัวอย่างต่อเนื่องคว้าเหรียญเป็นกอบเป็นกำโดยเฉพาะในปี 2006 ที่สามารถกวาดไปได้อีก 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงินในรายการชิงแชมป์โลก เรียกว่าในประเภท  S4 ท่ากรรเชียงเขาคือเจ้าสระอย่างแท้จริง

Juan Ignacio Reyes ขึ้นรับเหรียญทองในพาราลิมปิกปี 2012 ณ กรุงลอนดอน / ภาพ: Alchetron

     เดินทางมาถึงปี 2008 พาราลิมปิก ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ฆวนในวัย 27 ปีอยู่ในช่วงอายุที่พีคสุดขีดสำหรับนักกีฬา และเหมือนเดิมเขาว่ามาในฐานะตัวเต็งของรายการ เขาไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังคว้าเหรียญทองไปได้ตามคาด แต่สิ่งที่ทำเอาทุกคนตกใจคือฆวนทำลายสถิติโลกด้วยเวลา 42.71 วินาที เขาขึ้นแท่นกลายเป็นตำนานแห่งพาราลิมปิกไปอย่างมีข้อกังขาใดๆ หลังจากนั้นเขาก็ตอกย้ำความสำเร็จได้ด้วยอีกหนึ่งเหรียญทองจากลอนดอนเกมส์ปี 2012 และแชมป์โลกในปี 2013

Juan Ignacio Reyes ขณะกำลังเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันพาราลิมปิกครั้งสุดท้ายในชีวิตที่กรุงริโอ เด จาเนโร / ภาพ: Paralympics

     เขายังคงลงแข่งว่ายน้ำอย่างต่อเนื่องแม้อายุจะเริ่มเข้าเลข 3 แล้ว แน่นอนว่าผลงานก็ดรอปลงตามอายุ แต่เขาก็ยังรักษามาตรฐานคว้าเหรียญรางวัลในรายการใหญ่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง 3 เหรียญสุดท้ายในชีวิตคือการคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันชิงแชมป์โลกช่วงเดือนกรกฎาคม 2015 ก่อนจะคว้าเหรียญทองแดง 2 เหรียญจากพาราแพนเกมส์ช่วงเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน บันทึกสถิติลงในคลังเหรียญรางวัลได้อย่างสวยงาม ก่อนปี 2016 เขาจะก้าวขึ้นเข้ามาแข่งขันพาราลิมปิกในฐานะตำนานเจ้าสระของประเภท S4 ท่ากรรเชียง ระยะ 50 เมตร แม้เขาจะไม่ได้คว้ารางวัลติดมือไป ทว่าเขาพิสูจน์มาหมดทั้งชีวิตแล้วว่าเขาสุดยอดเพียงใด ไม่ใช่แค่เรื่องการว่ายน้ำแต่การเอาชนะอุปสรรคของชีวิตที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับมวลมนุษยชาติ

ลีลาการคาบเหรียญอันเป็นเอกลักษณ์ของ Juan Ignacio Reyes / ภาพ: Alchetron

     สุดท้ายแม้เขาจะไม่ใช่เจ้าของสถิติโลกคนปัจจุบัน David Smétanine คู่แข่งร่วมอาชีพได้ทำลายสถิติของเขาไปในปี 2009 แต่ฆวนคือตัวอย่างสำคัญที่ทำให้เห็นว่าร่างกายไม่ใช่อุปสรรคต่อการก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดในด้านใดด้านหนึ่ง หากใครเคยท้อ เคยสิ้นหวังกับชีวิต เราอยากให้มองเส้นทางชีวิตของฆวนที่เขาไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา แขน 2 ข้างกับขาซ้ายที่เสียไปเป็นเพียงการขาดหายไปของร่างกาย ซึ่งเขานำสิ่งเหล่านั้นมาเพิ่มพลังด้านจิตใจให้ว่ายน้ำผ่านทุกปัญหาสู่การเป็นเจ้าสระของโลกพาราเกมส์ เขาคือตำนานของโลกใบนี้อย่างแท้จริง “ฆวน อิกนาซิโอ เรเยส กอนซาเลส”

 

ข้อมูล:

paralympics.org

alchetron.com