เจาะลึกลุค Bill Skarsgård ใน John Wick 4 ที่บ่งบอกถึงความหรูหราฉบับผู้ดีเก่าจากศตวรรษก่อน
ตัวละคร Marquis Vincent de Gramont คือตัวละครที่สะท้อนถึงกลิ่นอายแฟชั่นคลาสสิกของผู้ชายได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดในโลกภาพยนตร์ยุคโมเดิร์น
ภาพยนตร์เรื่อง John Wick คือสูตรสำเร็จของผลงานสไตล์แอ็กชั่นของโลกยุคใหม่ Keanu Reeves กลายเป็นไอคอนที่คนจดจำจากบทบาทนี้ได้อย่างแม่นยำ เรียกว่าหากจะพูดถึงตัวละครโคตรบุรุษบู๊ล้างผลาญชนิดแอ็กชั่นมันไม่เว้นแต่ละนาทีทุกคนจะต้องนึกถึงเรื่องนี้แน่นอน ทว่าตลอด 3 ภาคที่ผ่านมามีการพูดถึงตัวละครอื่นในหลากหลายแง่มุม แต่ก็ไม่ค่อยมีใครพูดถึงสไตล์การแต่งตัวของตัวละครอื่นมากนัก ส่วนใหญ่จะโฟกัสไปที่ลุคขรึมของตัวละครเอกเป็นหลัก ทว่าในภาพยนตร์ภาค 4 หรือชื่อเต็มว่า “John Wick: Chapter 4” มีตัวละครหนึ่งที่ได้รับการพูดถึงอย่างมากเรื่องความเท่มีสไตล์ และก็กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนชื่นชมเป็นเสียงเดียวกัน
Bill Skarsgård ก้าวเข้ามารับบท Marquis Vincent Bisset de Gramont ตัวร้ายของจักรวาลแห่งนี้ที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ โหดเหี้ยม และที่ขาดไม่ได้คือสไตล์การแต่งตัวเนี้ยบกริบสะกดตาผู้ชม ตัวละครนี้ถ่ายทอดสไตล์ของผู้รากมากดีชาวฝรั่งเศส ชั้นเชิงการถ่ายทอดวิถีความเหี้ยมผสมผสานกับความทะนงตัวสอดประสานกับวิธีการแต่งตัวอันบ่งบอกถึงสถานะชนชั้นสูงทางสังคมได้อย่างดี ซึ่งรูปแบบการสวมสูทของตัวละครมาร์คีส์นั้นไม่ธรรมดา เพราะนี่คือการหยิบยกการแต่งกายของสุภาพบุรุษเมื่อกว่าศตวรรษที่แล้วมาอย่างครบถ้วน อีกทั้งยังสะท้อนถึงวิถีการรักษาขนบธรรมเนียมของสุภาพบุรุษจากชนชั้นสูงที่สืบทอดมาตามชาติตระกูล หรือจะวิเคราะห์ว่าเป็น “Old Money” ก็ไม่ผิดนัก
สิ่งที่สังเกตเห็นได้ชัดคือตัวละครตัวนี้มักสวมสูทแบบ 3 ชิ้นเสมอ ประกอบด้วยเสื้อแจ็กเก็ต กางเกง และเสื้อกั๊ก เมื่อลงลึกถึงรายละเอียดจะพบว่าสูทนั้นเป็นแบบกระดุมแถวเดียว มีดีเทลปกแหลม ในขณะที่เสื้อกั๊กเป็นแบบกระดุม 2 แถว มาพร้อมปก ซึ่งเป็นรายละเอียดแบบดั้งเดิมโบราณ ในยุคปัจจุบันไม่ค่อยมีใครสวมสูทในลักษณะนี้กันอีกแล้ว มากไปกว่านั้นแอ็กเซสเซอรี่ที่ขาดไม่ได้คือ “Pocket Watch” สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่านี่คือการสวมสูทแบบดั้งเดิมที่นิยมกันมากในช่วงยุค 1900s – 1920s หรือช่วงเปลี่ยนผ่านจากยุคสวมสูทและเสื้อโค้ตแบบหางยาวที่ค่อยๆ ตัดทอนรายละเอียดบางอย่างจนเป็นสูท 3 ชิ้นในลักษณะหน้าตาสุดแสนคลาสสิก
WATCH
