ย้อนเส้นทาง ‘Jin’ วง ‘BTS’ จากบทบาทศิลปินสู่แบรนด์แอมบาสเดอร์ถึง 4 แบรนด์ในเวลา 3 เดือน!
เจ้าของฉายา ‘World Wide Handsome’ เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถและภาพลักษณ์ที่ทรงพลัง เหล่าแบรนด์ชั้นนำต่างดึงตัวเขาขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์หลังจากเขาออกจากกรมฯ ได้เพียงเวลาไม่นาน
การเป็นที่ยอมรับ การเป็นจุดสนใจ หรือการเป็นหนึ่งในบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกล้วนผ่านการใช้ความมุ่งมั่นและความพยายามมานับไม่ถ้วนเพื่อให้การเดินทางที่สั่งสมมาหลายปีนั้นประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ อุตสาหกรรมแฟชั่นและบันเทิงเองก็เช่นกันที่ผู้คนจะอยู่ได้เพียงต้องผ่านการพิสูจน์มาอย่างช่ำชองแล้วว่าพวกเขาคือบุคคลที่มีความสามารถ เหมาะสมที่จะเป็นหนึ่งในศิลปินหรือบุคคลคุณภาพอย่างแท้จริง ‘Kim Seok-Jin’ หรือ ‘Jin แห่งวง BTS’ ก็เป็นอีกหนึ่งคนในวินาทีนี้ที่ไม่กล่าวถึงคงจะไม่ได้ เพราะตั้งแต่ที่เขาออกจากกรมฯ ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เขาคืออีกหนึ่งศิลปินที่น่าจับตามองมากที่สุด เพราะไม่ใช่แค่เรื่องผลงานเพลงที่อาจซุ่มทำอยู่ ทว่าผลงานด้านอื่นๆ อาทิแฟชั่นและความงามก็โดดเด่นเช่นกัน จนทำให้เขาได้ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ได้ถึง 4 แบรนด์ภายในเวลา 3 เดือนเท่านั้น แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่แลกมาด้วยความสามารถและภาพลักษณ์ของเขาทั้งสิ้น
บีทีเอสคือศิลปินบอยแบนด์แห่งประเทศเกาหลีใต้ที่เดบิวต์ตั้งแต่ปี 2013 ประกอบไปด้วยสมาชิกทั้ง 7 คนโดยจินคือพี่ใหญ่ของวง, RM ลีดเดอร์ของวง, Suga, J-hope, Jimin, V และ Jung Kook พวกเขาผ่านคำครหามานับไม่ถ้วนกว่าจะมาถึงจุดที่ผู้คนแหละแฟนๆ สามารถเรียกพวกเขาได้อย่างเต็มปากว่า “ศิลปินระดับโลก” ด้วยผลงานเพลงที่โด่งดังอย่าง ‘Dynamite’, ‘Butter’ หรือ ‘Permission to Dance’ ที่ได้ปล่อยออกมาให้แฟนๆ ได้ฟังกัน การันตีด้วยการพาเพลงดังกล่าวขึ้นสู่อันดับ 1 บนชาร์ตบิลบอร์ด เรื่อยไปจนถึงการคว้ารางวัลของพวกเขาในสาขา 'Group of the Year' บนเวที MTV Video Music Awards สี่ปีติดต่อกันตั้งแต่ปี 2019-2022 กลายเป็นศิลปินกลุ่มที่ชนะรางวัลนี้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของงาน VMAs ด้วยผลงานเหล่านี้ยิ่งทวีคูณความโด่งดังของพวกเขาไม่จบสิ้น และต่อมาบีทีเอสมีโอกาสได้ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Louis Vuitton ในปี 2021 ก่อนที่ทั้ง 7 คนจะแยกย้ายกันไปทำผลงานเดี่ยวเนื่องจากการเข้ากรมฯ ของพวกเขานั้นมีเวลาเข้าและออกไม่ตรงกัน
