FASHION

ที่สุดรันเวย์ Chanel ในยุค Karl Lagerfeld มากกว่าฉากหลังแต่ถ่ายทอดพลังแห่งแฟชั่น

Karl Lagerfeld เป็นมากกว่าแค่ดีไซเนอร์ชื่อก้อง แต่ยังเป็นศิลปินที่รังสรรค์พื้นหลังประกอบฉากได้อย่างไร้ที่ติ

     ฉากและรันเวย์ในงานแฟชั่นโชว์ถือเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ของเหล่าแบรนด์ดัง Chanel เองเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ยกระดับฉากรันเวย์ในทุกๆ ปีให้ดีขึ้นกว่าเก่าทุกครั้งต่อการเปิดซีซั่นใหม่ๆ นอกจากแฟนๆ จะตั้งตารอชมผลงานการรังสรรค์เสื้อผ้าแล้ว ยังรอคอยชมฉากรันเวย์ที่จะเข้ามาเติมเต็มให้คอลเล็กชั่นนั้นๆ สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น และเป็นที่รู้กันดีว่าครีเอทีฟคนก่อนอย่าง Karl Lagerfeld นั้นไม่ได้เชี่ยวชาญศาสตร์ด้านศิลปะการออกแบบตัดเย็บเท่านั้น แต่รวมไปถึงกระเป๋า เครื่องประดับ การตกแต่งภายใน และฉากรันเวย์ที่ช่วยเปิดโลกกว้าง พร้อมดึงทุกคนให้เข้าถึงแก่นแท้ของแฟชั่นได้อย่างแท้จริง

     คาร์ลเข้ามาดูแลและเปลี่ยนภาพลักษณ์ของฉากรันเวย์ตั้งแต่ปี 2005 จนกระทั่งคอลเล็กชั่นสุดท้ายอย่าง Fall 2019 ที่เขาเสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งตับอ่อน ก่อนจะได้เห็นผลงานของตัวเองออกสู่สายตาคนทั่วโลก ฉากรันเวย์ที่ตัวเขาและศิลปินผู้มีส่วนช่วยในการออกแบบขึ้นนั้น ล้วนแต่น่าประทับใจและน่าดึงดูดด้วยกันทั้งสิ้น ในบทความนี้เราจะพาย้อนไปดู 5 ที่สุดรันเวย์ชาเนลในยุคที่คาร์ลยังเป็นโต้โผใหญ่ของแบรนด์ว่าจะมีคอลเล็กชั่นไหนบ้าง

ภาพ: Vogue US

     คอลเล็กชั่น Spring-Summer 2015 คาร์ลเปลี่ยนฉากหลังของรันเวย์ให้กลายเป็นถนนใจกลางกรุงปารีสในประเทศฝรั่งเศส ทั้งตึกอาคารและสถาปัตยกรรมช่วยส่งให้บรรยากาศเสมือนจริงขึ้นไปอีกขั้น เก็บครบทุกรายละเอียดแม้แต่น้ำที่เจิ่งนองริมถนนหรือทางม้าลาย ร่วมด้วยนางแบบที่ตบเท้ากันเข้ามาบนรันเวย์ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินทอดน่องอยู่บนท้องถนนทั่วไปมากกว่าการเดินแบบ สร้างความแตกต่างและสดใสเช่นเดียวกับคอลเล็กชั่นที่เน้นสีฉูดฉาด แจ็กเก็ตผ้าทวีตตัวสั้น และโค้ตสีสด เชิ้ตแขนสั้นมีระบายเป็นชั้นผ้าพลิ้วไหวเหมาะกับหน้าร้อน แสดงถึงความเป็นเฟมินีนที่ในคอลเล็กชั่นนี้ต้องการสื่อออกไปได้ดี และยังได้เห็นทัพนางแบบเดินประท้วงในสิทธิความเท่าเทียมของผู้หญิงในช่วงฟินาเล่ สร้างสีสันกว่าทุกครั้งที่มีมา 

ภาพ: Vogue US

     กระโดดมาในคอลเล็กชั่นโอตกูตูร์ Fall-Winter 2017/2018 กับฉากหลังอย่างหอไอเฟลที่เป็นไอคอนิกประจำประเทศฝรั่งเศสที่ถูกจำลองขึ้น นำเสนอถึงยุคอันเรืองรองของความยิ่งใหญ่ โอ่โถงสวยงามด้วยฝีมือของมนุษย์เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความเป็นปารีเซียงขนานแท้ ครั้งนี้เปิดตัวด้วยโค้ตผ้าทวีตกับการคุมโทนของช่วงสีบนเสื้อผ้า แต่ละชิ้นงานสร้างความกลมกลืนไปกับบรรยากาศของรันเวย์ได้อย่างเหมาะควร ผ้าทอลายที่เดินด้ายด้วยดิ้นสีทองสว่างตกกระทบกับแสงที่ลอดเข้ามาภายในโดมสร้างความระยิบระยับ และเปล่งประกายให้กับลุค เครื่องประดับที่เห็นได้ชัดในคอลเล็กชั่นนี้เห็นจะเป็นหมวกทรง Boater เข้าคู่กับตุ้มหูไข่มุกซิกเนเจอร์ของแบรนด์ที่ช่วยเพิ่มความแกลมให้กับลุคได้อย่างครบถ้วน



