วินาทีนี้คงยากจริงๆ ที่จะเมินศิลปินสาวสุดฮอตอย่าง ‘เจนนี่ แห่งวง Blackpink’ ไปได้ เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสายตาของทั้งโลกจับจ้องมาที่เธอคนนี้แทบจะทั้งหมดในช่วง1-2 ปีให้หลังมานี้ ที่นอกจากเจนนี่จะนำเสนอความเป็นตัวเองในบทบาทการเป็นศิลปินกับเพื่อนร่วมวงอย่าง จีซู โรเซ่ และลิซ่าแล้ว การเป็นนักแสดงก็เป็นสิ่งที่เจนนี่ได้ลองชิมลางครั้งใหม่ในซีรี่ส์ “The Idol” ที่อยู่ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในตอนนี้ ทั้งนี้อีกหนึ่งบทบาทของเธอยังเป็นแฟชั่นไอคอนที่ใครก็ต่างให้ความสนใจอีกด้วย

 

     เจนนี่เริ่มก้าวเข้าสู่เส้นทางสายแฟชั่นอย่างเต็มตัวเมื่อเธอได้รับการแต่งตั้งเป็น House Ambassador ของ Chanel เมื่อปี 2019 อย่างเป็นทางการหลังจากที่ Karl Lagerfeld ผู้กุมบังเหียนของแบรนด์ได้จากไปแบบไม่หวนคืน เธอจึงได้ปรากฏตัวตามงานต่างๆ อยู่บ่อยครั้งด้วยโททัลลุคของชาเนลอันเลอค่าและสง่างาม อย่างเช่นงาน Met Gala ประจำปี 2023 ที่เจนนี่สวมชุดเดรสสีขาววินเทจคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ปี 1990 จากชาเนล โดดเด่นด้วยการประดับดอกคามิลเลียกลางชุด หรือจะย้อนไปเมื่อปี 2022 กับลุคสุดไวรัลอย่างชุดกระโปรงสั้นไหล่ปาดเฉียง สวมทับด้วยเสื้อคลุมผ้าแคชเมียร์พิมพ์ลายโลโก้แบรนด์อันเป็นเอกลักษณ์ เมื่อเจนนี่ปรากฏตัวที่ปารีสแฟชั่นวีกในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ชาเนล เพื่อร่วมชมโชว์คอลเล็กชั่นเรดี้ทูแวร์ฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ประจำปี 2023 จนทำให้ไอเท็มอย่างกิ๊บติดผมดอกคามิลเลียบนศีรษะของเจนนี่กลายเป็นไอเท็มที่ผู้คนต่างอยากมาประดับบ้าง เรียกได้ว่าเจนนี่ทำให้ไอเท็มนี้ไวรัลไปชั่วข้ามคืนและเหล่าสาวกต่างหยิบเทรนด์นี้มาแต่งตามเจนนี่กันทั้งสิ้น และการรังสรรค์ลุคเช่นนี้สามารถบ่งบอกความเป็นตัวตนของเธอได้ดีที่สุดจนกล่าวได้ว่าต่อให้ใครมาแต่งตัวเหมือนเจนนี่ ก็ยังไม่ลงตัวเท่าเธอ หรือถ้าให้เจนนี่ไปแต่งตัวเหมือนใคร มันก็ไม่สามารถลบความเป็นเจนนี่ออกไปได้เช่นกัน นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้แบรนด์ลักชัวรีอย่างชาเนลเลือกเธอคนนี้ไปเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ได้อย่างง่ายดาย

 

Jennie แห่งวง Blackpink บนแคมเปญใหม่ล่าสุดที่เธอได้ร่วมออกแบบคอลเล็กชั่นใหม่กับ Calvin Klein ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ / ภาพ: Calvin Klein

