FASHION
EXCLUSIVE! บทสัมภาษณ์พิเศษกับ 2 ดีไซเนอร์ Mugler H&M เบื้องหลังคอลแลบอเรชั่นแห่งปีโว้กสัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟกับ Ann-Sofie Johansson แห่ง H&M และ Casey Cadwallader แห่ง Mugler ว่าด้วยผลงานที่พาเรากลับไปยังยุค '90s และจิตวิญญาณของ Mugler ที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ |
ถือเป็นผลงานคอลแลบอเรชั่นแห่งปีที่ทุกคนรอคอยสำหรับ Mugler H&M ผลงานการร่วมมือกันระหว่างสองแบรนด์ระดับโลก โดยเปิดตัวคอลเล็กชั่นอย่างยิ่งใหญ่ที่ Park Avenue Armory ในแมนฮัตตัน มหานครนิวยอร์ก จัดขึ้นในรูปแบบคอนเสิร์ตท่ามกลางแสงสีเสียงและกลิ่นอายของไนท์คลับในยุค ‘90s โดย Ann-Sofie Johansson หัวเรือใหญ่ด้านครีเอทีฟของ H&M กล่าวว่า “งานในค่ำคืนนี้จะเต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์”
แขกในลิสต์กว่า 800 ชีวิตต่อแถวยาวเหยียดเพื่อเข้าสู่ประตูโชว์ ณ Park Avenue Armory ท่ามกลางสภาพอากาศเย็นยะเยือกราว 6 องศาเซลเซียลในมหานครนิวยอร์ก แต่เหล่าแขกต่างพากันขนเอาเสื้อผ้าสุดเปรี้ยวชนิดเข็ดฟันที่ทั้งเว้า ผ่า เปิด และซีทรู เพื่อเฉลิมฉลองให้กับรูปร่างอันสวยงาม ไร้นิยาม ไร้เพศ และมาตรฐานความงามใดๆ มากำหนดตามแบบฉบับของ Mugler แฟชั่นเฮาส์ในตำนานที่ครั้งนี้จับมือกับ H&M สร้างสรรค์คอลเล็กชั่นที่อยากให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ “ผมคิดมาตลอดว่าอยากทำให้ทุกคนได้สัมผัสความเป็น Mugler แต่เราจะทำอย่างไร พอได้คุยโปรเจกต์นี้กับ H&M ผมคิดว่ามันลงตัวมากเพราะแมตช์กับไอเดียที่ผมอยากจะทำมาตลอด ถ้า Thierry Mugler (ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Mugler) ยังมีชีวิตอยู่ ผมคิดว่าเขาน่าจะดีใจกับโปรเจกต์นี้ที่สุด เพราะนี่คือส่วนหนึ่งในวิสัยทัศน์ของเขาเช่นกัน” Casey Cadwallader ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Mugler กล่าว วันนี้โว้กพาสัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟกับสองดีไซเนอร์ผู้อยู่เบื้องหลังโปรเจกต์นี้
Vogue: ความแตกต่างของการร่วมงานกับ MUGLER ในครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง หลังจากที่ H&M ได้เคยร่วมมือกับแบรนด์ต่างๆ มาแล้วมากมาย
Ann-Sofie Johansson: ฉันรู้สึกว่า MUGLER เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในตอนนี้ เป็นแบรนด์ที่ทาง H&M ได้พูดถึงและติดตามมาสักระยะหนึ่งแล้ว เราทุกคนประทับใจมากกับสิ่งที่ Casey Cadwallader ซึ่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ MUGLER คนปัจจุบันทำ จนทำให้สาวกแฟชั่นรุ่นใหม่ในปัจจุบันหลงรักแบรนด์นี้ อีกทั้งเรายังรู้สึกทึ่งกับเทรนด์ความสนใจของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันที่มีต่อไอคอนจากยุคปี 1980-1999 และการมองหาแรงบันดาลใจจากอดีต ซึ่งเห็นได้ชัดว่า Thierry Mugler ผู้ก่อตั้งแบรนด์ MUGLER เป็นแรงบันดาลใจสำคัญจากยุคนั้น เขาคือผู้สร้างเทรนด์และนิยามความหรูหราและความน่าตื่นเต้นให้กับวงการแฟชั่นในช่วงเวลานั้น เหมือนกับที่ Casey กำลังทำให้กับ MUGLER อยู่ ณ ตอนนี้ โดยการสร้างและตีโจทย์การออกแบบใหม่ให้เหมาะกับสาวกแฟชั่นยุคปัจจุบัน โดยคอลเล็กชั่นที่ Casey ทำออกมานั้นมันน่าทึ่ง ฉันคิดว่าคงไม่มีนักออกแบบคนไหนที่เราอยากร่วมงานด้วย ณ ตอนนี้ มากไปกว่าเขาแล้ว
