FASHION

ย้อนความหลังเพื่อรำลึกการจากไปของตำนานดีไซเนอร์ไทย ตั้ว-กีรติ เจ้าของห้องเสื้อดวงใจบิส

ตั้ว-กีรติ ชลสิทธิ์จากโลกนี้ไปแบบไม่มีวันกลับด้วยวัย 66 ปี เราจึงถือโอกาสย้อนความหลังเล่าเรื่องราวความสวยงามของแฟชั่นที่ดวงใจบิสครองใจคนเมื่อหลายสิบปีก่อน

     วันแห่งการสูญเสียสามารถเกิดขึ้นได้ทุกวันแบบไม่เลือกเวลา ข่าวร้ายในวงการแฟชั่นปรากฏขึ้นอีกครั้งเมื่อ “ตั้ว-กีรติ ชลสิทธิ์” ดีไซเนอร์ไทยระดับตำนานเจ้าของห้องเสื้อ ดวงใจบิส (Duangjai Bis) เสียชีวิตในบ้านพักด้วยวัย 66 ปี ต้องบอกว่าเขาคือบุคลากรทางแฟชั่นที่สมควรถูกจารึกลงบนหน้าประวัติศาสตร์แฟชั่นไทยอย่างไม่มีข้อกังขา ชายหนุ่มผู้สนใจแฟชั่นมาตั้งแต่วัยเยาว์และจบการศึกษาด้านแฟชั่นจากฝรั่งเศสเป็นรุ่นแรกๆ ผลักดันห้องเสื้ออันเป็นความฝันไปไกลได้ถึงขีดสุด ห้องเสื้อแห่งนี้กลายเป็นห้องเสื้อแถวหน้าของเมืองไทย สร้างสีสันมานานหลายสิบปี ลงนิตยสารชั้นนำสมัยก่อนแทบทุกเล่ม และมีดาราชื่อดังสวมใส่กันอย่างไม่ขาดสาย เรามาทำความรู้จักกันผลงานและชื่อเสียงของคุณตั้วและห้องเสื้อดวงใจบิสเพิ่มเติมกันในบทความนี้

     ย้อนกลับไปช่วงประมาณ 30 ปีก่อนจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่เกิดขึ้นจากแรงความสร้างสรรค์ของคุณตั้วที่ทุ่มเทให้กับดวงใจบิส ความยอดเยี่ยมของเขาส่งผ่านออกมาเป็นเสื้อผ้าอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยความโดดเด่นทั้งเรื่องซิลูเอต สีสัน และการเพิ่มเติมลูกเล่นทำให้ดวงใจบิสแตกต่าง และความแตกต่างนี้เองที่ทำให้ห้องเสื้อของคุณตั้วกลายเป็นดาวเด่นในวงการแฟชั่นไทยนับแต่นั้นเป็นต้นมา ความเปรี้ยวอมหวานขับความเฟมินีนในตัวผู้หญิงออกมาได้เต็มที่ กลิ่นอายความเซ็กซี่ที่ไม่ได้ดูจัดจ้านจนเกินไป แม้สมัยนั้นเสื้อผ้าที่เผยเรือนร่างของหญิงสาวค่อนข้างมากจะไม่ใช่เรื่องปกติ แต่ด้วยความสวยงามอันเลื่องชื่อจึงเอาชนะอคติทางสังคมในยุคนั้นด้วยชื่อ “ห้องเสื้อดวงใจบิส”

     หากมองอย่างละเอียดจะเห็นว่าดาราสวมใส่เสื้อผ้าของดวงใจบิสถ่ายแฟชั่นเซตในนิตยาสารชั้นนำของเมืองไทยมาอย่างยาวนานกว่าหลายสิบปี นั่นก็เพราะความโดดเด่นที่เมื่อเปิดหน้านิตยสารมารังสีความงดงามของทั้งดารากับเสื้อผ้าจากดวงใจบิสเปล่งประกายเสมอกัน เหมือนขับซึ่งกันและกันได้อย่างดีเยี่ยม ลองนึกภาพนางแบบยุคก่อนซึ่งมีแววตาและสีหน้าอันโดดเด่นประกอบกับเสื้อผ้าอันล้ำนำสมัย แพตเทิร์นการตัดเย็บผสานเข้ากับลวดลายต่างๆ สุดลงตัว นั่นทำให้ทุกคนเชื่อใจฝีมือของคุณตั้วในการรังสรรค์ศิลปะแฟชั่นเสมอมา เมื่อหยิบนิตยสารเล่มเก่ากลับมาเปิดดูก็จะนึกถึงมิติความสวยงามเฉพาะตัวแบบไม่มีใครเหมือนของห้องเสื้อแห่งนี้