     นอกจากเจนนี่จะนำเสนอภาพลักษณ์ความเรียบหรูไว้ได้แล้ว เธอยังนำเสนอความเปรี้ยวเท่อย่างการเป็นอีกหนึ่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Calvin Klein ตั้งแต่ปี 2021 ที่ผ่านมา ทั้งนี้เธอยังมีโอกาสได้ออกแบบคอลเล็กชั่นใหม่ในแคมเปญล่าสุดของแบรนด์ “Jennie for Calvin Klein” อีกด้วย อาทิ การนำบรามาแมตช์กับกระโปรงสั้นตัวเล็ก ชุดมินิเดรสรัดรูป หรือแม้แต่ชั้นในสุดเซ็กซี่แต่คงความน่ารักด้วยสีสันพาสเทล เพื่ออ้างถึงสไตล์เฉพาะของเจนนี่จนเป็นผลงานสุดสร้างสรรค์ที่สะท้อนถึงตัวตนของเธอและความเป็นคาลวินไคลน์ที่ยังมีความสปอร์ตแต่ก็เคล้าความเซ็กซี่ได้แบบพอดิบพอดี แต่ก็ต้องยอมรับว่านอกจากดีไซน์ที่เตะตาแล้ว ศิลปินหญิงคนนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลงานดังกล่าวได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามจนขายหมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็วเช่นนี้

 

    Jennie แห่งวง Blackpink กับผลงานแว่นตาที่ร่วมคอแลบอเรชั่นกับ Gentle Monster / ภาพ: Teen Vogue

     แบรนด์แฟชั่นคงไม่หมดเพียงเท่านี้ที่เจนนี่ได้ร่วมงานด้วย เพราะแบรนด์แฟชั่นไอเท็มชั้นนำอย่างแว่นตา “Gentle Monster” ก็ได้จีบเธอไปร่วมคอแลบอเรชั่นในปี 2019 ด้วยการรังสรรค์ผลงานขึ้นเป็นไอเท็มชิ้นพิเศษเพื่อบ่งบอกความเก๋และความมีสไตล์ อย่างเช่นแว่นตากรอบสี่เหลี่ยมที่มีสีสันให้เลือกมากมายทั้งสีพื้นอาทิสีดำ หรือสีเลนส์จัดจ้านอย่างสีเหลือง สีชมพู และแว่นตาแคตอายทรงกรอบสี่เหลี่ยมที่โดดเด่นด้วยสีพื้นอย่างสีดำ หรือกรอบและเลนส์ที่มีสีสันสดใสเพื่อให้เหล่าสาวกได้เข้าถึงตัวตนของเจนนี่ว่าเธอเป็นคนที่คงความเซ็กซี่ทว่าก็นำเสนอความสดใสไปพร้อมกัน ทั้งนี้ยังถ่ายทอดถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้ว่ามีความร่วมสมัยและนำเทรนด์ให้ทันกระแส ณ ช่วงเวลานั้น และเมื่อแว่นตาที่เจนนี่ออกแบบได้ปล่อยออกมาก็ทำเอาเว็บไซต์สั่งซื้อของแบรนด์ล่มเลยทีเดียวเพราะแฟนๆ ต่างรอครอบครองมาเป็นเจ้าของกันถ้วนหน้า

 

Jennie แห่งวง Blackpink / ภาพ: NME

     จากทั้งหมดที่เอ่ยถึงมานั้นก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เจนนี่ แห่งวง Blackpink คืออีกหนึ่งผู้ทรงอิทธิพลในโลกแฟชั่น เพราะไม่ว่าจะหยิบจับสิ่งใดผู้คนก็ให้ความสนใจและให้การตอบรับที่ดีเสมอ และทุกอย่างที่ถ่ายทอดออกมานั้นคืออยู่ในร่าง “เจนนี่ คิม” คนนี้เพียงผู้เดียว ทั้งยังเป็นต้นแบบที่ดีในการนำเสนอภาพลักษณ์ของตัวตนที่หลากหลายจนอาจกล่าวได้ว่าเธอคือผู้หล่อหลอมแนวทางแฟชั่นในอุตสาหกรรมแห่งนี้อย่างแท้จริง ไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้เจนนี่จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ไว้ในโลกแฟชั่นอีกก็เป็นได้ เหล่าแฟนๆ เตรียมจับตามองอย่างใกล้ชิด