ชุดชั้นในถือเป็นของจำเป็นสำหรับผู้หญิงทุกคน แต่ถ้าหากชุดชั้นในไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ไม่เพียงจะทำให้เนื้อผ้าเสื่อมสภาพเร็วและสีซีดจางเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและเชื้อราที่สร้างกลิ่นอับและทำให้ระคายเคืองผิวได้ด้วย ฉะนั้นเพื่อให้ชุดชั้นในคงสภาพดี ยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานและถูกสุขอนามัย วันนี้โว้กจึงมีเคล็ด(ไม่)ลับในการดูแลชุดชั้นในมาฝากกัน ตั้งแต่การซัก การตาก และการจัดเก็บที่ถูกต้อง

 

 

การซักชุดชั้นในที่ถูกต้อง

     ชุดชั้นในที่บอบบางทั้งเสื้อชั้นในและกางเกงชั้นใน วิธีที่ดีที่สุดในการซักคือการซักด้วยมือในน้ำเย็นหรือน้ำอุ่น ใช้ผงซักฟอกที่อ่อนโยนและหลีกเลี่ยงการใช้สารฟอกขาว เพราะสารเคมีอาจทำลายเนื้อผ้าได้ กรณีซักเครื่องสามารถทำได้ แต่แนะนำเฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น โดยต้องไม่ลืมใส่ในถุงตาข่ายก่อนและใช้โปรแกรมสำหรับผ้าบอบบาง (โหมดถนอมผ้า) นอกจากนี้ยังไม่ควรใช้เครื่องอบผ้า เพราะความร้อนอาจทำให้ยางยืดและเนื้อผ้าเสียหาย รวมถึงไม่ควรซักชุดชั้นในร่วมกับเสื้อผ้าอื่นๆ ด้วย

 

 

ไม่ควรบิดชุดชั้นใน

     เมื่อซักชุดชั้นในเสร็จเรียบร้อยไม่แนะนำให้บิดน้ำออกแรงๆ เพราะการบิดอาจทำให้ยางยืดที่ขอบชุดชั้นในยืดออกและเสียรูปทรง ซึ่งส่งผลให้ใส่แล้วไม่กระชับกับร่างกาย นอกจากนี้แรงบิดอาจทำให้ตะขอเกี่ยวหลุดออกจากกันได้ เพราะฉะนั้นแทนที่จะใช้วิธีบิดน้ำแรงๆ เปลี่ยนมาเป็นบีบเล็กน้อยหรือกดน้ำออกอย่างเบามือจะดีกว่า

 

 

ควรตากชุดชั้นในในที่ร่ม

     เนื่องจากความร้อนและรังสียูวีจากแสงแดดอาจทำให้ชุดชั้นในหดตัวและสีซีดจางลงได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรตากชุดชั้นในในที่ที่มีแดดจัด ทางที่ดีจึงควรตากชุดชั้นในในที่ร่มและมีอากาศถ่ายเทได้ดี หรือที่ที่มีแสงแดดอ่อนๆ ส่วนวิธีการแขวนชุดชั้นใน แนะนำให้ใช้ตะขอที่ออกแบบมาสำหรับชุดชั้นในโดยเฉพาะ หรือแขวนบนราวให้เป็นระเบียบ ไม่ทับซ้อนกัน

 

 

การจัดเก็บชุดชั้นใน

     วิธีการเก็บเสื้อชั้นในเพื่อรักษารูปทรงและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน แนะนำว่าเมื่อชุดชั้นในแห้งแล้ว ให้วางในลักษณะแบนราบในลิ้นชักหรือตู้ที่มีพื้นที่ยาวกว่าความยาวของเสื้อชั้นในเล็กน้อย โดยวางซ้อนกันจากขนาดเล็กที่สุดที่ด้านล่างไปยังขนาดใหญ่ที่สุดที่ด้านบน ทั้งนี้ไม่ควรพับครึ่งเสื้อชั้นในเพราะจะทำให้โฟมเสียรูปทรงได้

 

 

อายุการใช้งานของชุดชั้นใน

     โดยทั่วไปแล้วชุดชั้นในจะมีอายุการใช้งาน 6-9 เดือน ทว่าอาจแตกต่างกันไปซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ความถี่ในการสวมใส่ คุณภาพของเสื้อชั้นใน และการดูแลรักษา หากดูแลรักษาอย่างถูกต้องชุดชั้นในก็จะอยู่ได้นานขึ้น อาจอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี หรือมากกว่านั้น นอกจากนี้สำหรับผู้ที่มีหน้าอกใหญ่ เสื้อชั้นในอาจสึกหรอได้เร็วขึ้น เนื่องจากวัสดุต้องรับน้ำหนักมากขึ้น เพราะฉะนั้นแนะนำให้มีเสื้อชั้นในอย่างน้อย 3-5 ตัวเพื่อสลับสับเปลี่ยน และเพื่อให้แน่ใจว่าเสื้อชั้นในแต่ละตัวไม่ได้ถูกสวมใส่บ่อยจนเกินไป

 

 

ชุดชั้นในควรเปลี่ยนเมื่อไร

     หากชุดชั้นในไม่สามารถรองรับหรือให้ความสบายได้อย่างเหมาะสมก็ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนใหม่ โดยสัญญาณที่บ่งบอกว่าควรเปลี่ยนเสื้อชั้นในคือยางยืดที่หย่อนหรือหลวมจนทำให้ชุดชั้นในไม่กระชับและไม่สามารถรองรับหน้าอกได้ดี โครงลวดทะลุออกมาเสียดสีกับผิวซึ่งอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือเกิดบาดแผล รวมถึงควรเปลี่ยนหากพบว่ากางเกงชั้นในมีกลิ่นอับหรือมีคราบ เพราะมันบ่งบอกถึงการสะสมของแบคทีเรียหรือเชื้อรา