WATCH




ภาพ: Vogue US

     มาถึงคอลเล็กชั่น Summer 2018 ด้วยฉากเบื้องหลังที่ถูกออกแบบให้เป็นน้ำตกจำลองบนหน้าผาเทียมสร้างธรรมชาติที่น่าหลงใหลบวกกับความงดงามและความสดชื่น พร้อมทางเดินด้วยไม้กระดานที่ยกสูงข้ามผ่านสายน้ำตกให้ความรู้สึกเหมือนเดินชมธรรมชาติในสวนพฤกษาของจริง สำหรับเสื้อผ้านั้นเน้นช่วงสีที่มีความเป็นเอิร์ธโทนให้ความอบอุ่น สดใสตอบรับกับหน้าร้อนได้อย่างลงตัว ผ้าทวีตทอลายตัดกับหนังแก้วบนกางเกงขายาวสร้างส่วนผสมที่แปลกใหม่ พร้มด้วยลวดลายที่แปลกตา เดรสชีฟองผ้าบางเบาลายครามรับกับเครื่องประดับเพชรได้อย่างพอดี และด้วยเทรนด์ของพลาสติกใสกำลังมาแรงในช่วงเวลานั้นสังเกตได้จากถุงมือ รองเท้าบู๊ตยาว หรือแม้แต่หมวกก็ตาม

ภาพ: Vogue US

     เดินทางมาถึงคอลเล็กชั่น Fall-Winter 2018/2019 กับการยกป่าสนในฤดูหนาวเข้ามาสร้างความตื่นเต้นตระการตาและยิ่งใหญ่อีกครั้ง สมจริงขึ้นไปอีกขั้นด้วยเสียงเดินที่ย่ำกระทบกับพื้นรันเวย์ที่เต็มไปด้วยใบไม้แห้งจากการร่วงหล่นไปตามการเปลี่ยนผันของฤดูกาล เคล้าด้วยกลิ่นมอสแสดงถึงความชื้นของฤดูหนาวที่กำลังคืบคลานเข้ามา การคุมโทนของสีต่างๆ ยังคงเป็นหัวใจในการรังสรรค์แบรนด์ โดยซีซั่นนี้เน้นเป็นโทนสีตุ่นที่นำเสนอถึงฤดูกาลหนาวเหน็บได้ดี นางแบบทั้งหลายต่างเดินออกมาพร้อมกับแอ็กเซสเซอรี่ถุงมือสีชมพูแดงพร้อมสะพายกระเป๋า It Bag รุ่น Gabrielle ที่สามารถสะพายสองแบบได้ในเวลาเดียวกันทั้งสะพายไหล่และครอสบอดี้

ภาพ: Vogue US

     คอลเล็กชั่น Spring-Summer 2019 ชาเนลและคาร์ลพาโลกแฟชั่นเดินทางสู่ชายหาดผืนกว้าง น้ำทะเลสีใส พร้อมคลื่นซัดฝั่งมาไว้ที่ใจกลางกรอง ปาเลส์ สถานที่จัดแฟชั่นโชว์เจ้าประจำของแบรนด์ จำลองริมชายทะเลของจริงมาให้ทุกคนได้ชม ทั้งเพิงไม้ริมหาดไว้เป็นสถานที่สำหรับเหล่าช่างภาพ หรือแม้แต่เก้าอี้ตัวสูงสำหรับไลฟ์การ์ดหรือโมเดลหนุ่มๆ ครั้งนี้เหล่านางแบบสลัดรองเท้าส้นสูง บู๊ตคู่ยาว และแฟลตส้นเตี้ยทิ้งไป พวกเธอเดินย่ำเท้าเปล่าลงบนชายหาดละเอียดในมาดสาวโก้หรูที่ผ่อนคลายอิริยาบถ ราวกับกำลังพักผ่อนในช่วงฤดูร้อน มาพร้อมกระเป๋าสองใบสะพายคู่ กระเป๋าใบกลม Beach Ball Minaudiere หรือเดรสตัวสั้น ถือเป็นอีกหนึ่งฉากหลังที่ผ่านกระบวนการคิดที่ซับซ้อนมาแล้ว แทรกตัวอยู่ในทุกรายละเอียดแม้แต่การจัดที่นั่งชม

     รันเวย์ไม่ใช่แค่ฉากประกอบเท่านั้น แต่กลับมีบทบาทสำคัญในงานแฟชั่นโชว์เป็นอย่างมาก เพราะรันเวย์ที่ดีจะช่วยดึงความเป็นตัวตนของโชว์ และช่วยแสดงความสวยงามของเสื้อผ้าแต่ละชิ้นให้ออกมาได้อย่างโดดเด่นมากยิ่งขึ้น แต่ในทางกลับกันถ้าฉากที่อลังการมากเกินไปบางครั้งก็จะกลบรายละเอียด หรือหม่นชุดของคอลเล็กชั่นที่จะนำเสนอได้ การออกแบบของคาร์ลและชาเนลจึงถือเป็นสิ่งที่เรียกว่า “พอดี” นอกจากจะพอดีเรื่องฉากความสมจริงแล้ว ยังพอดีกับการเป็นตัวดันให้นางเอกอย่างคอลเล็กชั่นใหม่ได้ชูโรงอย่างระเหิดระหงอีกด้วย

ข้อมูล : Vogue US

WATCH