FASHION

ทำความรู้จักกับ ‘ลายทาง’ บนเสื้อผ้า แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร

หนึ่งในชนิดของลายผ้าสุดคลาสสิกที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ของเราให้โดดเด่น ดูสุภาพ ทั้งยังนำมาจับคู่กับเสื้อผ้าได้หลากสไตล์

     ‘ลายทาง’ เป็นหนึ่งในชนิดของลายผ้าสุดคลาสสิกที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของเราให้ดูโดดเด่น สบายตา และสามารถนำมามิกซ์แอนด์แมตช์ได้หลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นโอกาสที่ต้องการลุคทางการอย่างการประชุมหรือพบผู้ใหญ่ ลุคทำงานในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่ใส่วันสบายๆ ตอนไปเที่ยวก็ได้เช่นกัน โว้กพามาทำความรู้จักกับ 8 ลายทางยอดฮิตบนเสื้อผ้าผู้หญิง แต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไรและสามารถสวมใส่ในโอกาสไหนได้บ้าง

 

1 / 8

ภาพ: @linda sza, cottonon.com

Hairline Stripe

     ลายทางที่มีเอกลักษณ์พิเศษเพราะเป็นลายเส้นที่มีลักษณ์เป็นเส้นปะ ถูกนำมาออกแบบด้วยสีสันที่สามารถจับคู่กันได้อย่างสมูทและกลมกลืน ส่วนใหญ่เรามักจะเห็นในรูปแบบเสื้อเชิ้ตหรือชุดสูท ให้ความเป็นทางการและดูสะอาดตา นอกจากการสวมใส่ในโอกาสสำคัญที่ต้องการความเรียบร้อยแล้ว ยังนิยมนำมาใส่กับลุคสบายๆ สำหรับไปเที่ยว เช่น เสื้อเชิ้ตแขนยาวที่มักนำมาใส่ทับชั้นนอกแบบไม่ติดกระดุมตรงกลาง และชูความโดดเด่นของลุคด้วยเสื้อและกางเกงข้างในแทนนั่นเอง

 



2 / 8

ภาพ: pixiemarket.com, princesspolly.com

Pinstripe

     ลายทางชนิดนี้เป็นดีไซน์สุดคลาสสิกของวงการแฟชั่น โดยเฉพาะชุดสูทเพราะลายเส้นมีขนาดกลาง ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป และความห่างของแต่ละเส้นจะไม่แคบเท่ากับ Hairline Stripe จึงช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ดูสง่างาม เหมาะสำหรับใส่ออกงานทางการ เช่น ไปประชุมหรือพบผู้ใหญ่ นอกจากชุดสูทแล้วลายทางชนิดนี้ยังนิยมนำมาใช้กับเสื้อเชิ้ตและกางเกงอีกด้วย ถ้าใครอยากลดความเป็นทางการของโททัลลุค สามารถนำมาจับคู่กับเสื้อยืดหรือกางเกงยีนส์ก็ได้เช่นกัน เป็นอีกหนึ่งลายทางที่สามารถใส่ได้หลายโอกาสกว่าที่คิด

 



3 / 8

ภาพ: @thestyleograph, simonmillerusa.com

Candy Stripe

     เป็นลายทางที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Candy cane หรือลูกกวาดรูปไม้เท้าสีขาวสลับแดง ขนมที่เรามักเห็นบ่อยช่วงเทศกาลคริสต์มาส การออกแบบจึงเป็นการตัดสลับโทนสีด้วยการใช้สีขาวกับโทนสีสดใส ลวดลายประเภทนี้นิยมในการนำมาพิพม์ลายเสื้อเชิ้ต กางเกง และชุดเดรส ซึ่งแต่ละแถบค่อนข้างหนา มีสีทึบ และมีระยะห่างของลายที่เท่ากัน เป็นหนึ่งในลวดลายของชุดลำลองที่นิยมไม่แพ้ลายทางอื่นๆ สามารถใส่ไปทำงานหรือไปเที่ยวก็ได้

 