WATCH




     สำหรับฝั่งสุภาพบุรุษเองห้องเสื้อดวงใจบิสก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน ต้องบอกว่าความจัดจ้านในแฟชั่นยุคก่อนคือสีสันที่เราคิดถึงอยู่เสมอ ถึงแม้การตัดเย็บหรือรูปแบบเสื้อผ้าบุรุษในไลน์ Duangjai Express ของดวงใจบิสจะไม่ได้สลับซับซ้อนซ่อนเทคนิคชนิดเสื้อผ้ากูตูร์ แต่เมื่อหันมาโฟกัสเรื่องการเล่นลวดลายและความสนุก รวมถึงแพตเทิร์นของเสื้อผ้าในยุค ‘80s และ ‘90s ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าฝีมือของคุณตั้วคือชั้นครูของวงการแฟชั่นไทย ความจัดจ้านของสีสัน ลายตาราง ซึ่งผสมกับความเรียบง่ายของแพตเทิร์นเสื้อและกางเกง เรียกว่าเป็นการเซตเทรนด์แฟชั่นให้กับสุภาพบุรุษสายแฟชั่นยุคนั้นแบบกลายๆ ได้เหมือนกัน

     ทั้งนี้ กุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหารโว้กประเทศไทยเผยถึงข้อมูลเกี่ยวกับคุณตั้วนอกเหนือจากมิติแวดวงนิตยสารว่า “พี่ตั้วเป็นผู้อิทธิพลด้านแฟชั่นมากในยุค ‘80s เป็นดีไซเนอร์ที่ถนัดเรื่องเสื้อผ้ากลางคืนเน้นงานปักและผ้าลูกไม้บนแพตเทิร์นเสื้อที่ทันสมัย ด้วยความที่คุณแม่เป็นช่างเจ้าของเสื้อด้วยสมัยนั้นจึงค่อนข้างได้เปรียบเรื่องการทำแพตเทิร์น และความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ของดวงใจบิสคือการหยิบแรงบันดาลใจจากรันเวย์กูตูร์สุดโด่งดังมาตัดเย็บให้เหมาะกับลูกค้าคนไทย” นอกจากนี้ยังเผยถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของคุณตั้วว่า “ครั้งหนึ่งพี่ตั้วเคยถวายงานฉลองพระองค์ให้กับเจ้านายหลายพระองค์ และเสื้อผ้าของดวงใจบิสเองเป็นที่นิยมมากในช่วงชาญอิสระเฟื่องฟู” และกุลวิทย์ปิดท้ายว่า “พี่ตั้วเป็นคนกำหนดคำว่า ‘French Sophistication’ ให้กับสาวไทย” ถือเป็นการการันตีได้อย่างดีว่าตำนานผู้นี้มีความสำคัญกับวงการแฟชั่นไทยเพียงใด

     ด้วยประสบการณ์และผลงานหลายสิบปีของคุณตั้วและการห่างหายจากการออกแบบไปในพักหลังทำให้หลายคนคิดถึงศิลปะแฟชั่นในแบบของห้องเสื้อดวงใจบิสเหลือเกิน ความสุดยอดที่เราจะไม่ได้เห็นอีกแล้วต่อจากนี้ คนรุ่นเก่าคงหวนหยิบนิตยสารเล่มเก่ามาเปิดดูย้อนความทรงจำพร้อมยิ้มไปกับความสวยงาม เด็กรุ่นใหม่คงจะได้หาแหล่งข้อมูลเพื่อศึกษาแฟชั่นในยุคเก่าเพิ่มเติม โว้กขอร่วมไว้อาลัยแด่การจากไปแบบไม่มีวันกลับของ “ตั้ว-กีรติ ชลสิทธิ์” ดีไซเนอร์ผู้ถูกขนานนามว่า “ครั้งหนึ่งคือที่สุดของวงการแฟชั่น”

 

ขอขอบคุณ นิตยสารแฟชั่นรีวิว, นิตยสาร the boy, นิตยสารขวัญเรือน และ นิตยสารผู้หญิง สำหรับภาพประกอบเรื่องราวในครั้งนี้

WATCH