จินคือสมาชิกคนแรกที่ได้เข้ากรมฯ และออกมาก่อนเนื่องจากปลายปี 2022 เขามีอายุครบ 30 ปีพอดี ทำให้ตอนนี้จินได้มีโอกาสกลับมาเฉิดฉายในแวดวงบันเทิงอีกครั้งหลังจากหายหน้าคร่าตาไปเกือบ 2 ปี แน่นอนว่าเมื่อเขาออกจากกรมฯ ช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเขาก็ได้เซอร์ไพรส์แฟนๆ อย่างต่อเนื่อง หากแต่ไม่ใช่เพียงเรื่องผลงานเพลงหรือการเป็นตัวแทนจากประเทศเกาหลีใต้เพื่อถือคบเพลิงในพิธีเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกประจำปี 2024 ณ กรุงปารีส เท่านั้น ทว่าเหล่าแบรนด์ชั้นนำต่างดึงตัวเขาให้ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์กันถ้วนหน้าอย่างต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แบรนด์จิวเวลรีเก่าแก่สัญชาติฝรั่งเศส ‘FRED’ แต่งตั้งให้จินเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกคนแรก เนื่องด้วยจินเป็นศิลปินที่มีพลังอันโดดเด่น และมีความสามารถทางศิลปะการดนตรี ทั้งยังเป็นบุคคลที่เป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ ปัจจัยเหล่านี้จึงผลักดันให้จินก้าวไปสู่ความเป็นสำเร็จอย่างต่อเนื่อง หนึ่งเดือนต่อมาแบรนด์ที่สองจากวงการแฟชั่นอย่าง ‘GUCCI’ แบรนด์สัญชาติอิตาเลียนได้เลือกจินเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่ง Sabato De Sarno ผู้กุมบังเหียนของแบรนด์ได้กล่าวไว้ว่า “บุคลิกที่อบอุ่นและดูใจดีของจิน รวมถึงพรสวรรค์ด้านดนตรีและสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ทำให้ผู้คนล้วนติดตามและชื่นชม พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเดินทางกับจินในครั้งนี้”
WATCH
ภาพ: Courtesy of LANEIGE
หลังจากนั้นช่วงปลายเดือนสิงหาคมจินไม่ได้เพียงแค่โดดเด่นในวงการแฟชั่นเท่านั้น แต่เขายังถูกรับเลือกให้เป็นทูตการท่องเที่ยวกิตติมศักดิ์ของกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ประจำปี 2024 โดยมีการเขียนข้อความบนป้ายแบนเนอร์ที่ชัดเจนว่า “JIN OF BTS | THE HONORARY TOURISM AMBASSADOR OF SEOUL” ซึ่งก่อนหน้านี้วงบีทีเอสได้รับการแต่งตั้งเป็นทูตการท่องเที่ยวกิตติมศักดิ์ของกรุงโซลเป็นเวลา 6 ปีติดต่อกันในปี 2017-2022 อีกด้วย ก่อนจะปิดท้ายไปช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมากับแวดวงความงามที่จินก็ถูกรับเลือกให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ ‘LANEIGE’ ที่มีการทยอยปล่อยภาพและวิดีโอของเขาที่เข้าร่วมแคมเปญแบรนด์ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาถือเป็นปรากฏการณ์อันน่าทึ่งที่แฟนๆ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน้อยคนมากที่จะทำได้เช่นนี้
จากเส้นทางของเด็กหนุ่มผู้มีความมุ่งมั่นด้านดนตรีและการเป็นศิลปิน สู่การเป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพลระดับโลกที่สามารถสร้างมูลค่าให้แก่เหล่าแบรนด์ชั้นนำอย่างมหาศาล ทำให้แฟนๆ หรือแม้แต่ผู้เขียนเองก็อดคิดไม่ได้ว่านี่อาจจะไม่ใช่จุดสูงสุดของการประสบความสำเร็จทั้งหมดทั้งมวลที่จินตั้งใจไว้ เพราะนี่อาจเป็นเพียงก้าวแรกที่จินชิมลางในฐานะศิลปินเดี่ยวหลังจากที่ก่อนหน้านี้มีผลงานร่วมกับวงมาอย่างยาวนาน ไม่แน่ว่าในอนาคตไม่ช้าก็เร็วจินอาจจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ เพื่อให้โลกนี้รู้จัก ‘จิน’ และ ‘บีทีเอส’ มากยิ่งขึ้นก็เป็นได้ เพราะเชื่อว่าเขาและสมาชิกอีกทั้ง 6 คนจะไม่หยุดความโด่งดังไว้เท่านี้แน่นอน
ภาพ : Courtesy of FRED, Courtesy of GUCCI และ Courtesy of LANEIGE
WATCH