Vogue: ความทรงจำของคุณเกี่ยวกับ MUGLER ตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันคืออะไร
Ann-Sofie Johansson: ฉันมีความทรงจำที่ดีในการชมผลงานแฟชั่นโชว์ของ Thierry Mugler ในยุคปี 1970-1989 ซึ่ง MUGLER เป็นแบรนด์ที่สร้างแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ให้กับฉันในฐานะคนที่พึ่งเริ่มทำงานในวงการแฟชั่น ฉันไม่เคยลืมเลยกับงานแฟชั่นโชว์อันน่าทึ่งและความคิดสร้างสรรค์บนรันเวย์ของเขาในสมัยนั้น จนกระทั่งทาง H&M ได้เริ่มต้นการพูดคุยถึงการทำงานร่วมกันกับ MUGLER ซึ่งได้รับเกียรติเสนอการออกแบบร่วมกันกับ Thierry Mugler และเนื่องจากเขาเป็นฮีโร่ของฉันมาโดยตลอดจึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้พบเขาด้วยตัวเอง การจากไปของเขาระหว่างการพัฒนาคอลเล็กชั่นนี้ต่างก็ทำให้เราทุกคนต่างก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดีเรารู้สึกเป็นเกียรติที่ Casey เข้ามารับช่วงต่อ และรังสรรค์ผลงานที่มีความร่วมสมัยออกมา โดยเป็นผลงานที่สื่อถึงความเคารพต่องานออกแบบสำคัญของ Thierry Mugler เช่น การผลิตชิ้นงานออกแบบที่โด่งดังอีกครั้งของ MUGLER จากคอลเล็กชั่นปี 1980-1999 และนำเข้ามาอยู่ในคอลเล็กชั่นร่วมออกแบบนี้ด้วย
Vogue: อะไรคือสิ่งที่คุณชื่นชอบมากที่สุดในระหว่างการร่วมงานกับ Casey ในครั้งนี้
Ann-Sofie Johansson: การที่ได้เห็นเขากลั่นกรองพลังการออกแบบของ MUGLER ลงไปในคอลเล็กชั่นนี้เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก ทุกชิ้นงานออกแบบล้วนเป็นที่จดจำได้และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เขาเคารพต่อมรดกด้านการออกแบบของแบรนด์ตัวเอง ตอกย้ำงานดีไซน์ของ Thierry Mugler ที่ยังคงอยู่ ด้วยนิยามงานดีไซน์ที่หลอมรวมเข้าด้วยกัน ความลื่นไหลทางเพศ การส่งเสริมพลัง ความมั่นใจในรูปร่าง ไปจนถึงความเซ็กซี่ แต่งานออกแบบของ Casey ครั้งนี้ก็ไม่ได้ถูกครอบงำด้วยแรงบันดาลใจจากอดีตไปเสียหมด เขายังนำองค์ประกอบที่เขาชอบมาดัดแปลงและทำให้มันดูทันสมัย ซึ่งทุกคนจะเห็นได้จากชิ้นงานทั้งหมดในคอลเล็กชั่นนี้ มีหลายชิ้นงานออกแบบที่เป็นงานร่วมสมัยดั้งเดิมของ MUGLER ที่ทุกคนจะจำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นชุดแคทสูทรัดรูป ชุดคัทเอาท์ หรือกางเกงสไปรัลยีนส์ ที่ทั้งหมดผ่านการตัดเย็บอย่างไร้ที่ติ และนั่นก็เป็นสิ่งที่ยากมากที่จะทำออกมาได้ในฐานะนักออกแบบ เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่มีหลากหลายชิ้นงานออกแบบยอดนิยมของ MUGLER เข้ามาอยู่ในคอลเล็กชั่นนี้
