เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่ากระเป๋าแบรนด์เนมมีราคาสูงจากองค์ประกอบหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชื่อแบรนด์ ดีไซเนอร์ อีกทั้งยังมาพร้อมกับคุณภาพ และมักใช้วัสดุที่หรูหราด้วย เพราะฉะนั้นหากเมื่อลงทุนซื้อกระเป๋าแบรนด์แล้วก็ควรดูแลรักษาอย่างถูกวิธี ซึ่งการทำความสะอาดกระเป๋าถือเป็นวิธีที่จะช่วยรักษากระเป๋าให้อยู่ในสภาพดีตลอดเวลา เพราะเมื่อเวลาผ่านไปทั้งสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง และคราบต่างๆ จะสะสมทั้งภายในและภายนอกกระเป๋า รวมไปถึงน้ำมันจากผิวหนังของคนเราก็มีส่วนทำให้วัสดุ เสื่อมสภาพได้ด้วย วันนี้โว้กจึงจะมาแนะนำวิธีทำความสะอาดกระเป๋าแบรนด์หรูที่ถูกต้อง ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน

1. การทำความสะอาดภายในกระเป๋า
เริ่มจากนำสิ่งของในกระเป๋าออกทั้งหมดและพลิกกระเป๋าคว่ำลงเพื่อกำจัดเศษขยะ จากนั้นดึงเป็นซับด้านในออกมาแล้วใช้ลูกกลิ้งเก็บฝุ่นเพื่อขจัดสิ่งสกปรกหรือฝุ่นละอองอื่นๆ ทั้งนี้หากภายในกระเป๋าไม่มีซับในที่ไม่สามารถกลับเอาด้านในออกได้ แนะนำให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กพร้อมหัวแปรงเพื่อขจัดเศษผงที่อาจมองไม่เห็น

2. การทำความสะอาดกระเป๋าภายนอก
เมื่อเวลาผ่านไปด้านนอกของกระเป๋าจะมีสิ่งสกปรกและฝุ่นละอองเกาะจนกลายเป็นคราบสะสม ซึ่งวิธีการทำความสะอาดภายนอกกระเป๋านั้นจะแตกต่างกันไปตามวัสดุที่ใช้ทำกระเป๋า ดังนี้
- กระเป๋าหนัง: ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อกระเป๋าทำจากหนัง แนะนำให้เช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าที่ปราศจากน้ำหอมและแอลกอฮอล์ เช่น ผ้าเช็ดหนังโดยเฉพาะ หรือผ้าเช็ดทำความสะอาดสำหรับเด็ก ซึ่งสามารถขจัดสิ่งสกปรกออกได้โดยไม่ทำให้หนังแห้ง หรือฉีดน้ำยาทำความสะอาดหนังลงบนผ้าไมโครไฟเบอร์แล้วใช้เช็ดทำความสะอาดกระเป๋า จากนั้นใช้ครีมเคลือบหนัง (Leather Conditioner) เพื่อให้หนังชุ่มชื้นและป้องกันการแตกร้าว
- กระเป๋าผ้า: การทำความสะอาดกระเป๋าผ้าประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผ้าใบ ผ้าทวีด ผ้าเจอร์ซีย์ และผ้าซาติน ให้ใช้ลูกกลิ้งเก็บฝุ่นและแหนบ ค่อยๆ ขจัดสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง และเศษผงที่ติดอยู่บนผ้า หากเห็นร่องรอยเลอะ ให้ฉีด Oxiclean (น้ำยาขจัดคราบอเนกประสงค์) ลงบนผ้า แล้วเช็ดทำความสะอาดรอยนั้นเบาๆ ทั้งนี้ไม่แนะนำให้ใช้ Oxiclean กับผ้าซาติน ผ้าไหม หรือผ้าเจอร์ซีย์ที่ไม่ใช่สีดำ เพราะอาจทิ้งคราบน้ำยาทำความสะอาดได้
- กระเป๋าขน หรือ หนังกลับ: การทำความสะอาดกระเป๋าที่ทำจากขนสัตว์หรือหนังกลับ แนะนำให้ใช้แปรงชนิดพิเศษขจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกออกอย่างอ่อนโยน หากมีคราบติดอยู่ให้ใช้แปรงค่อยๆ ขัดออก สำหรับการแปรงขนให้แปรงไปในทิศทางของขน ส่วนหนังกลับให้ค่อยๆ แปรงไปในทิศทางเดียวกัน สุดท้ายทาด้วยครีมเคลือบหนังกลับเพื่อคืนความสดชื่นให้กับวัสดุ