4 / 8

ภาพ: @fusunlindner, zalando.com

Chalk Stripe

     แค่ชื่อก็พอเดาได้แล้วว่าได้แรงบันดาลใจมาจากลายทางคล้ายเส้นชอล์ก มักเห็นในแฟชั่นสูทสไตล์วินเทจ ลายทางชนิดนี้จะให้ความสมูธเรียบเนียนและดูนุ่มกว่า มักใช้ลายเส้นที่ตัดสลับด้วยสองโทนสี แต่งแถบในโทนสีสันสดใสและมีขนาดที่เล็กและบาง ตัดกับเนื้อผ้าสีพื้น นิยมนำมาใช้กับเสื้อเชิ้ต กางเกง และชุดสูท เรียกว่าเป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นทางการและความลำลองได้อย่างลงตัว

 



5 / 8

ภาพ: faithfullthebrand.com, @linda.sza

Double Stripe

     ลายทางที่มีเส้นคู่ขนานแถบเล็กสีขาวหรือสีครีม ตัดสลับกับเนื้อผ้าสีพื้นในโทนสีที่ให้ความสบายตา ลายทางชนิดนี้จะเน้นความเป็นแฟชั่นที่เราสามารถนำมามิกซ์แอนด์แมตช์ได้หลายสไตล์ ทั้งลุคที่ต้องการความเป็นทางการหรือลุคเก๋ตามเทรนด์ก็เอาอยู่ ซึ่งเรานิยมเห็นลายทางชนิดนี้บนเสื้อเชิ้ตและกางเกงมากกว่าชุดสูท ถือว่าเป็นอีกหนึ่งลายทางที่มีสีสันหลากหลายมากกว่าลายทางชนิดอื่นๆ

 



6 / 8

ภาพ: shop.airrobe.com, @la_nadia

Shadow Stripe

     ลวดลายทางสุดคลาสสิกด้วยรูปแบบเส้นแถบที่ตัดสลับด้วยสองถึงสามโทนสี ซึ่งความโดดเด่นอยู่ที่การไล่ระดับ โดยจะมีความทึบและบางให้เกิดเลเยอร์คล้ายเส้นเงานั่นเอง มักนิยมนำมาออกแบบกับเสื้อเช้ิตมากกว่าเสื้อผ้าประเภทอื่นๆ จึงสามารถสวมใส่ได้ง่าย แมตช์ได้หลายชุด ทั้งยังดูสบายตาด้วยลายเส้นที่ไม่เข้มหรือชัดจนเกินไป ถือเป็นอีกหนึ่งชุดลำลองที่ใส่ได้หลายโอกาสมากกว่าที่คิด

 



7 / 8

ภาพ: zalando.com, ottwaythelabel.com

Awning

     ลายทางชนิดนี้มีความห่างกันกว่า Pinstripe และ Hairline Stripe ความโดดเด่นคือการลายเส้นสีเข้มวางบนเนื้อผ้าที่มีสีอ่อนในระยะความห่างที่เท่ากัน เพื่อให้เกิดการตัดกันของสี มักนิยมใช้ออกแบบกับเสื้อเชิ้ตหรือเดรส นอกจากนี้เสื้อผ้าแล้วเรามักจะเห็นลวดลายนี้ตกแต่งภายในบ้านหรือร้านค้าตามแถวชายทะเล เพราะให้ความรู้สึกสบายตาจึงมีอีกชื่อนึงว่า Block Stripe หรือ Cabana Stripe นั่นเอง

 



8 / 8

ภาพ: nudelucy.com, vogue.com

Barcode Stripe

     ลายนี้ถูกคิดค้นในปี 1951 โดยได้ไอเดียมาจากแถบบาร์โค้ดที่มีลักษณะเป็นห่างกันแบบหลากหลาย ทั้งแบบถี่ติดกันและห่างกันอยู่ในลายเดียวกัน ด้วยความหลากหลายของแถบลายเส้น จึงเหมาะสำหรับใส่เป็นชุดลำลองมากกว่าชุดที่ต้องการความเป็นทางการ ส่วนใหญ่มักใช้ออกแบบกับเสื้อเชิ้ตและกางเกงที่มักจับกันมาเป็นชุดเซต สามารถใส่สบายๆ ในวันธรรมดาหรือใส่ไปเที่ยวก็ได้เช่นกัน

 



WATCH