ความหนักแน่นของสูทอันสะท้อนถึงความแข็งแกร่งแบบแมสคิวลีนคือเอกลักษณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ สูทยุคศตวรรษที่แล้วมักมีสีเข้ม เน้นการถักทอที่หนาและละเอียด อีกทั้งยังมีรูปทรงแข็งเป็นโครงชัดเจน ต่างจากสไตล์ “Soft-Tailoring” อันพัฒนามาจากห้องเสื้อ Anderson & Sheppard และสูทสไตล์อิตาเลียนที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง มากไปกว่านั้นการสวมเสื้อกั๊กกระดุม 2 แถวเข้ากับแจ็กเก็ตกระดุมแถวเดียวยังบ่งบอกถึงความเนี้ยบกริบและสรรสร้างเสื้อผ้าให้เข้ากับรูปร่างอันแข็งแกร่งของสุภาพบุรุษตามอุดมคติยุคนั้นเสียจริง
ทำไมถึงเรียกการสวมสูทแบบนี้ว่าเป็นลักษณะแบบ “Old Money” เพราะปัจจุบันการจะหาสถานที่ที่มีบรรยากาศอันเหมาะสม หรืองานต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสอดคล้องกับแฟชั่นแบบนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย สถานที่หรืองานต่างๆ จึงมักเป็นงานคลาสสิกดั้งเดิม และมีแต่ชนชั้นสูงชาติตระกูลสูงส่งเท่านั้นที่ยังคงสืบทอดความหรูหรามีระดับจากเมื่อ 100 ปีก่อนได้อย่างสมบูรณ์แบบ หากใครสังเกตอย่างละเอียดจะพบว่ามาร์คีส์ไม่เพียงสวมสูทอย่างใส่ใจทุกรายละเอียดเท่านั้น เพราะเขายังผูกเนกไทแบบ “Eldredge Knot” ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการผูกหายาก แทบจะไม่มีใครผูกเลยนอกจากจะเป็นชนชั้นสูงจากยุคเก่าที่ใส่ใจและสละเวลาเพื่อเงื่อนบริเวณปลายคอที่ซับซ้อนที่สุด
หากใครสนใจจะแต่งตามต้องบอกว่าแม้ลุคนี้จะดูผิวเผินแล้วไม่ยากมากนัก แต่อาจจะทนความร้อนสักหน่อย เพราะเนื้อผ้าหนักและการวางเลเยอร์หลายชั้นอาจไม่เป็นมิตรกับสภาพอากาศในประเทศไทย ทว่าอีกหนึ่งรายละเอียดเล็กๆ ที่มองข้ามไม่ได้คือมาร์คีส์ไม่ได้สวมเสื้อเชิ้ตแพตเทิร์นธรรมดาทั่วไป แต่สวมเสื้อปกตรงขนาดใหญ่ ตอกย้ำความคลาสสิกขึ้นอีกขั้น ปกเสื้อแบบนี้สอดรับกับลักษณะการผูกเนกไทที่จะมีปมเงื่อนค่อนข้างใหญ่กว่าปกติ ถ้าใครต้องการผูกเนกไทแบบนี้กับเสื้อเชิ้ตปกขนาดปกติจะดูแปลกประหลาดทันที นี่คือความใส่ใจที่ทีมคอสตูมของภาพยนตร์เรื่องนี้เก็บทุกเม็ดชนิดไม่มีพลาดจริงๆ
รายละเอียดของลุคฉบับตัวร้ายแห่งภาพยนตร์เรื่องนี้ยังไม่หมด เพราะเมื่อเจาะรายละเอียดจะเห็นว่านอกจากเนื้อผ้าทอแน่นน้ำหนักมากแล้ว รายละเอียดบนพื้นผิวของผ้ายังเต็มไปด้วยความซับซ้อน เพิ่มมิติความน่าสนใจให้กับลุค การกุ๊นขอบบริเวณแขนและการติดกระดุมปลายแขนเสื้อเชิ้ตแบบดั้งเดิมยิ่งเสริมความหนักแน่นเรื่องความหรูหราคลาสสิก บางครั้งยังเห็นการผูกไทขนาดโอเวอร์ไซซ์หรือ Ascot / Cravat ด้วย ไอเท็มเหล่านี้แทบจะสูญสลายไปจากสารบบแฟชั่นของผู้ชายยุคโมเดิร์นไปเรียบร้อย ทว่าการหยิบจับรายละเอียดเหล่านี้มาใช้ในภาพยนตร์บ่งบอกถึงการทำการบ้านที่นำแฟชั่นดั้งเดิมมาสร้างความแตกต่างและหล่อหลอมคาแร็กเตอร์ตัวละครให้สมกับคำว่าผู้ดีเก่าอย่างแท้จริง
WATCH