ตัวตนของ 5 ตัวละครที่ถูกจารึกลงบนเสื้อแจ็กเก็ตสุดคลาสสิกในโลกภาพยนตร์
หลายครั้งที่ในโลกภาพยนตร์ให้แจ็กเก็ตทำหน้าที่บอกเล่าและจารึกตัวตนของตัวละครที่สวมใส่ให้ผู้ชมได้รับรู้
ด้วยเหตุผลด้านสภาพอากาศทำให้ ‘เสื้อแจ็กเก็ต’ อาจจะเป็นไอเท็มที่ไม่ได้รับความนิยมมากนักในบ้านเรา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกครั้งที่ดูภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดและมีซีนที่ตัวละครใส่แจ็กเก็ตปรากฏตัวก็อดชื่นชมในความเท่ไม่ได้ จนอยากจะหามาครอบครองสักตัวอยู่ร่ำไป อย่างไรก็ตามไม่ใช่เหตุผลด้านความเท่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะหลายครั้งในโลกภาพยนตร์ที่แจ็กเก็ตทำหน้าที่บอกเล่าและจารึกตัวตนของตัวละครที่สวมใส่ให้ผู้ชมได้รับรู้ โดยไม่ต้องอาศัยบทสนทนาใดๆ ดั่งเช่นแจ็กเก็ตทั้ง 5 ตัวของทั้ง 5 ตัวละครที่หยิบยกมากล่าวถึงในบทความนี้
ภาพ: Guim
Fight Club (1999)
“ทุกสิ่งที่นายหวังว่านายอยากจะเป็นมันคือฉัน ฉันดูเหมือนคนที่นายอยากเป็น ฉันมีเซ็กส์เหมือนที่นายอยากมี ฉันฉลาดเหมือนที่นายหวังว่าจะทำได้ และที่สำคัญคือฉันมีอิสระในแบบที่นายไม่มีวันมี” หนึ่งในประโยคอมตะของตัวละคร Tyler Durden จากภาพยนตร์เรื่อง Fight Club ที่ยังตราตรึงหัวใจผู้ชมมาจนถึงทุกวันนี้ ถ้าใครยังไม่เคยรับชมภาพยนตร์เรื่อง Fight Club มาก่อน เราขอแนะนำให้ข้ามไปยังเสื้อแจ็กเก็ตตัวต่อไปได้เลย เพราะหลังจากนี้คือการสปอยล์ล้วนๆ
หากใครเคยดู Fight Club คงจะทราบกันอยู่แล้วว่าตัวละคร Tyler Durden ที่นำแสดงโดย Brad Pitt นั้นเป็นเพียงจินตนาการที่ตัวเอกนิรนาม หรือที่ทุกคนเรียกเขาว่า The Narrator (ผู้บรรยาย) ซึ่งนำแสดงโดย Edward Norton สร้างขึ้นมาเท่านั้น โดย The Narrator ประกอบอาชีพเป็นเซลล์แมนขายสบู่ เขารู้สึกว่าชีวิตของตัวเองมันช่างน่าเบื่อหน่าย ซังกะตาย ไร้สีสันโดยสิ้นเชิง จิตใต้สำนึกของเขาจึงสร้าง Tyler Durden หนุ่มผู้มีชีวิตเต็มไปด้วยสีสัน ความบ้าบิ่น และเฉลียวฉลาดขึ้นมาอันเป็นภาพสะท้อนในสิ่งที่ The Narrator อยากเป็นแต่ไม่สามารถเป็นได้
เช่นเดียวกับการที่ Tyler สวมแจ็กเก็ตหนังสีแดงสด ตัดเย็บแบบอิตาเลียนสไตล์ทศวรรษ 70 ที่ต่อให้อยู่ในระยะ 100 เมตรก็ยังดูโดดเด่น นั่นก็เพราะนี่คือสิ่งที่ The Narrator ต้องการ แต่ไม่มีความกล้าหาญพอที่จะทำมันในชีวิตจริง ดังนั้นแจ็กเก็ตสีแดงที่ออกแบบโดย Jonathan Logan ดีไซเนอร์ผู้คร่ำหวอดในวงการภาพยนตร์มาอย่างยาวนานตัวนี้จึงมีค่ามากกว่าการเป็น “อุปกรณ์ประกอบฉาก” แต่เป็นภาพสะท้อนของตัวละครที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยบทสนทนาใดๆ
ภาพ: Amazon
Taxi Driver (1975)
นอกจากสุดยอดการแสดงของ Robert De Niro โดยเฉพาะฉากยืนคุยกับเงาสะท้อนตัวเองในกระจกพร้อมประโยค “You talkin’ to me?” ในตำนาน กับทรงผมโมฮ็อกของตัวละคร Travis Bickle แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ชมภาพยนตร์มาสเตอร์พีซเรื่อง Taxi Driver ของผู้กำกับ Martin Scorsese จากปี 1976 น่าจะจดจำได้เป็นอย่างดีคือเสื้อแจ็กเก็ตทหาร หรือที่เรียกกันว่าฟีลด์แจ็กเก็ตรุ่น M-65 ตัวนี้นี่ล่ะ
