Floétique ถ่ายทอดไลฟ์สไตล์มีระดับแบบอังกฤษสู่ ‘Me∞More’ คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2024

    Floétique (โฟลเอทีค) เป็นแบรนด์เสื้อผ้ากลุ่ม Luxury Athleisure Brand ที่ยึดมั่นในการพัฒนาที่ยั่งยืนของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ใช้วัตถุดิบพรีเมียมจากอิตาลี รวมทั้งวัตถุที่ยั่งยืนหรือผ่านการรีไซเคิล โดยหนึ่งในผ้าที่แบรนด์ใช้ในแฟชั่นไอเท็มภายใต้ชื่อ Flocéan™ เป็นผ้านวัตกกรรมที่รีไซเคิลจากแหประมงและขยะทะเล ภายใต้เป้าหมายลดขยะและคาร์บอน พร้อมทั้งควบคุมการผลิตให้พอเพียง และไม่ใช้พลาสติกเป็นบรรจุภัณฑ์ โฟลเอทีคมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ Athleisurewear ที่ล้ำสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการบริโภคที่รับผิดชอบผ่านสินค้าที่ได้มาตรฐานการค้าที่เป็นธรรมระดับโลก (Fair Trade Certified™) โดยสนับสนุนความหลากหลาย และความเป็นธรรมทางสังคมในทุกรูปแบบ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของแบรนด์

     โฟลเอทีคยังคงหัวใจของแบรนด์ Athleisure ที่ผสานรายละเอียดแฟชั่นชั้นสูง กับการแต่งกายลำลอง และการออกแบบชุดออกกำลังกายที่ตอบโจทย์ทุกสไตล์การเคลื่อนไหวด้วยการตัดเย็บที่ประณีต เน้นซิลูเอตที่ช่วยเสริมให้สวมใส่เข้ารูป และผลิตจากผ้าเทคนิคที่ยั่งยืน อาทิ ชุดสำหรับกีฬากอล์ฟ โยคะ สตูดิโอ กิจกรรมกลางแจ้ง โดยมีลุคที่โดดเด่น อาทิ ชุดกระโปรงเทนนิสที่โดดเด่นด้วยเทคนิคเลเซอร์คัตลายเขี้ยวสุนัขกระโปรงอัดพลีตที่ใช้ S-Curve Waistband เทคนิคพิเศษเฉพาะของแบรนด์ หรือลุคแอร์พอร์ตเซ็ตที่เรียบหรูแต่โดดเด่น  คอมพลีตลุคด้วยแอ็กเซสเซอรี่เข้าชุด

 

     ล่าสุดโฟลเอทีคเผยคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2024 “Me∞More” สื่อถึงการดูแลตัวเองในทุกวัน ตามคติของโฟลเอทีคที่เน้นการเคลื่อนไหวที่สร้างความสมดุล ทั้งกาย จิต และวิญญาณ Me∞More ยังเป็นวลีที่ซ่อนความหมายว่า ‘คุณรักใครสักคนมากกว่าตัวคุณเอง’ พร้อมทั้งคอลเล็กชั่นนี้ยังได้แรงบันดาลใจจากสไตล์การแต่งตัวที่เหนือกาลเวลา และความสง่างามแบบราชวงศ์ และชนชั้นสูงของอังกฤษในวงสังคมที่มีเดรสโค้ดการแต่งกายที่งดงาม และประณีต เช่น Royal Ascot, Wimbledon หรือคลับส่วนตัวที่เป็นพื้นที่ทางสังคมหรือคลับส่วนตัวที่เป็นพื้นที่ทางสังคมหรือคลับไลฟต์สไตล์เรียบหรูในชนบทของอังกฤษ 

 

      ทั้งนี้แบรนด์ยังรังสรรค์แฟชั่นไอเท็มอันมีลวดลาย 'Houndstooth' หรือ 'เขี้ยวสุนัข' ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์สำหรับคอลเล็กชั่นนี้ ที่เริ่มได้รับความนิยมในสังคมชั้นสูงจากดัชเชสแห่งวินด์เซอร์ Wallis Simpson ทรงฉลองพระองค์สูทลายเขี้ยวสุนัข ใน Vogue ฉบับปี 1934 จนทำให้แฟชั่นชุดพักผ่อนสุดสัปดาห์ในชนบทของวงสังคมชั้นสูงอังกฤษนำลวดลายมาใช้เป็นกระแสนิยมสื่อถึงความเรียบโก้มาจนถึงปัจจุบัน ทั้งยังนำมาผสมผสานกับเทคนิค Pattern on Pattern พร้อมกับปรับคู่สีดั้งเดิมของลายเขี้ยวสุนัข คือขาวกับดำให้เป็นเฉดสีน้ำเงินโคบอลต์ที่เป็นสีซิกเนเจอร์ของโฟลเอทีค เพื่อให้ลุคสปอร์ตสุดล้ำสมัย รวมทั้งใช้สีม่วงไลแล็ก สีชมพูโอลด์โรส และสีเขียวหม่น ที่ได้แรงบันดาลใจจากแลนด์สเคป และบรรยากาศของ Soho Farmhouse คันทรีคลับไลฟ์สไตล์สุดหรูในชนบทอังกฤษซึ่งเป็นที่รวมตัวของศิลปิน และกลุ่มคนนำเทรนด์ในอังกฤษมาเป็นสีสันที่น่าหลงใหลสำหรับทุกคน

 (สามารถอ่านบทความเรื่อง กะเทาะบทบาท 'เขี้ยวสุนัข' ลายผ้าสำคัญของโลกแฟชั่นที่พร้อมกลับมาเซตเทรนด์ปี 2020 ได้ที่นี่)