Vogue: แคมเปญวิดีโอที่ออกมาช่างยอดเยี่ยมมาก คุณและทีมของคุณคิดขึ้นมาได้อย่างไร
Ann-Sofie Johansson: MUGLER เชื่อมโยงกับดนตรีได้อย่างแน่นอน ซึ่งดนตรีเป็นแรงบันดาลใจส่วนใหญ่ที่ Casey ใช้รังสรรค์ผลงาน และยังเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของแบรนด์อีกด้วย ทำให้เกิดแนวคิดในการสร้างมิวสิกวิดีโอและเพลงจากเพลงยุค 90 ขึ้นมา ซึ่งสอดคล้องกับงานออกแบบเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นนี้ที่เต็มไปด้วยการอ้างอิงถึงยุค 90 ได้อย่างเหมาะเจาะ การทำภาพยนตร์และภาพนิ่งขึ้นมาจึงถือว่าเป็นเรื่องดี ที่เราได้ทำในสิ่งที่แปลกใหม่และแตกต่างออกไป เป็นเครื่องยืนยันถึงการสะท้อนทางวัฒนธรรมการออกแบบของ MUGLER ผ่านดนตรี การเต้นรำ การแสดง วัฒนธรรมย่อย หรือแม้กระทั่งเทคโนโลยี
Vogue: คุณช่วยบอกเล่ากระบวนการทำงานร่วมกันในครั้งนี้ได้ไหม
Casey Cadwallader: ฉันรู้สึกได้รับเกียรติอย่างมากและตื่นเต้นเป็นพิเศษที่ได้รับการทาบทามให้ร่วมงานครั้งนี้ และคิดว่าระหว่าง H&M และ MUGLER ต่างก็มีค่านิยมร่วมกันเมื่อพูดถึงการไม่แบ่งแยก ซึ่งทั้งสองแบรนด์ต่างก็สนใจอย่างมากเกี่ยวกับการท้าทายความคิดที่ว่าแฟชั่นชั้นสูงควรเหมาะกับใครก็ได้ และทุกคนสามารถสัมผัสโลกแห่งกูตูร์และสไตล์ ซึ่งฉันยืนยันอย่างหนักแน่นว่าการออกแบบครั้งนี้จะเป็นตัวตนของ MUGLER อย่างแท้จริงมาตั้งแต่เริ่มต้น โดยไม่มีอะไรที่จะต้องถูกประนีประนอมหรือถูกลดทอนออกไป เป็นเหตุผลที่คอลเล็กชั่นนี้เต็มไปด้วยชิ้นงานคลาสสิกและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์จาก MUGLER ซึ่งสำหรับฉันแล้วมันคือหัวใจของการทำงานร่วมออกแบบคอลเล็กชั่นระหว่าง H&M กับแบรนด์ดีไซเนอร์ ซึ่งมันป็นการมอบประวัติศาสตร์ของชิ้นงานแฟชั่นให้แก่ผู้คน
WATCH
Vogue: คุณตีความงานออกแบบของ MUGLER ออกมาเป็นคอลเล็กชั่นร่วมกับ H&M ได้อย่างไร
Casey Cadwallader: ฉันรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าต้องรวมการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของเรามาไว้ในคอลเล็กชั่นนี้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งขาดไม่ได้เลยคือชุดแคทสูทรัดรูป กางเกงยีนส์ ผนวกกับการตัดเย็บที่ยอดเยี่ยม และเครื่องประดับที่เป็นเหมือนประติมากรรม และยังต้องการการผสมผสานความรู้สึกเป็นกลาง ความแข็งแรงและนุ่มนวล เนื่องจากเอกลักษณ์ของ MUGLER คือการผสมผสานกันอยู่เสมอ มีด้านมืดและด้านสว่าง มีความทันสมัย แฝงไปด้วยความเซ็กซี่ และเต็มไปด้วยความสุข และสิ่งที่ฉันต้องการทำก็คือรักษาความหลากหลายและความซับซ้อนนี้เอาไว้ ในขณะที่สามารถออกแบบชิ้นงานให้ออกมาได้มีประโยชน์ต่อการใช้งานและเป็นที่น่าสนใจต่อผู้คน โดยให้ชิ้นงานเหล่านี้เข้าไปอยู่ในตู้เสื้อผ้าส่วนตัวของพวกเขา เพราะฉะนั้นคอลเล็กชั่นนี้จึงมีชิ้นงานเอกลักษณ์หลายชิ้นที่เย้ายวนใจจาก MUGLER ไม่ว่าจะเป็นชุดแคทสูทรัดรูป เดรส และยังรวมไปถึงเสื้อสเวตเตอร์ลำลอง เสื้อยืด และเครื่องประดับ ที่ให้ความรู้สึกยกระดับอย่างแท้จริง