แน่นอนว่าการที่ Scorsese เลือกแจ็กเก็ตตัวนี้เป็นอุปกรณ์ประกอบฉาก เหตุผลย่อมไม่ใช่แค่เรื่องของความเท่ แต่นี่คือเครื่องแต่งกายที่สะท้อนตัวตนที่ถูกกักขังอยู่ภายในจิตใจของตัวละคร Travis ได้ดีที่สุด ซึ่งก่อนที่เขาจะกลายเป็นคนขับแท็กซี่ ใช้ชีวิตเคล้ากลิ่นราตรีอันเปลี่ยวเหงาและโสมมของมหานครนิวยอร์ก Travis เคยเป็นทหารที่ผ่านสมรภูมิสงครามเวียดนามมาก่อน ทว่าโชคร้ายที่ถึงแม้ตัวเขาจะรอดชีวิตมาได้ แต่จิตใจของเขากลับตายไปแล้วในสงครามครั้งนั้น
ดังนั้นแจ็กเก็ต M-65 ถือเป็นเครื่องแต่งกายยอดฮิตของเหล่าทหารอเมริกันในสงครามเวียดนามจึงเปรียบเสมือนสัญลักษณ์แทนจิตใจที่แหลกสลายของ Travis ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นมาทำบางอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดในช่วงท้ายของเรื่อง แต่ที่แน่ๆ ผู้ที่เคยได้ชมภาพยนตร์เรื่อง Taxi Driver ไม่มีทางลืมแจ็กเก็ตตัวนี้อย่างแน่นอน
WATCH
ภาพ: Amazon
Rebel Without a Cause (1955)
การที่ James Dean ตำนานนักแสดงและแฟชั่นไอคอนตลอดกาลด่วนจากโลกไปตามตำรา “Live Fast Die Young” ในวัยเพียง 24 ปี ทำให้ภาพของเขาที่ผู้คนจดจำได้มีไม่มากนัก แต่หนึ่งในนั้นก็ต้องมีภาพในบทบาท Jim Stark จากภาพยนตร์เรื่อง Rebel Without a Cause (1955) ที่เขาสวมใส่เสื้อแจ็กเก็ตแฮร์ริงตันยี่ห้อ Bud Burma สีแดงสดอยู่ด้วยอย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะในชีวิตจริงหรือโลกภาพยนตร์ James Dean คือสัญลักษณ์แห่งความขบถ เป็นตัวแทนของคนธรรมดาที่ลุกขึ้นมาทำบางอย่างเพื่อบอกว่าสิ่งที่เป็นอยู่ในสังคมไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะบทบาทของเขาในภาพยนตร์เรื่อง Rebel Without a Cause ก็ยิ่งสะท้อนเรื่องนี้ออกมาอย่างชัดเจน ดังนั้นในทศวรรษ 50 ที่ผู้ชายอเมริกันส่วนใหญ่แต่งตัวด้วยเสื้อที่มีกระดุม การที่ตัวละคร Jim Stark ลุกขึ้นมาสวมเสื้อยืดทับด้วยแจ็กเก็ตสีแดงสดจึงเป็นการแสดงออกถึงความขบถที่มีต่อสังคมได้เป็นอย่างดี
หลังจาก Rebel Without a Cause ปิดกล้องลง Dean เองก็เหมือนจะถูกใจเสื้อแจ็กเก็ตตัวนี้เอามากๆ ถึงขั้นที่หยิบติดมือกลับบ้านกลายเป็นสมบัติส่วนตัวไปเสียอย่างนั้น และหลังจากที่เขาเสียชีวิตลง มันก็ได้กลายเป็นไอเท็มระดับอมตะขึ้นหิ้งที่ใครๆ ก็อยากได้ไปครอบครอง โดยในปี 2018 ที่ผ่านมามีผู้ประมูลไปในราคากว่า 770,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 22 ล้านบาทเลยทีเดียว
ภาพ: Amazon
Drive (2011)
อาจจะเพราะภาพยนตร์เรื่อง Drive เข้าฉายในโรงภาพยนตร์เมื่อปี 2011 ซึ่งถือว่าค่อนข้างใหม่มากถ้าเทียบกับภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ในลิสต์นี้ จึงอาจทำให้บอมเบอร์แจ็กเก็ตผ้าซาตินสีขาวทอง มีลวดลายแมงป่องอยู่ด้านหลัง ซึ่งถูกสวมใส่โดยตัวละคร “The Driver” ที่รับบทโดย Ryan Gosling ดูยังไม่คลาสสิกเท่ากับแจ็กเก็ตตัวอื่นๆ ในลิสต์ ทว่าในแง่ความหมาย นี่อาจจะเป็นหนึ่งในเสื้อผ้าที่ซ่อนความหมายลึกซึ้งที่สุดในโลกภาพยนตร์ก็เป็นได้