3. การทำความสะอาดฮาร์ดแวร์
แนะนำให้ขัดส่วนฮาร์ดแวร์ต่างๆ ด้วย Baby Wipe หรือผ้าเปียก ทิชชู่เปียก กระดาษเปียก ที่มีความอ่อนโยนแล้วเช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ และถ้าหากฮาร์ดแวร์ดูหมองให้ใช้ Brasso ปริมาณเล็กน้อยป้ายลงบนสำลีเพื่อนำมาขัดเงา ทั้งนี้อย่าลืมใช้ความระมัดระวังในการขัดเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากน้ำยาขัดโลหะอาจทำให้ตัวกระเป๋าเป็นคราบได้

4. ควรทำความสะอาดกระเป๋าบ่อยแค่ไหน
ความถี่ในการทำความสะอาดกระเป๋าขึ้นอยู่กับความถี่ของการใช้งานกระเป๋า หากใช้กระเป๋าทุกวันแนะนำให้ทำความสะอาดทุกสัปดาห์ แต่ถ้าหากใช้งานเป็นครั้งคราว หรือเก็บไว้ในตู้ซะส่วนใหญ่ แนะนำให้นำออกมาทำความสะอาดอย่างน้อย 2-4 ครั้งต่อปี นอกจากนี้ส่วนของหูหิ้ว ฐาน และมุมของกระเป๋ามักจะสึกหรอได้มากที่สุด แนะนำให้ทำความสะอาดส่วนเหล่านี้ของกระเป๋าหลังการใช้งานทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนต่างๆ จะไม่เสื่อมสภาพไปมากกว่าส่วนอื่นๆ ของกระเป๋า

5. เมื่อไหร่ที่ควรส่งกระเป๋าให้ผู้เชี่ยวชาญทำความสะอาด
เมื่อกระเป๋าเกิดคราบบางอย่างที่ยากจะขจัดออกด้วยตัวเอง ดังนั้นเพื่อป้องกันการทำกระเป๋าเสียหายโดยไม่ตั้งใจ การส่งให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทำความสะอาดจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด
- รอยปากกาหรือหมึก: รอยปากกาเป็นคราบที่ยากต่อการขจัดออก การพยายามใช้น้ำยาขัดเช็ดเอาคราบออกเอง อาจทำให้กระเป๋าเกิดความเสียหายได้ ทางที่ดีคือปล่อยไว้อย่างนั้น แล้วส่งให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนจัดการจะดีกว่า
- คราบของเหลว: รอยลิปสติก น้ำยาทาเล็บ หรือลูกอม คราบเหล่านี้ต้องใช้ตัวทำละลายพิเศษ การลองผิดลองถูกโดยหาน้ำยามาเช็ดเอง อาจจะยิ่งทำให้คราบกระจายกว้างมากยิ่งขึ้นได้
- คราบไขมัน: บางครั้งกระเป๋าหนังสีเข้มอาจมีโอกาสเกิดคราบไขมันได้ง่าย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจะมีน้ำยาและเทคนิคเฉพาะในการขจัดคราบออกไปได้อย่างถูกต้อง

กระเป๋าใบนี้ทำที่ไหนกันแน่! เมื่อคำว่า 'Made in Italy' ไม่ได้แปลว่ามาจากประเทศอิตาลีเสมอไป