ทุกคนจะเห็นในรายละเอียดของการออกแบบและการตกแต่ง เช่นการปักประดับดาว การยึดติดแบบพิเศษ ความแวววาว ตลอดไปจนถึงคุณภาพของหนังที่เลือกใช้ นอกเหนือจากการออกแบบอย่างร่วมสมัยแล้ว ฉันรู้ด้วยว่าจะต้องรวมชิ้นงานดีไซน์เก่าที่เป็นเอกลักษณ์ของ MUGLER นำขึ้นมาทำอีกครั้ง เพื่อเป็นการยกย่องงานดีไซน์ของ Thierry Mugler และใช้องค์ประกอบสำคัญจากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาของฉันเองกับแบรนด์อย่างยาวนาน และนำมาเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับแนวคิดการออกแบบใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใช้ผ้ายีนส์ของ Thierry หรือความสนใจในการสรรสร้างลวดลายของงานออกแบบ หรือการเล่นกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง และนำเข้ามาผสมผสานกันอย่างลงตัว ซึ่งงานออกแบบของ Thierry Mugler จะมีอิทธิพลอย่างมากต่อตัวฉันและแบรนด์นี้เสมอ วิสัยทัศน์ของเขายังคงมีความเกี่ยวข้อง ทันยุคทันสมัยอย่างที่เคยเป็นมาตลอดช่วงเวลา จึงเป็นเรื่องดีที่คอลเล็กชั่นนี้สามารถผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบันได้
Vogue: อะไรคือคำนิยามของความหลากหลายที่แท้จริงในโลกแฟชั่นยุคปัจจุบัน
Casey Cadwallader: เมื่อพูดถึงความงามที่แตกต่างและรูปร่างที่หลากหลาย MUGLER เป็นแบรนด์ที่มุ่งเน้นกับการให้ความสำคัญกับตัวเองและผู้คนรอบตัว เป็นเรื่องของการเปิดกว้าง การมีอิสระ การมีจินตนาการ และการหลอมรวม ซึ่งสำหรับฉันนั่นคือความหลากหลายที่แท้จริง เป็นมุมองที่ไม่จำกัดและทำลายขอบเขตของคำว่า "ใครที่สวย" หรือ “ใครที่เหมาะกับแฟชั่นชั้นสูง” จิตวิญญาณเหล่านั้นมีอยู่ทั่วทั้งคอลเล็กชั่นนี้ และเป็นเหตุผลหนึ่งที่ฉันต้องการให้ชิ้นงานมีความหลากหลายและเปิดกว้างต่อวิธีการเลือกสวมใส่ ผสมผสานเข้าด้วยกันจนเกิดสไตล์ใหม่ๆ นอกจากนั้นเรายังนำเอาพื้นฐานแนวคิดนี้ ถ่ายทอดออกมาในแคมเปญมิวสิควีดีโอ ผ่านตัวละครที่หลากหลายเอาไว้เข้าด้วยกันในการเปิดตัวคอลเล็กชั่นนี้ ซึ่งฉันอยากให้เนื้อหาให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาแบบสุดๆ มีพลังขับเคลื่อน แปลกแหวกแนวเล็กน้อย ซึ่งสะท้อนถึงตัวตนของ MUGLER ได้มากๆ โดยเป็นการรีเมกจากบทเพลงฮิตในปี 1998 อย่าง "Music Sounds Better With You" ของ Stardust ซึ่งเป็นเพลงที่ฉันหลงรักมาตลอด สำหรับฉันแล้วมันเป็นเพลงที่เกี่ยวกับการเข้าสังคม มิตรภาพ และความสนุกสนาน ซึ่งสะท้อนถึงชีวิตที่แปรผันไปตามบทเพลงและคนที่คุณเลือกจะอยู่ด้วย เหมือนกับแบรนด์ MUGLER เองที่เกี่ยวข้องกันทางวัฒนธรรม ในโลกของการเต้นรำ ดนตรี การแสดง การออกไปท่องราตรี และอีกหลากหลายเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น ซึ่งเหล่านี้ต่างเป็นวัฒนธรรมที่เราได้รับเอามาเป็นแรงบันดาลใจ เป็นส่วนผสมที่น่าทึ่งและเป็นสิ่งบ่งชี้ที่ว่า MUGLER มีไว้สำหรับทุกคน
Vogue: คุณอยากจะบอกอะไรกับนักออกแบบรุ่นใหม่
Casey Cadwallader: จงเป็นตัวของตัวเอง
WATCH