แน่นอนว่าประเด็นสำคัญของแจ็กเก็ตตัวนี้คือลวดลายแมงป่องที่อยู่ข้างหลัง ซึ่งผู้กำกับ Nicolas Winding Refn ก็ไม่ได้ใจร้ายจนเกินไป เพราะในช่วงท้ายของเรื่องเขาได้ทิ้งคำใบ้สำคัญให้ผู้ชมได้เก็บไปขบคิด
“นายเคยได้ยินนิทานเรื่องกบกับแมงป่องหรือเปล่า? Nino เพื่อนของนายไม่สามารถข้ามแม่น้ำไปได้นะ” กล่าวโดย The Driver
เบาะแสทั้งหมดมีเพียงเท่านี้ แต่ถ้านำข้อมูลดังกล่าวไปสืบค้นเพิ่มเติมก็จะได้รับรู้เรื่องราวนิทานกบกับแมงป่องซึ่งมีเนื้อหาว่า…กาลครั้งหนึ่งมีกบกับแมงป่องยืนเผชิญหน้ากับแม่น้ำที่กำลังไหลเชี่ยว ในตอนนั้นเองแมงป่องก็เอ่ยถามกบว่า
“นายช่วยแบกฉันขึ้นหลัง พาข้ามแม่น้ำไปหน่อยสิ”
“ไม่เอาหรอก เดี๋ยวตอนที่ฉันแบกนาย นายก็ฉกฉันจนตายแน่”
“ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอก ถ้าฉันทำแบบนั้นฉันก็ต้องจมน้ำไปด้วยน่ะสิ”
เมื่อได้ฟังเช่นนี้ กบก็รู้สึกคล้อยตาม และคิดว่าสามารถเชื่อใจแมงป่องได้ เขาจึงยอมตกลงที่จะแบกแมงป่องขึ้นหลังฝ่าสายน้ำไป ทว่าเมื่อถึงกลางแม่น้ำ แมงป่องก็ได้ฉกกบจนถึงแก่ความตาย ก่อนที่ตัวเองจะจมน้ำตายไปด้วย กบถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ แมงป่องตอบกลับมาเพียงสั้นๆ ว่า
“มันเป็นสัญชาตญาณ ฉันห้ามตัวเองไม่ได้”
ตัวละครที่รับบทโดย Ryan Gosling ในเรื่อง Drive ก็เช่นกัน ถึงแม้ว่าตลอดทั้งเรื่องเขาจะพยายามปกป้อง Irene หญิงสาวที่เขาตกหลุมรักสักเพียงใด แต่เขาก็รู้ดีว่าตัวเองไม่ต่างอะไรจากแมงป่อง ที่สักวันจะต้องทำให้คนอื่นเดือดร้อนตามไปด้วย ดังนั้นหนทางที่ดีที่สุดคือการสตาร์ตรถ และขับหนีจากสิ่งที่รักไปให้ไกลที่สุด นอกจากนั้นยังมีอีกกิมมิกเล็กๆ คือ Ryan Gosling เกิดวันที่ 12 พฤศจิกายน ซึ่งก็ตรงกับราศีพิจิกที่มีสัญลักษณ์เป็นแมงป่องด้วยเช่นกัน
ภาพ: Tumblr
Top Gun (1986)
นอกจากชุดทหารอากาศเต็มยศแล้ว อีกหนึ่งลุคของตัวละคร Pete "Maverick" Mitchell ที่รับบทโดย Tom Cruise จากภาพยนตร์เรื่อง Top Gun (1986) ที่เท่และน่าจดจำไม่แพ้กันคือ G-1 Flight Jacket ตัวนี้นี่ล่ะ ซึ่ง G-1 Flight Jacket คือภาพจำสำคัญของเหล่าทหารอากาศอเมริกันจากทศวรรษที่ 80 เนื่องจากมันได้รับความนิยมอย่างสูง ถึงแม้ว่าจุดกำเนิดของแจ็กเก็ตตัวนี้จะมาจากทศวรรษที่ 60 ก็ตาม
G-1 Flight Jacket มีความทะมัดทะแมง คล่องตัวสูง ในขณะเดียวกันก็ดูไม่เป็นทางการจนเกินไป นอกจากนั้นยังมีจุดเด่นเรื่องความทนทานจากการถักทอด้วยหนังแพะ และมีการใส่แพตช์ลงไปมากกว่า 17 ชิ้น และในภาพยนตร์ภาคต่อเรื่อง Top Gun: Maverick แจ็กเก็ตตัวนี้ยังคงเป็นไอเท็มชิ้นสำคัญคู่กาย Pete "Maverick" Mitchell เช่นเดียวกับที่มันตราตรึงในความทรงจำผู้ชมอย่างไม่เสื่อมคลาย
เรียบเรียง : Ramita Naungtongnim
WATCH