เปิดข้อควรรู้ความเหมือนที่แตกต่างระหว่าง 'สูท' และ 'เบลเซอร์'
เราจะมาพาทุกคนไปดูถึงข้อแตกต่างระหว่างสูทและเบลเซอร์ เพื่อสามารถแยกประเภทได้และเลือกสวมใส่ได้อย่างถูกต้อง
ในปัจจุบันสไตล์การแต่งตัวได้เกิดขึ้นมากมายให้เลือกรังสรรค์ลุคในแต่ละวันเพื่อให้เหมาะสมกับโอกาสและกาลเทศะ หนึ่งในนั้นคือ "สูท" และ "เบลเซอร์" ที่ต้องบอกเลยว่าผู้คนเลือกมาสวมใส่มากที่สุด หลายคนคงคิดว่าเสื้อทั้งสองแบบนี้เป็นสิ่งเดียวกันแต่แค่มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันเฉยๆ แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วสูทกับเบลเซอร์เป็นเสื้อผ้าคนละชนิดกัน ถึงแม้จะมีลักษณะที่คล้ายกันมากก็ตาม วันนี้เราจะมาพาทุกคนไปดูถึงข้อแตกต่างระหว่างสูทและเบลเซอร์ เพื่อครั้งหน้าจะได้สามารถแยกประเภทได้และเลือกสวมได้อย่างถูกต้อง
ภาพจากโชว์คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง 2006 แบรนด์ Ralph Lauren
เริ่มต้นกันที่สูทเป็นเครื่องแต่งกายแบบทางการที่ถูกยอมรับในสากล การจะใส่เสื้อสูทต้องใส่คู่กับกางเกงที่มีเนื้อผ้าและสีที่เหมือนกันเสมอ เป็นสีที่เรียบๆ ไม่ฉูดฉาดและไม่มีลวดลาย รูปทรงของเสื้อสูทและกางเกงมักเข้ารูปให้เข้ากับสัดส่วนมากที่สุด เนื้อผ้าที่ใช้กับการตัดสูทมักจะเป็นผ้าวูล ผ้าฝ้าย ผ้าไหม และผ้าแคชเมียร์ ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าที่มีเนื้อการทอที่ละเอียด มีความมันเงาเล็กน้อย เสื้อสูทจึงเหมาะเป็นชุดที่ไว้ใส่สำหรับออกงานอย่างเป็นทางการ ทำให้เห็นถึงความสุภาพเรียบร้อย
ภาพ: Getty Image
มาต่อกันที่เบลเซอร์เป็นเสื้อผ้าที่ออกแบบมาใส่คลุมในชีวิตประจำวันคล้ายๆ กับเสื้อแจ็กเก็ต สามารถใส่กับเสื้อผ้าหรือกางเกงแบบใดก็ได้ตามความเหมาะสม รูปทรงไม่จำเป็นต้องเข้ารูปเสมอไป เน้นสวมใส่สบายบางทีอาจจะเป็นทรงหลวมโคร่ง เบลเซอร์ส่วนใหญ่จะมีสีสันให้เลือกใส่มากมายแต่ส่วนมากจะไม่มีลวดลายเช่นเดียวกัน เนื้อผ้าที่ใช้จะเป็นผ้าที่ไม่ต้องเน้นความละเอียดในการทอมาก เช่น ผ้าทวีต ผ้าเดนิม เป็นต้น เสื้อเบลเซอร์เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแต่งตัวให้เรียบร้อยแต่ไม่อยากทางการมากจนเกินไป เน้นใส่สบายแต่ก็ยังมีความสุภาพอยู่
จากที่กล่าวมาทั้งหมดจึงสรุปได้ว่าเสื้อสูทนั้นจะเป็นต้องเป็นเสื้อที่ใส่เข้าคู่กับกางเกง มีความเข้ารูป และเนื้อผ้าละเอียด ส่วนเบลเซอร์นั้นจะเน้นใส่สบายสามารถแมตช์กับกางเกงอะไรก็ได้ รู้อย่างนี้แล้วหลังจากนี้ก็สามารถเลือกใส่ให้เหมาะสมได้ถูกกาลเทศะ ทั้งยังสามารถจัดสรรเสื้อผ้าให้จำแนกถูกประเภทได้อีกด้วย
WATCH
เรียบเรียง : Ramita Naungtongnim
WATCH